24 กันยายน 2568 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา แสดงความกังวลต่อร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมด้านที่ดินและป่าไม้ 2 ฉบับ ที่เสนอโดยพรรคประชาชนและพรรคประชาชาติ หลังสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการในวาระที่ 1 และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาวาระที่ 2
นายชีวะภาพระบุว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลที่สุดในชีวิตราชการของตน และย้ำชัดว่า “ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง” เพราะจะสร้างผลกระทบรุนแรงต่อระบบนิเวศอย่างต่อเนื่อง เพราะแตกต่างจากกฎหมายสิ่งแวดล้อมใหม่ เช่น พ.ร.บ.อากาศสะอาด หรือ พ.ร.บ.โลกร้อน ที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตประชาชน
ขณะที่ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมป่าไม้ฉบับนี้ อาจนำไปสู่การสูญเสียพื้นที่ป่า ซึ่งประเทศไทยสูญเสียป่าเฉลี่ยปีละราว 1 ล้านไร่นับตั้งแต่ปี 2516 ทั้งยังส่งผลกระทบต่อคดีเก่าที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีหลายล้านไร่ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกฟ้องตามมาตรา 54 และมาตรา 14 ของ พ.ร.บ. ป่าไม้ และ พ.ร.บ. ป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
คดีที่อาจเข้าข่ายได้รับการนิรโทษกรรม เช่น คดีที่หาดสิรินาถ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นที่ดินในเขตอุทยานฯ และป่าสงวนแห่งชาติ มีมูลค่าสูงถึงหลายหมื่นล้านถึงแสนล้านบาท หรือคดีที่ดินกว่า 8,000 ไร่ ในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งเกี่ยวข้องกับเจ้าสัวเสือดำ โดยนายชีวะภาพกล่าวว่า “วิญญาณเสือดำคงนอนตายตาไม่หลับหากกฎหมายนี้ผ่าน”
นอกจากนี้รวมถึงคดีที่ดินวาเลนติโน บนเกาะยาว หลายพันไร่ ที่เคยสร้างวิกฤตเศรษฐกิจ และคดีบุกรุกสวนทุเรียนของกลุ่มทุนต่างชาติในพื้นที่ภาคตะวันออกรวมหลายพันไร่ ก็จะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับอานิสงส์
หากร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้ ผู้ต้องหาสามารถกลับเข้าครอบครองที่ดิน และบางส่วนยังอาจนำไปออกเอกสารสิทธิ์ได้ ซึ่งสร้างผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของกรมที่ดินและบิดเบือนระบบการออกเอกสารสิทธิ์ที่มีอยู่ อีกทั้งกระบวนการนิรโทษกรรมถูกออกแบบให้ง่ายและรวดเร็ว ผู้ต้องหายื่นคำร้องและกรรมการสามารถพิจารณาเสร็จภายใน 3 วัน สร้างความกังวลว่าจะบ่อนทำลายกระบวนการยุติธรรมและคำพิพากษาของศาลที่มีอยู่แล้ว
นายชีวะภาพชี้ว่า ผู้ได้รับประโยชน์จากกฎหมายนี้คือกลุ่มทุน ไม่ใช่ผู้ยากไร้อย่างที่อ้าง คดีกว่า 20,000 คดีที่ถูกนำมาอ้างเป็นเหตุผลนั้น เจ้าหน้าที่ได้คัดกรองแล้วตามคำสั่ง คสช. 66 และมติ ครม. 41 ซึ่งช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนจริงอยู่แล้ว แต่ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้กลับหยิบยกคำสั่ง 64 มาอ้างเพื่อสร้างความเข้าใจผิด
นอกจากนี้โครงสร้างคณะกรรมการกลั่นกรองยังประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายก อบจ. ยุติธรรมจังหวัด เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1 คน และผู้เชี่ยวชาญ 3 คน ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่ามี “เจตนาเอื้อประโยชน์” และเปิดโอกาสให้เกิดการวิ่งเต้น โดยเฉพาะการกำหนดผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ชัดเจน
นายชีวะภาพเรียกร้องให้ถอนร่างกฎหมายออกจากการพิจารณา พร้อมเตือนว่า หากปล่อยให้ผ่าน จะทำให้ผู้ลักลอบเผาป่าได้รับการนิรโทษกรรม และนำไปสู่การสูญเสียพื้นที่ป่าเพิ่มอีกนับล้านไร่ โดยเน้นย้ำว่า ส.ส. ผู้สนับสนุนร่างกฎหมายควรตระหนักถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศ
พร้อมเสนอให้ใช้กลไกที่มีอยู่แล้วเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้อย่างแท้จริง และเรียกร้องให้นักวิชาการด้านป่าไม้ นักศึกษาและอาจารย์จากคณะวนศาสตร์ ออกมาแสดงจุดยืนและสื่อสารข้อเท็จจริงต่อสังคม เพื่อปกป้องระบบนิเวศจากกฎหมายที่ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุน
ผู้เขียน
นักสื่อสารผู้หลงใหลในธรรมชาติ เชื่อว่าการเล่าเรื่องที่ดีสามารถเปลี่ยนมุมมองและปลุกพลังการอนุรักษ์ได้