เมื่อสัตว์ต่างถิ่นรุกรานมากเกินจนสัตว์ท้องถิ่นเริ่มสูญพันธุ์ อะไรคือทางออกที่ดีที่สุด

เมื่อสัตว์ต่างถิ่นรุกรานมากเกินจนสัตว์ท้องถิ่นเริ่มสูญพันธุ์ อะไรคือทางออกที่ดีที่สุด

หากได้ติดตามหน้าเพจมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เราได้ลงข่าว “อิกัวน่าบุกเมืองลพบุรี” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความน่ากลัวของสัตว์ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ที่อาจเข้ามาทำลายและรุกรานระบบนิเวศท้องถิ่น จนเกิดความเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติในหลายด้าน อาทิ พืชประจำถิ่นลดจำนวนลง หรืออาจรุนแรงถึงสัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่นั้นเลยก็มี 

วันนี้เราจะกลับมาพูดถึงประเด็นนี้กันอีกครั้ง เนื่องจากปัจจุบันหลายพื้นที่ทั่วโลกกำลังประสบกับปัญหาการรุกรานจากชนิดพันธุ์ต่างถิ่นเพิ่มมากขึ้น อย่างในป่าชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญหน้ากับนกเค้าต่างถิ่นสายพันธุ์ Barred Owl ที่เข้าไปรุกรานถิ่นที่อยู่อาศัยของนกเค้าจุด (Spotted Owl) ซึ่งเป็นนกประจำถิ่นของป่าในแถบนี้ จนทำให้องค์การบริหารปลาและสัตว์ป่าสหรัฐฯ เริ่มปรึกษาหารือกันถึงทางออกของปัญหาดังกล่าว โดยวิธีที่พวกเขาคิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดคือการฆ่านกเค้า Barred Owl ด้วยการยิงทิ้ง จนมาสู่การตั้งคำถามต่อว่า การฆ่าสัตว์รุกรานต่างถิ่นนั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการกำจัดสัตว์ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นหรือไม่ ? หรือเรามีวิธีที่ดีกว่านั้น ?

ประจำถิ่น VS ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกราน 

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า สัตว์ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกรานอันตรายอย่างไรบ้าง แล้วทำไมเราถึงต้องจริงจังกับเรื่องนี้ โดยชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกราน (Invasive Alien Species) คือ ชนิดพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่ชนิดพันธุ์ท้องถิ่น ซึ่งพวกมันสามารถเข้ามาสู่ระบบนิเวศท้องถิ่นนั้น ๆ ได้ด้วยกันหลายสาเหตุ อาทิ การอพยพจากที่หนึ่งมาอีกพื้นที่หนึ่ง หรือ การที่มนุษย์นำเข้ามาทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ จนกลายเป็นชนิดพันธุ์เด่นในระบบนิเวศนั้น ๆ

สัตว์หรือพืชชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกรานนั้น อาจเรียกได้ว่าคือ หายนะของระบบนิเวศเลยก็ว่าได้ พวกมันไม่เพียงแต่แย่งที่อยู่อาศัยหรือแหล่งอาหารเท่านั้น ทว่าพวกมันสามารถทำให้พืชหรือสัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่นั้น ตลอดจนทำลายความหลากหลายทางชีวภาพและเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศในพื้นที่บริเวณดังกล่าวไปอย่างถาวร 

กรณีนกเค้า barred owl เข้ารุกรานถิ่นที่อยู่ของนกเค้าจุด spotted owl

ปัจจุบันสหรัฐฯ กำลังประสบปัญหานกเค้า barred owl คุกคามนกเค้าจุดอย่างหนักในพื้นที่ป่าชายฝั่งด้านตะวันตกและป่าทางตอนเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำคัญของนกเค้าจุด ความอันตรายของการรุกรานในครั้งนี้คือ นกเค้า barred owl มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าและดุดันกว่า อีกทั้งพวกมันยังสามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ได้ดีกว่านกเค้าจุด ทำให้พวกมันสามารถแย่งพื้นที่อาศัย ตลอดจนอาหารของนกเค้าจุดไปจนนกเค้าจุดไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ 

แรกเริ่มเดิมทีนกเค้าจุดนั้นมีสถานะที่ค่อนข้างอ่อนแออยู่แล้วตามธรรมชาติ ยิ่งมาเจอการรุกรานจากนกที่เรียกได้ว่าเป็น ‘คู่แข่ง’ กันอีก ก็ยิ่งทำให้พวกมันตกอยู่ในที่นั่งลำบาก และอาจจะต้องเป็นพวกมันเองที่ต้องแพ้ไปในสังเวียนนี้ 

