ประชาชนจาร์กาตาชนะคดีฟ้องร้องต่อรัฐในประเด็นอากาศสะอาด

ประชาชนจาร์กาตาชนะคดีฟ้องร้องต่อรัฐในประเด็นอากาศสะอาด

เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาศาลจาการ์ตาตัดสินว่ารัฐบาลอินโดนีเซียล้มเหลวที่จะรักษาสิทธิในอากาศสะอาดของประชาชน นับเป็นการตัดสินครั้งสำคัญที่อาจใช้บังคับให้ภาครัฐดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศที่เลวร้ายในเมือง

.
คำพิพากษาที่เฝ้ารอมาอย่างเนิ่นนานตลอดการต่อสู้ทางกฎหมายเป็นเวลากว่าสองปีระหว่างประชาชนชาวจาการ์ตา 32 คนกับประธานาธิบดีโจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย รัฐมนตรีสามคน ผู้ว่าราชการเมืองจาการ์ตา และสองผู้นำชุมชน ศาลมีคำตัดสินให้จำเลยผิดฐานกระทำการขัดต่อกฎหมาย อีกทั้งล้มเหลวที่จะจัดการกับปัญหามลภาวะทางอากาศในเมืองหลวงของประเทศ

ในคำพิพากษาระบุว่าพวกเขาละเมิดกฎหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีข้อกำหนดให้ผู้มีอำนาจกำหนดนโยบายต้องทำให้คุณภาพอากาศทั่วประเทศเป็นไปตามมาตรฐาน โดยมีตัวชี้วัดจำนวนหนึ่ง

จาการ์ตามีประชากรว่า 10.5 ล้านคน เมืองดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองที่มลภาวะทางอากาศย่ำแย่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอยู่สม่ำเสมอ Alghiffari Aqsa ทนายความของโจทก์กล่าวว่าคำตัดสินครั้งนี้นับเป็นประวัติศาสตร์

เราหวังว่าจำเลยทุกคนจะยอมรับคำตัดสินนี้ เพราะพวกเขาเองก็อาศัยอยู่ที่นี่เราหวังว่าเขาจะยอมรับคำพิพากษาและดำเนินการตามทุกประเด็นอย่างเป็นรูปธรรมและมีการวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนขณะที่ทนายฝั่งจำเลยปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อ CNN

ก่อนการตัดสิน Leonard Simanjuntak ผู้อำนวยการกรีนพีซ อินโดนีเซียและหนึ่งในผู้กล่าวหาในฐานะประชาชนคนหนึ่งระบุว่ามีการเรียกร้องค่าชดเชยจากปัญหาสุขภาพที่มีนัยสำคัญเพราะต้องสูดอากาศสกปรกของจาการ์ตา เขาอ้างถึงอาการหอบหืด ปัญหาทางผิวหนัง โดยมีโจทก์คนหนึ่งมีอากาศติดเชื้อที่ทางเดินหายใจส่วนบนนับตั้งแต่ย้ายมาที่เมืองแห่งนี้

ประชาชนมองว่ารัฐบาลละเลยการปฏิบัติหน้าที่และข้อผูกพันในการจัดการมลภาวะของจาการ์ตา พร้อมทั้งล้มเหลวที่จะรักษาซึ่งสิทธิของประชาชนในอากาศสะอาด

ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความอ่อนไหวในระดับเดียวกัน แต่มีคนบางกลุ่มที่เผชิญกับปัญหาสุขภาพเนื่องจากการหายใจเอาอากาศสกปรกเข้าไป” Simanjuntak กล่าว

อินโดนีเซียคือประเทศที่มีมลภาวะมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนจาการ์ตาก็ติดอันดับ 10 เมืองที่มีมลภาวะมากที่สุดในโลก อ้างอิงจากรายงานคุณภาพอากาศโลกโดย IQAir

มลภาวะทางอากาศนิยมวัดในหน่วยความเข้มข้นของ PM 2.5 ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีสารพิษอย่างซัลเฟต ไนเตรต และคาร์บอนดำ มันมีขนาดเล็กจนสามารถทะลุลึกเข้าไปในปอด และส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง เช่น มะเร็งปอด โรคหลอดเลือดหัวใจ และการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

องค์การอนามัยโลกกำหนดมาตรฐานสำหรับค่า PM2.5 ที่ปลอดภัยในระดับ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในอินโดนีเซียมาตรฐานที่ปลอดภัยซึ่งกำหนดโดยรัฐบาลอยู่ที่ 15 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ที่จาการ์ตา ค่าที่อ่านได้มักเกินกว่าที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ โดย PM2.5 เฉลี่ยอยู่ที่ 39.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อ้างอิงจากรายงานของ IQAir

การเปลี่ยนสภาพเป็นเมืองอย่างรวดเร็วและภาวะการจราจรติดขัดคือสาเหตุหลักของคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ในเมืองจาการ์ตา อ้างอิงจากงานวิจัยโดยศูนย์วิจัยด้านพลังงานและอากาศสะอาด งานศึกษาชิ้นดังกล่าวยังระบุอีกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินบริเวณรอบนอกของเมืองเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุ

Yuyun Ismawati ผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ Nexus3 ระบุว่าเธอเข้าร่วมกับคดีนี้หลังจากรู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไปกับคุณภาพอากาศในเมืองที่ย่ำแย่ คดีฟ้องร้องโดยประชาชนสำหรับฉันคือการเรียกร้องและรักษาสิทธิสำหรับสุขภาพของทุกคน โดยเฉพาะเด็กๆ ซึ่งจะเป็นอนาคตของชาติเธอกล่าว

เธอยังพูดอีกว่าหลานอายุสองขวบทั้งสองคนเริ่มมีอากาศทางผิวหนังคือโรคกลากเกลื้อนหลังจากที่นั่งเล่นริมระเบียงบนอพาร์ทเมนท์ชั้นสิบห้าของครอบครัวในกลางเมืองจาการ์ตาหมอกล่าวว่าเราควรลดไม่ให้หลานสัมผัสกับอากาศภายนอกเธอกล่าวมันแย่มากเพราะเด็กๆ ควรได้รับแสงอาทิตย์ แต่เขากลับออกไปไม่ได้เพราะอากาศแย่เนี่ยนะ?”

