ขอขอบคุณกรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมข้อเสนอกรณีการขอเพิ่มงบประมาณค่าตอบแทนผู้พิทักษ์ป่า

ขอขอบคุณกรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมข้อเสนอกรณีการขอเพิ่มงบประมาณค่าตอบแทนผู้พิทักษ์ป่า

ขอขอบคุณกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมข้อเสนอกรณีการขอเพิ่มงบประมาณค่าตอบแทนผู้พิทักษ์ป่า (บุคคลภายนอก) จากอธิบดีกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมบัญชีกลาง เรื่อง ขออนุมัติค่าตอบแทนสำหรับบุคคลภายนอก ที่ร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ในงานอนุรักษ์และป้องกันรักษาป่า งานควบคุมไฟป่า และงานตรวจปราบปรามการค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศ เนื่องจากการปฏิบัติงานดังกล่าวมีความจำเป็นต้องใช้ราษฎรในท้องถิ่นที่มีความชำนาญในสภาพภูมิประเทศ โดยต้องออกปฏิบัติงานในพื้นที่ทุรกันดาร และมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งสภาพเศรษฐกิจที่มีอัตราค่าครองชีพสูงขึ้น จึงขอทำความตกลงกับกรมบัญชีกลางเพื่อปรับค่าตอบแทนจาก 9,000 บาท ให้เป็นอัตราไม่เกิน 11,000 บาท รายละเอียดตามที่อ้างถึง

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอขอบคุณกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของบุคลากรระดับปฏิบัติงาน การขอปรับเพิ่มกรอบอัตราค่าตอบแทนในครั้งนี้ จะนำไปสู่การสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และก่อประโยชน์ต่อการดูแลทรัพยากรในอนาคต

อย่างไรก็ตาม มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ในฐานะองค์กรที่ทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติผืนป่า สัตว์ป่า และส่งเสริมงานสวัสดิการสวัสดิภาพของผู้พิทักษ์ป่า มีข้อกังวลต่อประเด็นการเพิ่มอัตราค่าตอบเเทนในปีงบประมาณ 2567 ซึ่งหากไม่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มเติม จะส่งผลกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณในระดับพื้นที่ ดังนี้

1. กรอบงบประมาณค่าตอบเเทนคงเดิม อาจต้องลดจำนวนผู้ปฎิบัติงานเพื่อให้มีงบประมาณจ้างเพียงพอกับค่าตอบเเทน 11,000 บาทต่อคน

2. กรอบงบประมาณค่าตอบเเทนคงเดิม อาจทำให้ต้องนำงบประมาณส่วนอื่นมาสมทบ เช่น หมวดค่าตอบแทนวัสดุและใช้สอย

ซึ่งข้อห่วงกังวลดังกล่าวเคยเกิดขึ้นเมื่อปีงบประมาณ 2565 เนื่องจากมีการตัดลดงบประมาณจ้างงานเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า จนอาจกระทบการจ้างงานพนักงานจ้างเหมาของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชทั่วประเทศ และเสี่ยงถูกเลิกจ้างถึงร้อยละ 50 มาแล้ว

มูลนิธิสืบนาคะเสถียรขอเสนอให้รัฐบาลต้องจัดหางบประมาณสมทบมาเพิ่มเติมให้ในปีงบประมาณ 2567 เพื่อให้มีงบเพียงพอในการจัดจ้าง และควรตั้งงบประมาณจากกระทรวงการคลังเป็นงบผูกพันในปีงบประมาณต่อๆ ไป เพื่อไม่ให้เกิดการลดทอนงบประมาณรายจ่ายส่วนอื่น โดยกรมอุทยานฯต้องเป็นหลักในการประสานข้อมูลกับกระทรวงการคลัง

โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะรับข้อคิดเห็นดังกล่าว เพื่อให้งานดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ผืนป่า และสัตว์ป่า อันมีผู้พิทักษ์ป่าเป็นฐานแห่งความมั่นคงในการรักษาสิ่งแวดล้อม สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานสามารถดูแลรักษาป่าไม้ของชาติได้อย่างเข้มแข็ง อันจะส่งผลให้งานอนุรักษ์ คุ้มครอง ป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรของชาติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและและสำเร็จลุล่วงได้ตามเป้าประสงค์ต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
นายภาณุเดช เกิดมะลิ
เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร