วิกฤตไฟป่าแคนาดา รุนแรงจนอาจทำให้สัตว์ป่าบางชนิดสูญพันธุ์ 

วิกฤตไฟป่าแคนาดา รุนแรงจนอาจทำให้สัตว์ป่าบางชนิดสูญพันธุ์ 

สถานการณ์ไฟป่าในประเทศแคนาดา ล่าสุดได้ลุกลามพื้นที่ป่าไปแล้วราว ๆ 48,000 ตารางกิโลเมตร ฝุ่นควันทำท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้ม อุดมด้วยมลพิษ กระทบต่อความเป็นอยู่ของผู้คนจำนวนมาก จนหน่วยงานทางด้านสิ่งแวดล้อมและทางการแพทย์ต้องออกประกาศเตือนให้ประชาชนงดกิจกรรมกลางแจ้ง 

นอกจากมนุษย์ที่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากไฟป่าแล้ว สัตว์ป่าก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน และอาจหนักถึงขั้นที่ทำให้สัตว์ป่าบางชนิดเกิดความสุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์กันเลยทีเดียว  

ไฟป่าถือเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่อันตรายที่สุดของสัตว์ป่า หากป่าอันเป็นพื้นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสัตว์ป่าถูกทำลายไป นั่นหมายความสัตว์ป่าเองก็จะไม่มีอาหารและที่อยู่ ท้ายที่สุดการไม่มีผืนป่าจึงหมายถึงการไม่มีสัตว์ป่า 

Steeve Côté นักชีววิทยาชาวแคนาดากล่าวว่า “ผลกระทบของไฟต่อสัตว์ป่านั้นจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละสายพันธุ์ กล่าวคือ สัตว์ป่าบางชนิดก็สามารถย้ายถิ่นได้อย่างรวดเร็ว เช่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ อย่าง หมาป่า กวาง หรือกวางมูส เป็นต้น แต่กับบางสปีชีส์ที่มีขนาดเล็ก ๆ หรือมีข้อจำกัดอื่น ๆ ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว อาจทำให้ได้รับผลกระทบมากกว่าสัตว์ชนิดอื่น”  

ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์ป่าบางชนิดจำเป็นต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และทำความคุ้นชินกับแหล่งอาหารใหม่ และในบางครั้งก็อาจไม่สามารถหาแหล่งทรัพยากรทดแทนแหล่งเดิมได้  

นกกระเรียนกู่ (Whooping Crane) คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าแคนาดาในปีนี้ ยิ่งไปกว่านั้นนกกระเรียนกู่อยู่ในสถานะสัตว์ที่เสี่ยงขั้นวิกฤตต่อการสูญพันธุ์ด้วย ทำให้สถานการณ์ของนกชนิดดังกล่าวตกเป็นที่น่าเป็นห่วงของหลายฝ่าย  

Whooping crane l Wikipedia

Gráinne Michelle McCabe หัวหน้าเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ของ Wilder Institute กล่าวว่า “นกกระเรียนกู่เป็นนกอพยพมาจากอุทยานแห่งชาติ Wood Buffalo ใน อัลเบอร์ตาไปยังอ่าวเม็กซิโก ซึ่งไฟป่าที่เกิดขึ้นนี้เข้าไปทำลายถิ่นที่อยู่ของพวกมัน ตลอดจนคุกคามประชากรที่น้อยนิด นี่จึงอาจนำไปสู่การสูญพันธุ์ของนกกระเรียนกู่”  

ไฟป่าไม่ได้แค่ส่งผลต่อสุขภาพและร่างกายของนกเท่านั้น ทว่ายังส่งผลต่อการสื่อสารและการย้ายถิ่นฐานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนก ซึ่งควันมีผลต่อระบบทางเดินหายใจในระยะยาว การสื่อสารระหว่างกันในฝูง และการลดความสามารถในการหาคู่ครองลง ที่สำคัญหากผืนป่าถูกทำลาย พวกมันก็ไม่มีพื้นที่สำหรับทำรังด้วย  

ด้วยเหตุนี้เองนกกระเรียนกู่จึงตกเป็นเป้าหมายสำคัญของนักอนุรักษ์ที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษถึงความเสี่ยงสูญพันธุ์ของพวกมันจากฤดูไฟป่าในครั้งนี้  

สถานการณ์ไฟป่าแคนาดาในปัจจุบันก็ยังคงเผาทำลายในหลายพื้นที่อยู่ และคาดว่าอาจจะยาวตลอดฤดูร้อนเลย ทำให้สัตว์อีกหลายสายพันธุ์ต่างก็ตกอยู่ในความเสี่ยงและอันตรายต่อสปีชีส์ของพวกมัน ว่าจะอยู่รอดไปถึงยุคต่อไปหรือไม่

อ้างอิง  

ผู้เขียน

+ posts

หนุ่มน้อยผู้หลงรักความไม่สมบูรณ์แบบ ออกเดินทางเพื่อเก็บภาพความงดงามของธรรมชาติ และชอบอ่านวรรณกรรมเป็นชีวิตจิตใจ