[ก้าวสู่ปีที่ 31] พื้นที่กาญจนบุรี

[ก้าวสู่ปีที่ 31] พื้นที่กาญจนบุรี

วันตัดสินยึดทรัพย์คุณทักษิณ ผมประชุมทีมงานอยู่ที่กาญจนบุรีครับ คืนก่อนประชุมผมผูกเปลนอนอยู่ที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติทุ่งนางครวญที่พวกเราใช้เป็นฐานปฏิบัติการอยู่ที่กลางป่าลำคลองงูมากว่า 7 ปี จำได้ว่าผมเริ่มงานเป็นจริงเป็นจังกับมูลนิธิสืบก็ที่นี่ ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นการหารือกับพงษ์ศักดิ์เพื่อทำงานสำรวจพื้นที่ไร่หมุนเวียนที่หมู่บ้านคลิตี้ล่างที่ตอนนั้นสถานการณ์เรื่องพิษสารตะกั่วในลำห้วยจากเหมืองแร่ยังคงโด่งดัง

มาถึงปัจจุบันเรายังคงทำงานอย่างต่อเนื่องที่คลิตี้ ทำงานต่อเนื่องกับศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ และพื้นที่เตรียมประกาศอุทยานลำคลองงูก็เป็นพื้นที่ที่ทำงานได้ผลเข้มข้นพื้นที่สำคัญของโครงการจอมป่า

การประชุมที่เมืองกาญจน์ได้ผลดี ต้องชมเชยความตั้งใจในการเตรียมข้อมูลของทีมงานที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาระบบการทำงานของสำนักงานเข้าสู่ความเป็นมืออาชีพอย่างผิดหูผิดตา

เราได้แผนการเข้าไปจัดงานบางอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ใช้ประโยชน์ชุมชนบ้านคลิตี้ล่างและคลิตี้บนที่ซ้อนทับอยู่กับพื้นที่อุทยานที่เพิ่งประกาศ ได้คุยให้กำลังใจพงษ์ศักดิ์ ที่ทำงานอยู่ที่คลิตี้มาแต่ต้นว่านี่อาจเป็นโอกาสดีที่พวกเราจะแสดงให้เห็นว่าเราไม่เคยทอดทิ้งชาวบ้านอย่างที่เพื่อน NGO บางกลุ่มว่ากล่าว หรือไม่ได้เข้าข้างฝ่ายป่าไม้อย่างเดียวอย่างที่เขาเข้าใจ 

เรื่องแบบนี้สิ่งที่พยายามทำมาอาจไม่มีใครเห็นแต่ขอให้รอดูกันยาวๆ คงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้วความจริงคืออะไร เพราะถ้าวัดความจริงกันแล้วเราย่อมไม่มีอะไรต้องกลัว

การทำงานที่อุทยานเขาแหลมรวดเร็วและคืบหน้ากว่าที่คิด มีกำหนดการอบรมผู้นำชุมชนเรื่องกระบวนการมีส่วนร่วมที่พวกเราได้รับความไว้วางใจจากอุทยานฯให้เข้าไปช่วยอย่างเต็มที่ งานนี้น่าจะเป็นกลไกสำคัญในการทำงานในขั้นต่อไป ซึ่งเข้าใจว่าอุดมน่าจะใช้โอกาสนี้เป็นช่องในการประกาศตัวตนของพวกเราได้เต็มที่

ที่ทุ่งใหญ่ตะวันตก แม้จะมีปัญหาอุปสรรคจากหลายปัจจัยแต่งานกลับก้าวหน้าอย่างน่าทึ่ง เด็กหนุ่มอย่างปราโมทย์เติบโตอย่างแข็งแรงทั้งประสบการณ์และความคิดอ่าน แผนที่ไร่หมุนเวียนที่กองม่องทะบอกให้เรารู้ว่าความต่างของไร่เลื่อนลอยกับไร่หมุนเวียนคืออะไร ตอนนี้โมเดลใหม่ที่สเนพ่องกำลังเกิดขึ้น วันนี้เมื่อทางเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์มามองในทิศทางเดียวกับเรา ปัญหาที่เคยมีมาย่อมหมดไปแต่ความสำเร็จคงต้องใช้เวลาอีกสักพัก

เดือนหน้าทั้งเดือนเป็นเดือนที่ทุกพื้นที่มีงานเต็มมือ แต่ทุกคนยังคงกำหนดนัดพบกันเพื่ออบรมเสริมความรู้ประจำปีที่ธารลอดวันที่ 5-7 มีนาคมอยู่ ซึ่งผมดีใจที่เราจะได้พบกันพร้อมหน้า เนื่องจากอาจารย์ยงยุทธ์ จรรยารักษ์ ปรมาจารย์ด้านนิเวศวิทยาของผมตั้งแต่ครั้งเรียนอยู่จุฬาฯ รับปากจะมาเยี่ยมและถ่ายทอดความรู้ให้เราอีกครั้ง หลังจากที่เคยมาช่วยพวกเราแต่ครั้งเริ่มโครงการ ผมคิดว่าครั้งนี้การเติบโตของพวกเราคงทำให้พัฒนาความคิดความเข้าใจต่อกระบวนการของอาจารย์ได้มาก และแน่นอนว่าจะเป็นการขยายผลออกไปสู่การอนุรักษ์ผืนป่าตะวันตกได้อย่างแน่นอน

เดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯ ขณะที่การอ่านคำพิพากษาเริ่มขึ้นมาระยะหนึ่ง รถราสถานการณ์เงียบสงบ เราไม่รู้ว่าสมรภูมินี้จะยาวนานไปเพียงใด และสุดท้ายใครจะเป็นผู้ชนะ สิทธิของการเอาใจช่วยใครย่อมเป็นสิทธิเฉพาะตนเอง การวิวาทะบางทีก็นำไปสู่สติปัญญา แต่บางทีก็นำไปสู่การเพิ่มอัตตาให้พอกหนาขึ้น ปริศนาธรรมมากมายปรากฏในสมรภูมิ บททดสอบมากมายได้ถูกตอบจากทุกฝ่าย ผ่านบ้างไม่ผ่านบ้าง แต่นั่นก็เป็นธรรมดาของโลก

แปลกใจที่จนบัดนี้เราก็ไม่สามารถเป็นกลาง หรือวางอุเบกขาได้สักที ในสมรภูมิการเมืองเรื่องของคุณทักษิณ ทั้งๆ ที่พื้นที่สมรภูมิของเรานั้นอยู่ห่างกันคนละมิติ

ผมคงจะต้องไปเดินป่าทางไกลเร็วๆ นี้คงจะดีนะครับ

ผู้เขียน

Website | + posts

ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร (18 กันยายน 2558 - ปัจจุบัน)