ความคืบหน้าโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านหนองตาดั้ง (หลังรมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่ราชบุรี)

ความคืบหน้าโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านหนองตาดั้ง (หลังรมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่ราชบุรี)

หลังจากการประชุมหารือและทำความเข้าใจกับราษฎรบ้านพุระกำ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 โดยหารือถึงการเยียวยาในเรื่องที่อยู่ ที่ทำกิน การมีสาธารณูปโภค และการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวให้กับชาวบ้านที่จะได้รับผลกระทบ ซึ่งพี่น้องบ้านพุระกำและบ้านหนองตาดั้งได้แสดงเจตจำนงและร้องขอให้ทางกรมชลฯ ยกเลิกโครงการนี้ พร้อมเสนอว่าอยากให้ภาครัฐนำงบประมาณไปพัฒนาอ่างเก็บน้ำเดิมที่มีอยู่แล้ว เนื่องจากบริเวณโดยรอบพื้นที่มีอ่างเก็บน้ำอยู่แล้ว 6-7 แห่งนั้น ยังไม่สามารถกักเก็บน้ำได้เลย

ภาพกิจกรรมการหารือระหว่างคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการ อ่างเก็บน้ำบ้านหนองตาดั้งและพี่น้องบ้านพุระกำและบ้านหนองตาดั้ง https://www.facebook.com/share/p/n2z6mFtTo81jUVWc/ 

หลังจากนั้นพี่น้องบ้านพุระกำและบ้านหนองตาดั้งได้เขียนหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อขอเข้าพบและยื่นหนังสือดังกล่าวโดยมีเนื้อหาระบุว่า 

พวกเราพี่น้องบ้านพุระกำ จำนวน 86 ครัวเรือน ไม่เห็นด้วยกับการสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านหนองตาดั้งด้วยเหตุผลดังนี้

1. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตรวจสอบแล้วเห็นว่าทางกรมชลประทานได้ละเมิดสิทธิมนุษยชน กระทบต่อจิตใจ และทรัพย์สินที่มีอยู่ 

2. ละเมิดต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติป่าไม้และสัตว์ป่า

3. ให้ภาครัฐนำงบประมาณไปพัฒนาอ่างเก็บน้ำเดิมที่มีอยู่แล้ว เนื่องจากบริเวณโดยรอบพื้นที่มีอ่างเก็บน้ำอยู่แล้ว 6-7 แห่งนั้น ยังไม่สามารถกักเก็บน้ำได้เลย

4. ชาวบ้านจะไม่ยอมถูกอพยพโยกย้ายไปอยู่ที่ใหม่ เพราะรู้สึกหวั่นเกรงว่าจะมีกระทบต่อผืนป่าต้นน้ำลำภาชีที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งชาวบ้านช่วยกันดูแลรักษา และยังเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าแก่งกระจานอันเป็นมรดกโลก

5. บ้านพุระกำเคยได้รับรางวัลชนะเลิศในการป้องกันไฟป่า จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ในปี พ.ศ.2548

6. บ้านพุระกำเป็น 1 ใน 54 หมู่บ้าน ในโครงการพื้นที่นำร่องคนอยู่ร่วมกับผืนป่า และสัตว์ป่า ของรัฐบาล ภายใต้ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกินในพื้นที่อนุรักษ์ หากยังมีการก่อสร้างอ่างเก็บย้ำบ้านหนองตาดั้งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี จะส่งผลกระทบต่อนโยบายของรัฐในการแก้ไขปัญหาที่อยู่ที่ทำกินของคนอยู่กับป่าอย่างแน่นอน

7. บ้านพุระกำเป็นหมู่บ้านที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริ โดยในปี พ.ศ.2535 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้มีพระราชดำรัสให้พัฒนาหมู่บ้านพุระกำ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชน

ชาวบ้านพุระกำและหนองตาดั้งขอยืนยันคัดค้านโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านหนองตาดั้งอย่างถึงที่สุด เพื่อความสงบสุขของชาวบ้านพุระกำและบ้านหนองตาดั้ง และเพื่อรักษาผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ให้ลูกหลานต่อไป

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ส.ส.บุญยิ่ง นิติกาญจนา เขต 2 จ.ราชบุรี ประธานคณะกรรมมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภคได้เป็นตัวแทนพี่น้องยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำหนองตาดั้ง ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

