พ.ร.บ. อากาศสะอาดสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนพึงได้รับอย่างเท่าเทียมกัน

พ.ร.บ. อากาศสะอาดสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนพึงได้รับอย่างเท่าเทียมกัน

ในห้วงเวลาที่ปัญหา ฝุ่น PM2.5 กลายเป็นวาระแห่งชาติ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนไทยเป็นวงกว้าง ประเด็นเรื่อง “ร่างกฎหมายอากาศสะอาด” ก็ถูกผลักดันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นหมุดหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เอกสาร แต่เป็นความหวังที่คนไทยจำนวนมากฝากไว้ เพื่อให้สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่

ทำไมต้องมีกฎหมายอากาศสะอาด?

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม การจราจร การเผาในที่โล่ง หรือแม้แต่มลพิษข้ามพรมแดน ปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้ประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ขณะเดียวกันก็ฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะในแง่ของการท่องเที่ยว

แม้จะมีความพยายามในการแก้ไขปัญหา แต่กลไกและกฎหมายที่มีอยู่เดิมอาจยังไม่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเพียงพอ การมีกฎหมายอากาศสะอาด โดยเฉพาะ จึงเป็นการยกระดับการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปอย่างมีระบบ มีความชัดเจนในบทบาทหน้าที่ของทุกภาคส่วน และมีเครื่องมือทางกฎหมายที่เข้มแข็งในการควบคุม ป้องกัน และจัดการมลพิษอย่างรอบด้าน

หัวใจสำคัญในร่างกฎหมายอากาศสะอาด

ร่างกฎหมายอากาศสะอาดที่ถูกผลักดันโดยหลายภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคการเมือง ต่างมีสาระสำคัญที่มุ่งเน้นการสร้างกลไกที่ครอบคลุม เพื่อให้มั่นใจว่าอากาศสะอาดจะเป็นสิทธิที่ประชาชนได้รับโดยมีประเด็นหลัก ๆ คือรับรองสิทธิในอากาศสะอาด

หลายฉบับในร่างกฎหมายเน้นย้ำว่า อากาศสะอาดคือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ที่รัฐต้องจัดหาและคุ้มครอง สิ่งนี้จะเป็นการสร้างหลักประกันทางกฎหมายที่ชัดเจน เพื่อกำหนดนโยบาย รวมถึง การกระจายอำนาจ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทและงบประมาณในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ

ร่างกฎหมายจะครอบคลุมมาตรการควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น โรงงานอุตสาหกรรม ยานพาหนะ การเผาในที่โล่ง รวมถึงการจัดการ มลพิษข้ามพรมแดน โดยอาจรวมถึงการกำหนดมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้น เพื่อลดสาเหตุของการเกิดมลพิษ

ความคืบหน้าและความหวัง

ปัจจุบัน ร่างกฎหมายอากาศสะอาดหลายฉบับอยู่ระหว่างการพิจารณาในรัฐสภา โดยมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุด คณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด เสร็จสิ้นแล้ว และเริ่มมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีว่ากฎหมายฉบับนี้กำลังจะเห็นเป็นรูปธรรม

ในไม่ช้าการมีกฎหมายอากาศสะอาดเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยก้าวพ้นวิกฤตมลพิษทางอากาศ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าจะได้รับอากาศที่สะอาดและปลอดภัย สามารถสูดหายใจได้เต็มปอด อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนพึงได้รับอย่างเท่าเทียมกัน

สามารถร่วมทำแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …(ถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2568)

ผู้เขียน

+ posts

นักสื่อสารผู้หลงใหลในธรรมชาติ เชื่อว่าการเล่าเรื่องที่ดีสามารถเปลี่ยนมุมมองและปลุกพลังการอนุรักษ์ได้