[ก้าวสู่ปีที่ 31] สี่ปีโครงการจอมป่าในผืนป่าตะวันตก

[ก้าวสู่ปีที่ 31] สี่ปีโครงการจอมป่าในผืนป่าตะวันตก

ภาพเบื้องหน้าของผมเป็นแม่น้ำกว้างหลายสิบเมตร ขวางทางรถลงจากเนินที่พวกเราจะข้ามจากฝั่งหมู่บ้านแม่จันทะไปยังบ้านตะละโค่ง ผมนั่งขอบกระบะหลังรถอยู่กับพี่ซงเงีย อดีตสหายที่เคยทำหน้าที่พยาบาลในสงครามปฏิวัติ พร้อมด้วยชาวบ้านที่ติดรถมาอีกสองสามคน พื้นกระบะมีลังยาที่เราช่วยขนไปส่งให้หมู่บ้านตะละโค่งและซ่องแป๊ะ หมู่บ้านกะเหรี่ยงในป่าลึกที่เรามีโครงการอาสาสมัครสุขภาพชุมชนลุ่มน้ำแม่จัน ซึ่งรวมบุคลากรทางสาธารณสุขของชุมชนทั้งสมัยเก่าใหม่ให้มาสร้างแนวร่วมดูแลชุมชนด้านการรักษาพยาบาลร่วมกัน 

แนวร่วมที่ว่ามีตั้งแต่หมอและพยาบาลสมัยปฏิวัติ หมอตำแย หมอสมุนไพร ไปจนถึงอาสาสมัครมาเลเรียและสาธารสุขรุ่นใหม่ รวมถึงครูกศน. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้หัวหน้าหน่วยทีชอแม แห่งทุ่งใหญ่ที่ชื่อ ชิตชัย 

สองสามวันที่เราจัดประชุมและอบรมทบทวนความรู้ ที่บ้านหม่องกั๊วะ ได้เครือข่ายคนทำงานสุขภาพดังกล่าวในสิบสี่บ้านเกือบห้าสิบคน ซึ่งพอเพียงในการพึ่งพาตนเองสำหรับหน้าฝนที่จะมาถึง

นอกจากได้ยาและอุปกรณ์สำหรับทุกหมู่บ้าน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือกำลังใจที่ทุกฝ่ายต่างได้เติมไฟให้กัน

ภาณุเดช หัวหน้าภาคสนามของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ค่อยๆ เคลื่อนรถผ่านลานกรวดพื้นน้ำไปสู่ฝั่งตรงข้ามอย่างชำนาญทาง เพราะตลอดสี่ปีที่ผ่านมา พวกเราวิ่งเข้าวิ่งออกประสานงานกับชุมชนสิบสี่ชุมชนที่เรียงรายอยู่กลางป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ตะวันออก ที่แอบตัวลึกลับเป็นป่าใหญ่ใจกลางพื้นที่มรดกโลก ห้วยระหว่างห้วยขาแข้งและทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อาจารย์รตยา จันทรเทียร ประธานมูลนิธิสืบในวัยเพิ่งครบเจ็ดสิบหกนั่งอยู่ด้านหน้าคู่คนขับอย่างวางใจเนื่องจากคุ้นเคยกับทั้งภูมิประเทศและฝีมือสารถี

ผมรู้ว่าอาจารย์รตยาสบายใจ และมีความสุขที่เห็นภาพกิจกรรมร่วมกันระหว่างชุมชนกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในเรื่องต่างๆ รวมถึงการมีกระบวนการตกลงสำรวจแนวเขตไร่นาและขอบป่าร่วมกัน สี่ปีที่ผ่านมามูลนิธิเข้าไปทำหน้าที่เพียงประสานความร่วมมือในเบื้องต้นตามโครงการจอมป่าหรือโครงการจัดการพื้นที่คุ้มครองอย่างส่วนร่วม (Joint Management of Protected Area-JoMPA) ที่เราและกรมอุทยานฯ ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเดนมาร์คเพื่อมีส่วนร่วมรักษาป่าเขตร้อนให้กับโลก จากนั้นดูเหมือนสัมพันธ์ภาพที่ดีของชุมชนกับเจ้าหน้าที่ระดับพื้นที่ ก็เริ่มเกิดขึ้นหลังจากดำรงความขัดแย้งมานานปี

ผมคิดตามน้ำแม่จันล่องไปสบแม่กลองที่ด้านทิศใต้ใกล้ๆ นั้น พลางนึกถึงพื้นที่คุ้มครองต่อเนื่องจากป่าอุ้มผางไปยังฝั่งกาญจนบุรี กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี และสุพรรณบุรีที่มีผืนป่าตะวันตกเชื่อมพื้นที่กันอยู่ และในช่วงเวลาเดียวกันนี้กำลังมีเจ้าหน้าที่ภาคสนามของเราทำงานกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้ลดความขัดแย้งและร่วมกันรักษาป่ากับชุมชน อาจารย์รตยาพูดเสมอว่า ป่าอยู่ได้ คนอยู่ได้ และเสือก็ต้องอยู่ได้ 

สี่ปีที่ผ่านมาพวกเรารู้จักกับชุมชนในผืนป่าตะวันตกกว่าหกสิบชุมชนจากร้อยชุมชน ร่วมกันทำงานเพื่อสร้างแนวทางให้ชุมชนมีวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับผืนป่า มีศักยภาพพึ่งพาตนเองตามวิถีพอเพียง และสำรวจแผนที่ที่จะนำข้อตกลงที่อยู่ร่วมกันได้ของคนกับป่าออกมา  

