‘ไมโครพลาสติก’ ที่พบได้ทุกหนทุกแห่งนั้นอันตรายเพียงใด

‘ไมโครพลาสติก’ ที่พบได้ทุกหนทุกแห่งนั้นอันตรายเพียงใด

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการศึกษาว่ามลภาวะพลาสติกที่พบได้ทุกหนทุกแห่งนั้นอันตรายเพียงใด

ผมขอเริ่มด้วยข่าวดี ตอนนี้งานวิจัยเกี่ยวกับ ‘ไมโครพลาสติก’ เพิ่มขึ้นมากอย่างก้าวกระโดด และตีแผ่ข้อมูลสำคัญแทบทุกเดือน

ส่วนข่าวร้ายหรือครับ? เราสิ้นสงสัยแล้วว่ามนุษยชาติได้ปล่อยมลภาวะที่ปนเปื้อนโลกทั้งใบตั้งแต่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ไปจนถึงส่วนที่ลึกที่สุดในมหาสมุทร นอกจากนี้ มนุษย์เรายังกิน ดื่ม และหายใจเอาไมโครพลาสติกเข้าไป ส่วนมันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์อย่างไรนั้นยังไม่มีคำตอบ แต่มีรายงานหลายฉบับยืนยันว่าพลาสติกเหล่านี้ทำร้ายสัตว์ป่าที่อยู่ร่วมโลกกับเรา

ผมขอสรุปสั้นๆ ถึงสิ่งที่เราเรียนรู้เกี่ยวกับไมโครพลาสติกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้วชิ้นส่วนเล็กจิ๋วเหล่านั้นจะแตกสลายมาจากพลาสติกหลายล้านตันที่เราทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม ผมเคยรายงานการตรวจพบมลภาวะไมโครพลาสติกในกระแสเลือดของมนุษย์ แสดงให้เห็นว่าอนุภาคเหล่านี้สามารถเดินทางไปทั่วร่างกายและอาจสะสมในบางอวัยวะ ผมยังพบว่าไมโครพลาสติกสะสมลึกลงในปอดของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างมองว่า “เป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่งถึงผลเสีย” ต่อสุขภาพ

มี ‘ไมโครพลาสติก’ อยู่ในน้ำ

ในประเทศนิวซีแลนด์ นักวิจัยพบว่ามีไมโครพลาสติกฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศภายในบ้านมากกว่านอกบ้านถึง 10 เท่าตัว ส่วนใหญ่คือเส้นใยเล็กจิ๋วจากวัสดุสังเคราะห์ซึ่งใช้สำหรับเสื้อผ้าและพรม ในเมืองลากอส (Lagos) ประเทศไนจีเรีย มีการตรวจสอบพลาสติกขนาดจิ๋วจำนวนมหาศาลในน้ำดื่ม การปนเปื้อนแบบเดียวกันนี้ยังพบมากมายในน้ำดื่มแถบชายฝั่งของออสเตรเลียตอนใต้ และหอยแมลงภู่ที่พบได้ในบริเวณดังกล่าว

แน่นอนว่าอาหารทะเลย่อมเสี่ยงต่อการปนเปื้อนด้วยไมโครพลาสติก แต่แปลงเกษตรที่ใช้ปลูกพืชอาจอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่า เนื่องจากบางพื้นที่นั้นมักจะใส่ปุ๋ยเป็นกากตะกอนน้ำเสียซึ่งมีมลภาวะพลาสติกจำนวนมาก จากการขยายผลการศึกษาชิ้นดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์คาดว่าไมโครพลาสติกน้ำหนัก 42,000 ตันกำลังถูกทิ้งลงสู่แปลงเกษตรในแต่ละปี

“การใช้กากตะกอนน้ำเสียเป็นปุ๋ยในแมลงเกษตรอาจกลายเป็นแหล่งสะสมของมลภาวะพลาสติกอันดับต้นๆ ของโลก” James Lofty จาก Cardiff University กล่าว ขณะที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติระบุว่าพลาสติกถูกนำไปใช้ในทางที่อาจก่อให้เกิด “หายนะ” เพราะการใส่เป็นปุ๋ยในภาคการเกษตรทั่วโลกซึ่งอาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยทางอาหารและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์

…และในอาหารของเรา

ข้อกังวลหนึ่งเกี่ยวกับไมโครพลาสติกคือมันสามารถนำพาเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เช่นการศึกษาชิ้นหนึ่งที่พบปรสิตซึ่งติดต่อในมนุษย์และแมวสามารถติดไปกับไมโครพลาสติก นั่นหมายความว่ามันอาจไหลลงสู่มหาสมุทรและแทรกซึมในหอยก่อนที่จะย้อนกลับมาสู่มนุษย์ที่กินมันเข้าไป “ไมโครพลาสติกสามารถนำพาเชื้อโรคไปยังสถานที่ต่างได้ และเชื้อโรคเหล่านั้นก็จะมาปรากฎในน้ำและอาหารของเรา” Karen Shapiro จาก University of California กล่าว

งานวิจัยพบว่าความเสียหายต่อสุขภาพที่เกิดจากไมโครพลาสติกเท่าที่เรารู้นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพราะเราไม่สามารถทำการศึกษาซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้ แต่อย่างน้อยเราก็ทราบแล้วว่าการบริโภคไมโครพลาสติกในปริมาณเท่าใดจึงจะเป็นอันตรายต่อเซลล์ของมนุษย์ในห้องทดลอง เรายังทราบอีกว่าไมโครพลาสติกสามารถปนเปื้อนในทารกซึ่งพัฒนาการของเด็กๆ จะอ่อนไหวอย่างยิ่งต่อสารเคมีอันตราย โดยไมโครพลาสติกเหล่านี้ยังสามารถส่งผ่านจากแม่ไปยังตัวอ่อนในครรภ์ได้

อีกหนึ่งงานวิจัยที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานับเป็นคำเตือนที่น่ารับฟัง มีหลักฐานจำนวนหนึ่งสนับสนุนว่าการระบาดของโลกอ้วนในปัจจุบันมีความรุนแรงยิ่งขึ้นเนื่องจากมลภาวะจากสารเคมีที่ก่อกวนการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย โดยสารเคมีจำนวนมากเหล่านี้ใช้ในการผลิตพลาสติก เรายังพบว่ามลภาวะที่เรารู้จักมากที่สุดคือมลภาวะทางอากาศและโลหะหนักคือสาเหตุของการเสียชีวิตราว 1 ใน 6 ของการเสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก นั่นเท่ากับยอดผู้เสียชีวิตราว 9 ล้านคนต่อปีซึ่งสูงกว่าจำนวนคนที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน โรคเอดส์ มาลาเรีย และวัณโรครวมกัน

แม้จะยังไม่อาจสรุปได้ว่าปัญหามลภาวะพลาสติกที่เราก่อขึ้นจนย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองนั้นน่ากังวลมากน้อยเพียงใด แต่ปัจจุบันก็ชัดเจนแล้วว่าเราจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะแก้ไขเพื่อไม่ให้ปัญหาเลวร้ายลงกว่าเดิม


ถอดความและเรียบจาก We’re only beginning to learn how harmful this pervasive pollution is โดย Damian Carrington, The Guardian

ผู้เขียน

+ posts

บัณฑิตการเงินและการบัญชีที่สนใจความเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่าน เขียน เรียนคอร์สออนไลน์ และเลี้ยงลูกชายวัยกำลังน่ารัก