อดีตผู้สนับสนุนเหมือง บุกไทยคาลิคืนเงิน 2000 ขอลายเซ็นคืน

อดีตผู้สนับสนุนเหมือง บุกไทยคาลิคืนเงิน 2000 ขอลายเซ็นคืน

กลับใจไม่สาย อดีตผู้สนับสนุนเหมือง บุกไทยคาลิคืนเงิน 2000 ขอลายเซ็นคืน กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดแห่ให้กำลังใจ พร้อมรับสมาชิกใหม่ร่วมกันต้านเหมือง

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ผู้คัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตช บริษัท ไทยคาลิ จำกัด บ้านหนองไทร ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้ร่วมกันออกไปเป็นกำลังใจให้อดีตผู้สนับสนุนเหมือง ที่เป็นคนในชุมชน นำเงินไปคืนที่หน้าบริษัท ไทยคาลิ จำกัด

ตามข้อมูลของกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดอ้างว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มวลชนสัมพันธ์ของบริษัทฯ ให้คนมาหลอกลวงชาวบ้านออกไปนอกพื้นที่ แล้วให้เงิน 2000 บาท แลกกับให้ชาวบ้านลงลายมือชื่อในกระดาษเปล่า โดยหวังให้เกิดความแตกแยกในชุมชน แต่ในขณะนี้ ผู้เสียหายที่ถูกหลอก กลับใจและได้มาขอโทษพี่น้องในหมู่บ้านอย่างจริงใจ และขอให้พี่น้องกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดพาเอาเงินไปคืนบริษัทฯ ซึ่งพี่น้องทุกคนให้อภัย และพร้อมกันไปให้กำลังใจในการนำเงินมาคืนเหมืองครั้งนี้

เวลา 11.00 น. กลุ่มฅนรักบ้านเกิดฯ กว่า 60 คน รวมกลุ่มบริเวณถนนด้านหน้า บริษัท ไทยคาลิ จำกัด โดยมีการจอดรถบรรทุกปิดบังชื่อบริษัทไว้ และพบพนักงานบริษัทอยู่ 5 คน ที่กำลังอัดวีดีโอ ถ่ายภาพใบหน้าของพี่น้องชาวบ้าน ซึ่งผู้เสียหายชี้ว่า นายตู่ มวลชนสัมพันธ์ของเหมือง เป็นคนเอาเงินให้แลกกับลายเซ็นสนับสนุนโครงการเหมืองแร่โปแตช 

ตัวแทนนักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ เจรจากับนายตู่ ให้บริษัท ฯ นำเอกสารการเซ็นลายมือชื่อคืนต่อผู้เสียหายแล้วจะคืนเงินให้โดยเมื่อไปถึง นายตู่ ซึ่งบอกว่าตนเองเป็นคนของบริษัทฯ กล่าวกับตัวแทนนักปกป้องสิทธิฯ ว่า “คุณกำลังใส่ความผมใครบอกว่าผมแจกเงินชาวบ้านแลกกับลายเซ็น” ด้านตัวแทนนักปกป้องสิทธิฯยืนยัน ยังไม่มีการเอ่ยชื่อใครทั้งสิ้น เพียงแต่เล่าถึงสาเหตุของการนำเงินมาคืนในครั้งนี้ 

หลังจากทราบว่าผู้เสียหาย เป็นคนมาคืนเงินเองที่หน้าทางเข้าบริษัท นายตู่ มองหน้าแล้วเดินหนีเข้าไปในบริษัททันที กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดให้โอกาสบริษัท ออกมาชี้แจงและนำเอกสารการเซ็นลายมือชื่อของผู้เสียหายมาคืนภายใน 15 นาที จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 30 นาที ทางบริษัทกลับไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ไม่มีการชี้แจง และไม่นำลายมือชื่อของผู้เสียหายออกมาคืนแต่อย่างใด ทางผู้เสียหายและกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ จึงตัดสินใจไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ต่อ สภ.ด่านขุนทด

ตามข้อมูลของกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดระบุต่อว่า ผู้เสียหายได้ทำการลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ด่านขุนทด เรื่องถูกหลอกลวงให้ไปเอาเงินแลกกับการลงลายมือชื่อในกระดาษเปล่า ที่กังวลว่าจะกลายเป็นการสนับสนุน ให้มีการเปิดเหมืองขึ้นอีกครั้ง ซึ่งทางผู้เสียหายมิได้มีเจตนาเช่นนั้น จึงทำการลงบันทึกประจำวันเหตุการณ์ในวันนี้ไว้ และหากปรากฏว่ามีการแอบอ้างลายมือชื่อของผู้เสียหายไปใช้ในการสนับสนุนเหมือง ผู้เสียหายจะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี โดยหลังจากลงบันทึกประจำวัน ผู้เสียหายก็ได้นำเงินจำนวน 2000 บาท ไปส่งผ่านธนารักษ์เพื่อคืนเงินให้บริษัทต่อไป

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด ยินดีให้โอกาส พี่น้องทุกคนที่ต้องการกลับใจ และพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หากใครต้องการนำเงินไปคืนบริษัทฯ ทางกลุ่มพร้อมที่จะพาไปคืน เพื่อให้พี่น้องกลับมาเป็นหนึ่งในพลังในการปกป้องแผ่นดินบ้านเกิดด้วยกัน

ทั้งนี้ กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ ยืนยันชัดเจนว่าจะต่อสู้เพื่อรักษาแผ่นดินถิ่นเกิดให้ดำรง คงอยู่ไม่ถูกทำลายจากใครก็ตาม เพื่อให้เหมืองแร่โปแตช ไทยคาลิ ปิดตัวลงให้ได้ แม้ที่พึ่งของประชาชนอย่างหน่วยงานราชการจะล่าช้า ไม่สนใจ และยังคงเพิกเฉยต่อความเดือดร้อน กับผลกระทบที่เกิดขึ้นกำลังขยายออกเป็นวงกว้างในทุก ๆ วัน เราก็จะใช้ทุกหนทางเพื่อปิดเหมืองให้ได้ เพื่อหยุดแหล่งกำเนิดมลพิษ ฟื้นฟูผืนดิน ฟื้นฟูแหล่งน้ำบนดินและใต้ดิน ให้กลับมาดังเดิม และสร้างจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดให้ลูกหลานสืบต่อไป

เรื่องโดย กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด จ.นครราชสีมา