ระลอกน้ำกระเพื่อมสวยออกจากล้อรถไปตามริ้วเขียวใสของสีน้ำแม่จัน แต่ล้อหน้าซ้ายฝั่งที่ผมนั่งเหมือนกระทบอะไรสักอย่างใต้ผืนน้ำ และไม่สามารถเดินหน้าผ่านไปได้ แม้ว่ารถคันหน้าของเขตทุ่งใหญ่จะนำทางหลุดขึ้นตลิ่งพ้นขอบตาไปได้ก่อนแล้ว

ภาณุเดช พยายามขยับรถหลบขอนไม้ที่ฝังดินขวางล้อให้หลุดไป แต่เมื่อขยับอีกครั้งกลับทำให้ล้อตะกุยก้อนกรวดที่รองรับออกไปถึงชั้นดินทรายและถูกล้อรถตะกุยลึกลงเป็นผลให้หน้ารถเอียงทรุดไปทางซ้าย ผมรู้สึกถึงวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่ววินาทีนั้น ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโดดลงจากรถลุยน้ำไปยกดันหน้ารถเอาไว้ สัมผัสน้ำหนักที่น้ำประคองรถช่วยแรงอยู่ทำให้ชะลอการทรุดลงได้ชั่วขณะ

โคลนดิน ที่ถูกรถตะกุยทำน้ำรอบตัวผมขุ่นและไหลปะทะร่างกายแทบจะลอยหลุดจากภาระที่ยกดันอยู่ แม่น้ำแม่จันที่เราคุ้นเคยไหลกระแทกรถให้ท้ายลอยหน้าจม เหมือนเตือนว่าหากผมและชาวบ้านดันไว้ไม่อยู่รถทั้งคันจะต้องพลิกคว่ำอย่างแน่นอน

คณะเดินทางชุลมุนอยู่รอบรถ ทั้งยกทั้งดัน ผมโหวกเหวกให้ขนของขึ้นไปให้หมดโดยเฉพาะลังยาที่เป็นเป้าหมายของภารกิจที่เรามาเยือน เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมารถเราคันนี้เคยจมในน้ำทั้งคันมาครั้งหนึ่งแล้วในลำห้วยโรคี่ฝั่งทุ่งใหญ่ตะวันตก ถึงตอนนี้แม้มีชาวบ้านมาช่วยกันดันข้างหน้ารถอยู่กับผมแต่ล้อหลังที่เริ่มลอยขึ้นทำให้แรงเสียดทานของล้อรถมีไม่พอที่จะขยับถอยออกจากขอนไม้ได้

อาจารย์รตยา ปีนข้ามฝั่งคนขับออกทางอีกฝั่งไปได้ก่อนที่หน้ารถด้านซ้ายจะทรุดจมลงอีกระดับหนี่ง น้องเอ็ม เจ้าหน้าที่ภาคสนามสาวของเราใช้วิทยุสื่อสารเรียกรถคันหน้าที่มีคนมากกว่าให้รีบมาช่วย

ผมไม่รู้ว่าเราจะรอในสภาพนี้อยู่ได้นานเท่าไหร่ ในใจนึกอยู่ถึงกระบวนการที่ต้องทำหลังจากรถคว่ำ 

ก่อนที่ผมจะสละรถ ยุทธชัย เจ้าหน้าที่ภาคสนามร่างใหญ่ของมูลนิธิวิ่งลงมาจากเนินพร้อมกับชิตชัย และชาวบ้านหลายคนที่มาจากรถคันหน้า และแทบไม่ต้องสื่อสารอันใดยุทธชัยกระโดดขึ้นขย่มด้านหลังรถให้ล้อติดพื้น ภาณุเดชรอจังหวะแล้วเร่งเครื่องถอยหลังพร้อมกับแรงดันจากพวกเราที่ผลักอยู่ที่กระโปรงหน้ารถ ในขณะที่ระดับน้ำเริ่มท่วมถึงระดับไฟหน้า และรถเอียงจนน้ำเข้าในตัวรถทางฝั่งที่ผมดันอยู่แล้ว

ในวินาทีนั้นคนขับของเราเคลื่อนรถถอยหลังไปได้ และเข้าสู่สภาพปกติวิ่งอ้อมขอนไม้ขึ้นไปจอดบนตลิ่งอย่างปลอดภัย

เสียงหัวเราะ และคำหยอกล้อ ดังประสานกับเสียงน้ำแม่จันที่ไหลกระทบเซาะฝั่ง ภาพแห่งความสุขเกิดขึ้นหลังจากทั้งหมดเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่น่าระทึกใจร่วมกัน และแน่นอนว่านี่ย่อมไม่ใช่ครั้งแรกที่เราประสบเหตุตื่นเต้นแบบนี้ ในทุกพื้นที่ของผืนป่าล้วนบันทึกเรื่องราวและความทรงจำที่น่าประทับใจไว้ตลอดที่เราทำงาน

ผมไม่รู้ว่าวันข้างหน้าเราจะเจออะไรอีกบนหนทางและสถานการณ์ แต่รู้อย่างเดียวว่า เราน่าจะเดินมาไม่ผิดทางและวันนี้เป้าหมายที่ชัดเจนกำลังใกล้เข้ามา 

มีขอนไม้แห่งอุปสรรคขวางทางอยู่นับหมื่นแสนท่อนซ่อนในกระแสน้ำแห่งความเห็นต่าง และความเข้าใจไม่ตรงกัน กระแสน้ำไหลเชี่ยวขวางทางอยู่อีกหลายฤดูฝน

แต่เราจะฝ่าข้ามไป 

 


หมายเหตุ : เขียนเมื่อครบสี่ปีโครงการจัดการพื้นที่คุ้มครองอย่างมีส่วนร่วมในระยะแรก ในปี 2551

ผู้เขียน

Website | + posts

ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร (18 กันยายน 2558 - ปัจจุบัน)