ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน และผลกระทบของกองทัพต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน และผลกระทบของกองทัพต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โลกที่ปราศจากสงครามไม่เพียงแต่จะเป็นสถานที่ที่สงบสุขมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะมีสภาพแวดล้อมที่สะอาดขึ้น วิกฤตสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงน้อยกว่า และปัญหาด้านสาธารณสุขน้อยลง

.
ในชั่วโมงแรกๆ ของวันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ หลังกองทัพรัสเซียเริ่มบุกโจมตียูเครน โดยการนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน โดยพื้นฐานแล้วก็เหมือนกับการเริ่มต้นสงครามกับประเทศในยุโรปตะวันออก บรรดาผู้นำระดับโลก ทั้งประธานาธิบดีไบเดน และเลขาธิการสหประชาชาติอันโตนิโอ กูเตอร์เรส ได้ออกมาประณามการโจมตีดังกล่าว และเรียกร้องให้ปูตินยุติความขัดแย้ง และถอนกำลังทหารรัสเซียออกจากยูเครน

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน การโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย ทำให้ผู้คนทั่วประเทศยูเครนตกอยู่ในความหวาดวิตกต่อชีวิต และเผชิญความทุกข์ทรมานอย่างหนัก The Economic Times รายงานว่า มีทหารยูเครนอย่างน้อย 40 นายและพลเรือน 10 ราย เสียชีวิต

นอกเหนือจากความทุกข์ทรมานและความตายของเพื่อนมนุษย์ที่เกิดจากการโจมตีทางทหาร การบุกรุกครั้งนี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงวิธีที่ปฏิบัติการทางทหารได้มีส่วนทำร้ายโลก ตามข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการทหารกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งในรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นการเน้นย้ำว่าการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของเรานั้นเป็นสิ่งไม่ยั่งยืน
.

กองทัพส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างไร

กองทัพส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในหลายๆ ด้าน การศึกษาในปี 2019 โดยมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์และมหาวิทยาลัยเดอแรม พบว่า กองทัพสหรัฐ คือ ‘หนึ่งในผู้ก่อมลพิษทางสภาพอากาศที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์’ โดยกองทัพสหรัฐใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเหลวมากขึ้นและปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่ามากกว่าที่ประเทศส่วนใหญ่ทั้งโลกปล่อย การศึกษาเสริมว่า หากเปรียบกองทัพสหรัฐเป็นประเทศ ก็จะอยู่ในอันดับที่ 47 ในรายชื่อประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับต้นๆ โดยพิจารณาจากการใช้เชื้อเพลิง

ในฐานะประเทศ สหรัฐอยู่ในอันดับที่ 2 ในรายการการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยที่จีนอยู่ในอันดับที่ 1 อินเดียอยู่ที่อันดับ 3 และรัสเซียอยู่ที่อันดับ 4 ตามรายงานของ Worldometer

ในรายงานของ Conflict and Environment Observatory (CEOBS) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความรู้แก่สาธารณชน เกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และมนุษยธรรมของการทหาร อธิบายว่า หนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนหลักของการใช้พลังงานทางทหารคือการใช้เชื้อเพลิง ซึ่งรวมถึงพลังงานที่ใช้ในฐานทัพทหาร เช่นเดียวกับเชื้อเพลิงที่ใช้ขับเคลื่อนอุปกรณ์ทางทหารและเรือขนส่ง

จากการวิจัยของ CEOBS ซึ่งเกี่ยวข้องกับกองทัพของสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ระบุว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกส่วนใหญ่มาจากซัพพลายเชนอุปกรณ์ทางทหาร (รวมถึงการขุดหาวัสดุ การผลิต การใช้ และการกำจัด) อุปกรณ์มีตั้งแต่ปืน รถถัง ไปจนถึงเครื่องบิน

กองทัพสหรัฐยังถูกตัดสินว่ามีความผิดในการปฏิบัติที่ไม่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมหลายประการ ตัวอย่างเช่น ในเมืองมินเดิน รัฐลุยเซียนา ทหารถูกจับได้ว่าเผาระเบิดและของเสียจากอาวุธโดยไม่ใช้มาตรการป้องกันเพื่อควบคุมการปล่อยมลพิษทางสิ่งแวดล้อม ตามรายงานของ Earth.Org

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่ทหารทำร้ายสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โลกที่ปราศจากสงครามไม่เพียงแต่จะเป็นสถานที่ที่สงบสุขมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะมีสภาพแวดล้อมที่สะอาดขึ้น วิกฤตสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงน้อยกว่า และปัญหาด้านสาธารณสุขน้อยลง
.

การรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้ราคาก๊าซทั่วโลกสูงขึ้น

ขณะที่การโจมตีของรัสเซียเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี ราคาก๊าซธรรมชาติทั่วโลกของสหราชอาณาจักร (ตามที่น้ำมันดิบเบรนท์กำหนด) พุ่งขึ้นเป็นมากกว่า 105 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 7 ปีครึ่ง ตามรายงานของ The Guardian

ตามที่ BBC News อธิบาย รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ตัวอย่างเช่น สหราชอาณาจักรได้รับน้ำมันดิบร้อยละ 6 และก๊าซร้อยละ 5 จากรัสเซีย และสหรัฐฯ ได้รับการนำเข้าปิโตรเลียมประมาณร้อยละ 7 และน้ำมันร้อยละ 3 จากรัสเซีย

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า เขากำลังทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาก๊าซในสหรัฐฯ สูงขึ้นมากเกินไป “ฝ่ายบริหารกำลังใช้เครื่องมือทุกอย่างที่เรามีอยู่เพื่อปกป้องธุรกิจ และผู้บริโภคชาวอเมริกันจากราคาที่สูงขึ้น”

ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่น่ากังวลนี้ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่มนุษยชาติต้องลดการพึ่งพาทรัพยากรที่ไม่สามารถหมุนเวียนได้ เช่น ก๊าซ และน้ำมัน

ร่วมรักษาป่าใหญ่ ผ่านระบบ Thai QR Code


เรียบเรียงจาก Russia-Ukraine Conflict Is a Stark Reminder of the Military’s Impact on Climate Change

ผู้เขียน

Website | + posts

ทำงานอิสระที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ การเขียน เรื่องสิ่งแวดล้อมและดนตรีนอกกระแส - เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตใช้ไปกับการนั่งมองความเคลื่อนไหวของใบไม้และสายลม