[ก้าวสู่ปีที่ 31] พี่ประกอบ ช่วยศรีนวล

[ก้าวสู่ปีที่ 31] พี่ประกอบ ช่วยศรีนวล

หนึ่งในปัจจัยของความสำเร็จในการทำงานกับชุมชนในป่า คือ การค้นพบเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า หลายคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับปฎิบัติจริงๆ อยู่ติดพื้นที่มายาวนานต่อเนื่อง แม้เป็นเพียงลูกจ้างประจำหรือ พนักงานราชการ บางคนก็เป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราวเท่านั้น ที่ทำงานอยู่ในอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แต่คนเหล่านี้เป็นคนที่เห็นปัญหา และเห็นว่าการเข้ามาของคนกลางอย่างมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เป็นความหวังสำคัญที่จะช่วยให้ปัญหาความขัดแย้งของการทำงานอนุรักษ์ป่ากับชาวบ้านยากจนในป่าคลี่คลาย 

ประสบการณ์การทำงานของพวกเขาหลายคนที่สอนให้มือใหม่อย่างพวกเรารู้ว่าการทำงานในป่าเขาทำกันอย่างไร พี่ประกอบ ช่วยศรีนวล นับเป็นตัวอย่างที่ดีมากในการบันทึกเรื่องราวเอาไว้เรียนรู้ต่อไป

พี่ประกอบ ช่วยศรีนวล เป็นพนักงานพิทักษ์ป่าอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ทำงานอนุรักษ์ร่วมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียรมากว่าสิบปี ปัจจุบันนับเป็นเครือข่ายวิทยากรกระบวนการชุมชนที่สำคัญของโครงการจัดการพื้นที่คุ้มครองอย่างมีส่วนร่วม หรือโครงการจอมป่า เมื่อวานรับหน้าที่เป็นแม่งานในการจัดอบรมเรื่องการจัดการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์อย่างมีส่วนร่วม ซึ่งจะจัดเป็นรุ่นๆ หลายๆ รุ่น ให้กับชุมชนต่างๆ ทุกชุมชนในพื้นที่ ช่วงนี้เป็นรุ่นแรกเป็นกำหนดการของบ้านแม่กระบุงและบ้านพุชะนี ซึ่งอยู่ในกลุ่มบ้านขอบอ่างเก็บน้ำด้านตะวันตก

ผมกับนริศ บ้านเนิน หัวหน้าภาคสนามพื้นที่สุพรรณบุรี ได้รับเชิญเป็นวิทยากรร่วมในงานนี้ ภาพของนายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่มาร่วมกับแกนนำชุมชนในการร่วมคิดหาทางออกในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับอุทยานฯ แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของโครงการอย่างน่าพอใจ

เราเห็นพี่ประกอบทำงานมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เป็นหนุ่มไฟแรงเชี่ยวชาญงานสิ่งแวดล้อมศึกษา ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ร่ำเรียนอะไรทำนองนี้มา แต่ความใฝ่รู้ขยันขันแข็งก็ทำให้ชื่อเสียงของพี่ประกอบในการทำงานสื่อความหมายได้รับการยอมรับว่าอยู่ในระดับสุดยอด

เราทำงานกับพี่ประกอบมาก่อนเริ่มโครงการจอมป่า พี่ประกอบเข้าชุมชนแม่กระบุงทำงานเป็นตัวอย่างให้เราเห็นว่าการทำงานชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเรื่องป่าไม้ที่ดินเขาทำกันอย่างไร ทั้งๆ ที่อาจกล่าวได้ว่า ทั้งหมดเป็นความตั้งใจส่วนตัวของลูกจ้างเล็กๆ ของรัฐที่กล้าหาญเชื่อมั่นเพียงคนเดียว

โชคดีที่พี่ประกอบนั้นส่วนตัวแล้วเป็นคนสุภาพเรียบร้อย มีเหตุมีผลในการอธิบายเรื่องต่างๆ และที่สำคัญคือมีอาวุธในการแสดงถึงความตั้งใจด้วยการลงมือทำ ททันที ต่อเนื่อง หาทางแก้ไขปัญหาไปทีละเรื่องโดยไม่ท้อถอย ทั้งๆ ที่ยังไม่มีทุนสนับสนุนใดๆ ก็พยายามหารายได้พิเศษส่วนตัวเพื่อมาทำงานให้ส่วนรวม ดังนั้นการทำงานด้วยส่วนตัวเพื่อผลส่วนรวมของเขาชนะใจผู้บังคับบัญชาจนต้องยอมให้ประกอบทดลองความเชื่อและความตั้งใจของเขาในครั้งนี้ได้

หลายปีต่อมาชุมชนแม่กระบุงสามารถคลี่คลายปัญหาเรื่องไร่หมุนเวียน เรื่องทัศนคติที่ไม่ดีต่ออุทยานได้อย่างน่าพอใจและเมื่อเราเริ่มโครงการจอมป่า แม่กระบุงนับเป็นชุมชนตัวอย่างที่สำคัญในการจัดการ และพี่ประกอบนั้นก็เป็นต้นแบบของวิทยากรกระบวนการของเราเช่นกัน

ระหว่างการทำงานเราได้ร่วมช่วยเหลือกันมา พี่ประกอบสร้างปรากฏการณ์มหัศจรรย์ให้เราเห็น นับครั้งไม่ถ้วน สร้างคณะรำตงเยาวชนกระเหรี่ยงสืบวัฒนธรรมไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น สร้างองค์ความรู้ในการปลูกผักหวานป่ารอบบ้านอย่างเป็นรูปธรรม ลุยเดินสำรวจพื้นที่นับสิบชุมชน ทำเวทีแก้ไขความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง

ช่วงเวลาที่ผ่านมาพี่ประกอบมีเครื่องไม้เครื่องมือใหม่ๆ มาอวดเสมอ ทั้งทางวัฒนธรรม การเกษตรทางเลือก และเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างยิ่งในการใช้คอมพิวเตอร์ มิหนำซ้ำใช้เวลาช่วงนี้ไปเรียนคอมพิวเตอร์จนจบปริญญาตรีที่สถาบันราชภัฏกาญจนบุรี

วันนี้พี่ประกอบหันมาเรียนต่อปริญญาโทเรื่องการพัฒนาสังคม สร้างเวบไซต์เผยแพร่ความรู้เรื่องผักหวานป่า หารายได้พิเศษเพื่อซื้อรถ ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ มาทำงานเพื่อส่วนรวมอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ว่าเอาพลังใจและพลังงานมาจากไหนมากมายนัก

เจอกับพี่ประกอบเมื่อวาน ผมพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นและยังอยู่มาเนิ่นนานระหว่างพวกเราและพี่ประกอบจริงๆแล้วไม่ใช่อะไรมากไปกว่ามิตรภาพและความเชื่อมั่นนั่นเอง 

หมายเหตุ : ปัจจุบันพี่ประกอบลาออกจากการเป็นพนักงานราชการของอุทยานแห่งชาติแล้ว และประกอบอาชีพอิสระอยู่ใกล้ๆอุทยานเพื่อหาทางใช้ความรู้ความสามารถที่มีขยายผลทำงานกับชาวบ้านในการอนุรักษ์ ตามแนวทางของตัวเองให้เต็มที่

ผู้เขียน

Website | + posts

ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร (18 กันยายน 2558 - ปัจจุบัน)