พะยูนซูบผอม วิกฤตหญ้าทะเลเกาะลิบง 

พะยูนซูบผอม วิกฤตหญ้าทะเลเกาะลิบง 

เมื่อไม่นานมานี้เพจเฟซบุ๊ก รีวิวตะรังตรัง ไบรท์ สาวตรังพาลุย โพสต์ข้อความว่า “จะร้องแล้ว” พะยูนผอมมาก ท่าเรือบ้านพร้าวเกาะลิบงไม่มีใครสนใจ รอให้ตายหมดก่อนเหรอคับ หญ้าก็หาย. ตะกอนจากการก่อสร้างก็ไม่มีใครทำอะไร บอกใครก็ไม่สนใจ มารวมกันช่วยหน่อยได้ป่าว หลายเดือนแล้วไม่บูมเลย พะยูนตายทุกคนก็เฉยๆ สภาพแย่ลงไปทุกวัน หญ้าเหลือน้อยแล้วนะ ขอความสนใจหน่อย ปีนี่ตายไปหลายตัวแล้วนะ 

พร้อมทั้งรูปภาพของพยูนที่มีร่างกายซูบผอม ชื่อเรื่อง วิกฤติเงียบ พะยูนอดอยากในจังหวัดตรัง ประเทศไทย ท่ามกลางหญ้าทะเลที่ลดลง 

ในน่านน้ำชายฝั่งอันเงียบสงบของจังหวัดตรัง ประเทศไทย วิกฤติทางระบบนิเวศกำลังเกิดขึ้น โดยที่โลกส่วนใหญ่มองข้าม พะยูน ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลที่อ่อนโยนซึ่งรู้จักกันในชื่อ ‘วัวทะเล’ เผชิญกับความท้าทายในการเอาชีวิตรอดอย่างรุนแรง เนื่องจากแหล่งอาหารหลักอย่าง ‘หญ้าทะเล’ กำลังหมดสิ้นลงอย่างรวดเร็ว 

การลดลงนี้มีสาเหตุหลักมาจากปรากฏการณ์สิ่งแวดล้อมที่เรียกว่าเอลนีโญ รูปแบบสภาพอากาศที่ซับซ้อนนี้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิมหาสมุทรในแถบเส้นศูนย์สูตรของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสภาพอากาศและระบบนิเวศทั่วโลก สถานการณ์ในจังหวัดตรังเป็นตัวอย่างของการเชื่อมโยงที่ซับซ้อนภายในสภาพแวดล้อมของเราและผลกระทบที่กว้างขวางของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล 

พะยูน (Dugong) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dugong dugon เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในน้ำที่อยู่ในลำดับ Sirenia สิ่งมีชีวิตที่อ่อนโยนเหล่านี้พึ่งพาอาศัยหญ้าทะเลเพื่อการยังชีพ โดยหาอาหารในทุ่งหญ้าใต้น้ำในบริเวณชายฝั่งทะเลน้ำตื้นและอบอุ่นทั่วทั้งภูมิภาคอินโดแปซิฟิก 

พะยูนจะกินหญ้าทะเลมากถึง 35 กิโลกรัมต่อวัน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นนักปลูกหญ้าทะเลตัวยง แถมยังช่วยใส่ปุ๋ยให้เสร็จสรรพด้วยการถ่ายมูลออกมา พะยูนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำหน้าที่ช่วยหมุนเวียนแร่ธาตุสารอาหารในแนวหญ้าทะเล โดยถูกจัดประเภทความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ใน IUCN Red List of Threatened Species ซึ่งบ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธุ์ในธรรมชาติ ระดับกลาง (medium-term) ในอนาคต 

ระบบนิเวศของหญ้าทะเลถือมีความสําคัญพอๆ กับระบบแนวปะการัง เนื่องจากมีความสําคัญต่อความสําเร็จของการประมงชายฝั่ง หญ้าทะเลยังมีบทบาทสําคัญในการลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปรับปรุงคุณภาพน้ำทะเล อีกทั้งยังช่วยจัดเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ ของความจุอ่างคาร์บอนในแต่ละปีของมหาสมุทร โดยมีประมาณการว่าทุ่งหญ้าทะเลเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ มีประสิทธิภาพกว่าความจุอ่างคาร์บอนของป่าแอมะซอนถึงสิบเท่า พะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลมังสวิรัติเพียงตัวเดียวของโลกและต้องพึ่งพาหญ้าทะเลเป็นอาหาร ระบบนิเวศหญ้าทะเลที่ดีจะมีพะยูนเป็นตัวชี้วัด  