พี่น้องบ้านพุระกำและบ้านหนองตาดั้ง ยื่นหนังสือคัดค้านให้กับ ส.ส. บุญยิ่ง นิติกาญจนา ภาพจาก Facebook ส่วนตัวคุณบุญยิ่ง นิติกาญจนา
ส.ส. บุญยิ่ง นิติกาญจนา ได้ยื่นหนังสือคัดค้านของพี่น้องที่ได้รับผลกระทบให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาพจาก Facebook ส่วนตัวคุณบุญยิ่ง นิติกาญจนา

ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะลงพื้นที่ 4 บุรี โดยมาเยือนจังหวัดราชบุรีในวันที่ 12 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีพูดถึงความมั่นคงทางอาหารและประสิทธิภาพการใช้น้ำพร้อมไกด์ไลน์ว่า​ อย่างน้อยกลุ่มชลประทานได้มีการจัดสรรเรื่องน้ำให้ดีขึ้น จะทำให้มีผลผลิตที่ดีขึ้นส่งผลให้ราคาลงมา และจะทำให้ค่าครองชีพประชาชนอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำได้ ส่วนฝั่งคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตรกร ถึงสภาพปัญหาภัยแล้งและการพังทลายของตลิ่ง รวมถึงแนวทางการพัฒนาท้องที่ ณ ศาลาประชุม (บ้านเก่ากะเหรี่ยง) ต.บ้านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน นำเสนอแผนพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง ในพื้นที่ลุ่มน้ำลำภาชี กว่า 9 โครงการ และโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านหนองตาดั้ง ก็เป็นหนึ่งในโครงการของแผนพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำลำภาชี แต่ยังไม่มีดำเนินการก่อสร้างใดๆ 

และระหว่างที่นายกรัฐมนตรีและคณะลงพื้นที่พี่น้องได้รับเอกสารฉบับหนึ่งเรื่องการประเมินภัยคุกคามภารกิจรักษาความปลอดภัยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการพื้นที่ จว.ราชบุรี วันที่ 12-13 พฤษภาคม 2567 ภายในเอกสารมีการนำรูปภาพ ประวัติส่วนตัว พร้อมระบุข้อมูลที่เป็นเท็จ และมีเจ้าหน้าที่มาคอยติดตามบุคคลที่มีรายชื่อในเอกสาร โดยเอกสารที่ออกมาเผยแพร่นั้นส่งผลให้พี่น้องเกิดความไม่สบายใจถูกระบุเป็นภัยคุกคาม​นายกฯ ลงพื้นที่​ ทั้งนี้หนึ่งในรายชื่อผู้ที่ถูกประเมินเป็นภัยคุกคามนั้นเป็นพี่น้องบ้านพุระกำและบ้านหนองตาดั้งที่ออกมาปกป้องและรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเอกสารดังกล่าวและเปลี่ยนจากผู้เป็นภัยคุกคามเป็นกลุ่มบุคคล หรือบุคคล ที่อาจจะมายื่นหนังสือให้ท่านนายกฯ​ อ้างอิง : https://www.matichon.co.th/politics/news_4571173  

ปัจจุบันโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านหนองตาดั้ง อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งมีมติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2562 ให้กรมชลประทานกลับไปทบทวนผลการศึกษาในบางประเด็น เช่น เรื่องการทำความเข้าใจกับราษฎรที่ได้รับผลกระทบบ้านพุระกำ และทบทวนเรื่องการจัดสรรพื้นที่อาศัย ที่ทำกิน (แปลงอพยพ) รวมถึงให้ทบทวนผลการศึกษาจำนวนและชนิดพันธุ์ไม้ยืนต้นและสัตว์ป่าให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในและรอบอ่างเก็บน้ำอย่างเข้มข้น และเสนอแผนติดตามตรวจสอบจำนวนชนิดพันธุ์สัตว์ป่าอย่างละเอียด เนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างโครงการทั้งหมดอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ซึ่งยังคงเป็นพื้นที่ป่าไม้สภาพสมบูรณ์  

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ติดตามความก้าวหน้าโครงการทำนบดินพุส้มป่อย พร้อมอาคารประกอบ และพบปะรับฟังปัญหาจากพี่น้องเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ภาพจาก ข่าวรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ถึงแม้ว่ากรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังคงไร้ความชัดเจนในการยกเลิกการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านหนองตาดั้งหรือตอบคำถามความแคลงใจของพี่น้องในเรื่องประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำเดิมที่มีอยู่แล้วทั้ง 7 อ่าง อย่างไรก็ตามทางมูลนิธิสืบนาคะเสถียรยังคงเฝ้าติดตามกระบวนการเสนอโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านหนองตาดั้ง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี และเราจะยังคงนำเสนอข้อมูลคุณค่าและความสำคัญของผืนป่าแห่งนี้ต่อไป