ผืนป่าที่ถูกทำลายไปจากการทำเหมืองนั้นจะขอดูแลเอง – กลุ่มอนุรักษ์ฯ จี้ตรวจสอบเหมืองดงมะไฟหลังสิ้นอายุประทานบัตร

ผืนป่าที่ถูกทำลายไปจากการทำเหมืองนั้นจะขอดูแลเอง – กลุ่มอนุรักษ์ฯ จี้ตรวจสอบเหมืองดงมะไฟหลังสิ้นอายุประทานบัตร

กลุ่มอนุรักษ์ฯ จี้ตรวจสอบเหมืองดงมะไฟหลังสิ้นอายุประทานบัตร ขณะที่อุตสาหกรรมหนองบัวลำภูตอบทันควันจำหน่ายคำขอต่อประทานบัตรแล้ว ตามคำพิพากษาศาลปกครองสุงสุด

17 มกราคม 2567 นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ประมาณ 10 คน ได้เดินทางไปสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อยื่นหนังสือ ขอให้ดำเนินการตรวจสอบการทำเหมืองหลังประทานบัตรเลขที่ 27221/15393 ของ บริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด หลังสิ้นอายุ โดยมี นางจินตนา เจริญใจ หัวหน้าอุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นผู้รับหนังสือพร้อมทั้งเปิดห้องประชุมสำนักงานอุตสาหกรรมหนองบัวลำภู เพื่อพูดคุยกับนักปกป้องสิทธิฯ

เวลา 10.10 น. ภายหลังจากที่นักปกป้องฯได้ยื่นหนังสือ เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมฯได้ทำหนังสือตอบรับให้ทันที โดยมีใจความว่า ‘กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ได้พิจารณาตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด สามารถจำหน่ายคำขอต่อประทานบัตรที่ 1/2563 ออกจากสารบทได้ ดังนั้นเพื่อการดำเนินการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด อุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภู จึงได้จำหน่ายคำขอต่อประทานบัตรดังกล่าวออกจากสารบท’

ต่อมาในเวลา 11.20 น. นักปกป้องสิทธิฯเข้าได้ยื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นภ.1 (หนองสวรรค์) เพื่อให้ทำแนวกันไฟล้อมรอบโรงเก็บระเบิดภูผาฮวก ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการลงเลขรับ พร้อมแจ้งว่า “จะรีบประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รีบดำเนินการ หากได้วันลงพื้นที่จะแจ้งให้กลุ่มฯทราบ”

หลังจากนั้น 13.30 น. นักปกป้องสิทธิฯ ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ ถึงรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้ประสานงานให้หน่วยงานใต้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่กำกับดูแล เร่งดำเนินการขนย้ายวัตถุระเบิดออกจากพื้นที่โดยด่วน

ทั้งนี้นักปกป้องสิทธิฯได้กล่าวว่า “ถึงแม้อุตสาหกรรมจะจำหน่ายการต่อประทานบัตรออกไปแล้ว ผืนป่าที่ถูกทำลายไปจากการทำเหมืองนั้นจะขอดูแลเองโดยชาวบ้าน และจะทำการขอจดจัดตั้งเป็นป่าชุมชน เพื่อไม่ให้นายทุนที่ไหนมาทำลายอีกในอนาคต รวมถึงจะพัฒนาพื้นที่ให้แหล่งท่องเที่ยว ให้เป็นป่าเห็ด ป่าหน่อไม้ และจะดูแลอย่างดี”

แม้บริษัทไม่สามารถต่ออายุประทานบัตรได้ แต่นักปกป้องสิทธิฯก็จะไม่นิ่งนอนใจ เพราะตลอด 30 ปีที่ผ่านมาหากเราไม่ติดตามนายทุนเหมืองก็จะกลับมาอีกครั้ง การต่อสู้ของนักปกป้องสิทธิฯได้เก็บชัยชนะอยู่ตลอดเวลาแบบไม่หยุดนิ่งไปเรื่อย ๆ จนกว่าขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดหนองบัวลำภู

รายงานโดย กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได จ.หนองบัวลำภู