จังหวัดตรัง เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพะยูนมายาวนานโดยเฉพาะ เกาะลิบง น่าเสียดายที่เมื่อเร็วๆ นี้ พื้นที่บริเวณนี้ประสบปัญหาทุ่งหญ้าทะเลลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีความสำคัญต่อการอยู่รอดของประชากรพะยูน หญ้าทะเลที่ลดลงนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างกิจกรรมของมนุษย์และสาเหตุทางธรรมชาติ 

สาเหตุทางธรรมชาติประการหนึ่งคือปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) ซึ่งเพิ่มผลกระทบจากมลภาวะของมนุษย์ที่มีต่อหญ้าทะเลให้รุนแรงขึ้น จ.ตรัง และ จ.กระบี่ ถือเป็นแหล่งหญ้าทะเลขนาดใหญ่ของทะเลอันดามัน แต่ตั้งแต่ปี 2562 แหล่งหญ้าทะเลมีความเสื่อมโทรม กินพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ จนถึงวันนี้ยังหาวิธีป้องกันและฟื้นฟูไม่ได้  

จากการลงพื้นที่สำรวจแหลมจูโหย เกาะลิบง ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ข้อสรุปว่าหญ้าคาทะเลมีสภาพเสื่อมโทรม มีร้อยละการปกคลุมพื้นที่น้อย โดยหญ้าคาทะเลมีลักษณะปลายใบขาดสั้น และบางส่วนยืนต้นตาย สาเหตุหลักอาจมาจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของอนุภาคตะกอนดิน พบพื้นทะเลมีลักษณะขนาดอนุภาคตะกอนดินโคลนลดน้อยลง ตะกอนทรายเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านสมุทรศาสตร์ คือ ระดับน้ำทะเลมีการลดระดับมากกว่าปกติและมีระยะเวลานานขึ้น จึงทำให้เกิดการผึ่งแห้งของหญ้าทะเลนานมากกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้หญ้าทะเลอ่อนแอลงได้ สถานการณ์หญ้าทะเลในพื้นที่ เกาะลิบง มีพื้นที่หญ้าทะเล 15,457 ไร่ จากการสำรวจเมื่อปี 2563 มีพื้นที่หญ้าทะเลเสื่อมโทรม 7,997 ไร่ ทั้งนี้เมื่อ ก.พ.2566 เปอร์เซ็นต์การปกคลุมลดลงจาก 24 เปอร์เซ็นต์ ในเดือน ธ.ค.2566เหลือเพียง 9 เปอร์เซ็นต์

เหตุการณ์เอลนีโญมีลักษณะเฉพาะคือการทำให้น้ำทะเลอุ่นขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางและตะวันออก ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ในจังหวัดตรัง ภาวะน้ำอุ่นนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของหญ้าทะเล ทุ่งหญ้าทะเลมีความไวสูงต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำ ความพร้อมของแสง และคุณภาพ น้ำอุ่นสามารถสร้างความเสื่อมโทรมให้กับหญ้าทะเล ลดอัตราการเจริญเติบโต และส่งเสริมการเจริญเติบโตของสาหร่าย ซึ่งรบกสนการเจริญเติบโตของหญ้าทะเล 

ทุ่งหญ้าทะเลที่ลดลงในจังหวัดตรัง ส่งผลโดยตรงต่อประชากรพะยูน ซึ่งอาหารเกือบทั้งหมดเป็นหญ้าทะเล การสูญเสียทุ่งหญ้าใต้น้ำเหล่านี้ไม่เพียงแต่คุกคามแหล่งอาหารเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายสุขภาพของระบบนิเวศทางทะเลทั้งหมดอีกด้วย พะยูนที่หิวโหยซึ่งอ่อนแอลงเนื่องจากขาดอาหาร มีโอกาสแพร่พันธุ์น้อย ส่งผลให้จำนวนประชากรลดลง 

อ้างอิง  

ผู้เขียน

+ posts

ชายหนุ่มผู้หลงไหลในกาแฟไม่ใส่น้ำตาล รักการเดินทางไปกับสินค้าของแบรนด์ Patagonia