จากงานวิจัยประชากรนกเค้าจุดในปี 2021 ชี้ให้เห็นว่า ประชากรนกเค้าจุดลดลงอย่างเห็นได้ชัดในพื้นที่ที่มีการอพยพเข้ามาของนกเค้า barred owl โดยงานวิจัยชิ้นนี้ได้ศึกษาพื้นที่ตัวอย่างทั้งหมด 11 แห่ง และได้พบว่าประชาการนกเค้าจุดลดลงไปตั้งแต่ 2-9% ต่อปี 

องค์การบริหารปลาและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ U.S. Fish and Wildlife Service ผู้ที่รับผิดชอบกรณีการคุกคามของนกเค้า barred owl ระบุว่าการกำจัดด้วยวิธี การฆ่า เป็นทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ โดยเผยแพร่ร่างข้อเสนอดังกล่าว ออกมาและเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 16 มกราคม ที่จะถึงนี้

โรบิน บราวน์ นักชีววิทยาขององค์การบริหารปลาและสัตว์สหรัฐฯ กล่าวว่า “ถ้าหากเราไม่จัดการกับการรุกรานของสัตว์รุกรานต่างถิ่นอย่างจริงจัง อาจทำให้สัตว์อีกชนิดสูญพันธุ์ไปได้เลย ดังนั้นเราจำเป็นต้องฆ่านกเค้า barred owl มากกว่า 470,000 ตัว เพื่อรักษาอีกสายพันธุ์เอาไว้”  

แล้วเราควรกำจัดสายพันธุ์หนึ่งเพื่อรักษาอีกสายพันธุ์เอาไว้หรือไม่ 

อิโซเบล ฮัตชินซัน ผู้อำนวยการ Animal Aid เคยกล่าวถึงประเด็นการกำจัดสัตว์สายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งเพื่อรักษาระบบนิเวศดั้งเดิมเอาไว้ เมื่อกรณีของหนูขนาดใหญ่กำลังทำลายพื้นที่อยู่อาศัยของนกหายากบนเกาะแห่งหนึ่งในทวีปอเมริกาใต้

“พวกเราไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกช่วยสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งและกำจัดสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่ง การอนุรักษ์มีหน้าที่ในการดูแลพื้นที่ธรรมชาติให้สมบูรณ์ ส่วนการคัดสรรสิ่งมีชีวิตที่จะอยู่รอดนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของธรรมชาติ ดีกว่าจะให้เราที่เป็นคนนอกเข้าไปควบคุมหรือตัดสินชีวิตของสัตว์ที่เราไม่ชอบ” 

อย่างไรก็ดี มีความพยายามจากหลายหน่วยงานที่กำลังวิจัยและหาวิธีที่สามารถควบคุมประชากรสัตว์รุกรานได้โดยที่ไม่ต้องใช้วิธีที่รุนแรง อาทิ การใช้ยาคุมกำเนิดในบางพื้นที่ ซึ่งสามารถควบคุมได้มากถึง 85 – 90 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว แต่นั้นอาจคงไม่เพียงพอต่อกรณีที่สัตว์มีจำนวนมากมายและยากจะควบคุมเหมือนกรณีนกเค้า barred owl ที่ได้กล่าวไป 

แล้ววิธีใดเล่าที่จะสามารถจัดการกับปัญหาการรุกรานจากชนิดพันธุ์ต่างถิ่นได้ ดังนั้นคำตอบของคำถามที่ว่า ‘เราควรฆ่าสัตว์อีกชนิดเพื่อรักษาอีกชนิดหนึ่งไว้ไหม’ คงจะไม่สามารถตอบได้ในบทความนี้ เนื่องจากโลกของเรานั้นไม่ได้มีเพียงแค่ขาวกับดำ ถูกหรือผิด ควรหรือไม่ควร แต่มันยังมีคำตอบอื่น ๆ ที่สามารถตอบปัญหานี้ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้ว ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงในแวดวงวิชาการต่อไปดีกว่า เราเชื่อว่าพวกเขาจะต้องหาทางออกที่ได้สุดของปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน 

อ้างอิง

ภาพประกอบ

ผู้เขียน

+ posts

หนุ่มน้อยผู้หลงรักความไม่สมบูรณ์แบบ ออกเดินทางเพื่อเก็บภาพความงดงามของธรรมชาติ และชอบอ่านวรรณกรรมเป็นชีวิตจิตใจ