ก่อนการตัดสิน Yuyun และคนอื่นๆ หวังว่าชัยชนะในศาลจะกดดันให้รัฐบาลบังคับใช้มาตรฐานคุณภาพอากาศในจาการ์ตา เธอยังต้องการให้รัฐบาลท้องถิ่นและระดับชาติให้บังคับใช้มาตรการทางสิ่งแวดล้อมให้เข้มงวดขึ้น และมีข้อกำหนดเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เคร่งครัด พร้อมทั้งนโยบายอากาศสะอาดที่โปร่งใส

Simanjuntak จากกรีนพีซระบุว่าแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางอากาศเมื่อต้องเดินทางบนท้องถนนในจาการ์ตาแม้แต่หน้ากากอนามัยก็ช่วยอะไรมได้เขากล่าว

ก่อนที่จะมีการตัดสิน เขากล่าวว่าเขาหวังที่คำพิพากษานี้จะบังคับให้ภาครัฐใช้ทรัพยากรเพื่อทำให้อากาศสะอาดในจาการ์ตาหายใจได้มากขึ้นสิ่งที่เราต้องการคือการปฏิรูปเชิงนโยบายที่ครบถ้วนในแง่ของกรอบกฎหมาย มีการกำหนดมาตรฐานสภาพอากาศที่สอดคล้องกับมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก” Simanjuntak กล่าว

ในบทสรุปเพื่อสนับสนุนคดีความ David R. Boyd จากองค์การสหประชาชาติระบุว่ามลภาวะทางอากาศคือปัญหาสำคัญในอินโดนีเซียซึ่งทำให้มีคนหลายแสนคนต้องตายก่อนวัยอันควรในแต่ละปีเขาเสริมด้วยว่าปัญหาดังกล่าวมีความรุนแรงอย่างยิ่งในจาการ์ตา

ผมขอกล่าวด้วยความเคารพถึงความล้มเหลวของรัฐบาลอินโดนีเซียในการพัฒนาคุณภาพอากาศภายนอกอาคารของจาการ์ตา โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาล้มเหลวที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วนและแข็งขันเมื่อต้องเจอกับระดับมลภาวะที่เกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่องและยาวนาน นี่คือการละเมิดสิทธิในรัฐธรรมนูญด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีเขาระบุ

เมื่อมีการฟ้องร้องคดีในเดือนกรกฎาคมปี 2019 รัฐบาลปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าคุณภาพอากาศเลวร้ายลง พร้อมทั้งบอกสื่อว่าอย่านำเสนอสถานการณ์ให้เลวร้ายเกินจริง

Irvan Pulungan ตัวแทนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศประจำจาการ์ตาระบุว่ารัฐบาลพยายามที่จะพัฒนาคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาสองปีนี้

เขาระบุว่าหลังจากมีการยื่นฟ้องร้อง รัฐบาลท้องถิ่นของจาการ์ตามีการออกกฎหมายจำนวนมาก ทั้งการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนอาคารของรัฐบาล ทดสอบการปล่อยมลภาวะของรถยนต์ เพิ่มโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม ทำเลนจักรยาน และหนุนให้ประชาชนใช้การขนส่งสาธารณะ

แต่ผู้ยื่นคำฟ้องมองว่าการกระทำเพียงเท่านั้นยังไม่เพียงพอ มลภาวะทางอากาศของจาการ์ตายังมีส่วนมาจากนอกเมือง เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อยู่จังหวัดข้างเคียง นี่คือสาเหตุที่พวกเขาต้องการฟ้องรัฐบาลท้องถิ่นในจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งนายวิโดโดประธานาธิบดี

น่าเสียดายที่การดำเนินการจากรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลางนับว่าน้อยมาก เรียกว่าไม่เกิดอะไรขึ้นเลยด้วยซ้ำ

Yuyun หวังว่าชัยชนะในศาลของเหล่านักรณรงค์จะเป็นมากกว่าเรื่องเชิงสัญลักษณ์ และส่งผลให้รัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลระดับชาติจัดการปัญหามลภาวะทางอากาศอย่างจริงจัง

ฉันกำลังเรียกร้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมให้กับลูกหลานและเด็กๆ ทุกคนที่จะต้องเจอกับอากาศสกปรกในอนาคตเธอกล่าวเราในฐานะผู้ใหญ่ต้องรับผิดชอบคุณภาพชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น

 


ถอดความและเรียบเรียงจาก Jakarta residents win battle for clean air against Indonesian government

ผู้เขียน

+ posts

บัณฑิตการเงินและการบัญชีที่สนใจความเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่าน เขียน เรียนคอร์สออนไลน์ และเลี้ยงลูกชายวัยกำลังน่ารัก