นับจากเดือนตุลาคม 2567 ‘โครงการจัดการระบบนิเวศในพื้นที่ป่าสงวนเพื่อแนวเชื่อมต่อป่าตะวันตกสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน’ หรือโครงการเชื่อมป่าฯ ได้เริ่มปฏิบัติแผนงานย่อยขึ้นอีกกิจกรรม
นอกจากชักชวนชุมชนในพื้นที่เป้าหมายมาร่วมปลูกไผ่ซางหม่น สร้างแนวเชื่อมผืนป่า สร้างรายได้ให้ชุมชน และสร้างถิ่นอาศัยให้กับสัตว์ป่าระหว่างป่าอนุรักษ์สองแห่ง ทีมเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสนามเพรียงยังได้เริ่มงานศึกษาความหลากหลายของชนิดนกที่พบเห็นในพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่
กำหนดแผนงานตั้งแต่ตุลาคม 2567 – กันยายน 2568 เป็นระยะเวลา 1 ปี ติดตามสำรวจครบทุกฤดูกาล
คาดหวังว่าเมื่อเสร็จงานแล้วคงได้ทราบถึงความหลากหลายของชนิดนก ความชุกชุม และทราบถึงการอพยพย้ายถิ่นของนกบริเวณแนวเชื่อมผืนป่าระหว่างอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้าและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสนามเพรียง
อีกทั้งยังหวังไปถึงให้แนวเชื่อมต่อป่าเป็นพื้นที่รองรับการอพยพย้ายถิ่นของนกจากพื้นที่อนุรักษ์ภาคเหนือสู่พื้นที่อนุรักษ์ภาคใต้ได้ด้วย


อำนาจ สุขขวัญ หัวหน้างานป่าสงวนแห่งชาติ และผู้ดูแลโครงการฯ เล่าที่มาของกิจกรรมว่า ไอเดียเริ่มต้นมาจากคำบอกเล่าของสมาชิกโครงการที่พบเห็นนกรูปร่างหน้าตาไม่คุ้นอยู่หลายชนิดหลังวันกอไผ่เติบใหญ่ คาดว่าคงเป็นนกอพยพจากถิ่นอื่นบินมาพักอาศัยชั่วคราวก่อนลาจากไปยังจุดหมายปลายทาง
จากถ้อยความนั้นได้เปลี่ยนเป็นไอเดียงานเก็บข้อมูลนกอพยพกันแบบง่ายๆ ผ่านการส่องกล้องตามวันเวลาที่กำหนดเป็นประจำทุกเดือนในพื้นที่รอบๆ แนวเชื่อมผืนป่า – เป็นเพียงการเก็บข้อมูลเบื้องต้น ไม่ได้ถึงขั้นทำวิจัยเป็นเรื่องเป็นราว
เพียงลองศึกษารายละเอียดกันก่อนว่าพื้นที่แนวเชื่อมต่อผืนป่ามีนกอพยพจริงหรือไม่ หากเป็นดังว่าคงขยับแผนงานพัฒนากิจกรรมให้เป็นการศึกษาวิจัยอย่างเต็มรูปแบบ มองถึงขั้นการทำเครื่องหมายนกอพยพอย่างการใส่ห่วงขาไปจนการติดเครื่องส่งสัญญาณวิทยุติดตามตัวสัตว์ระบบดาวเทียม และผลักดันกิจกรรมอนุรักษ์นกอพยพในพื้นที่ต่อไป
อย่างไรก็ดี หวังนั้นยังค้างอยู่ในอากาศ จากวันเริ่มเก็บข้อมูลจนมาถึงนาทีปัจจุบัน ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้จากการส่องกล้องและจรดปากกาบันทึกพบเพียงนกประจำถิ่นทั้งหมด ไร้ทั้งเงาและเสียงของนกต่างถิ่น
เรื่องราวฟังดูชวนผิดหวัง แต่หัวหน้างานป่าสงวนแห่งชาติ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ‘ไม่เป็นไร’ หากสุดท้ายข้อมูลที่ได้ไม่สมดังใจหมาย อย่างน้อยยังได้ทราบความหลากหลายของชนิดนกที่เข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่เชื่อมป่า
ซึ่งตามข้อมูลการสำรวจแต่ละครั้งพบเห็นนกไม่ต่ำกว่า 15 ชนิด บางวันพบมากกว่า 30 ชนิด
ตัวอย่างการเก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 พบนกอีเสือสีน้ำตาล นกแซงแซวหางบ่วง นกขุนแผน นกปรอดหน้านวล นกยางกรอกพันธุ์จีน นกกาแวน นกอีแพรดแถบอกดำ นกกางเขนบ้าน นกเอี้ยงหงอน นกกาเหว่า นกขมิ้นหัวดำใหญ่ นกเขียวก้านตองหน้าผากสีทอง นกบั้งรอกใหญ่ นกกางเขนดง นกปรอดสวน นกตะขาบทุ่ง นกขมิ้นน้อยธรรมดา นกปรอดหัวสีเขม่า นกขุนทอง เหยี่ยวนกเขาชิครา นกกระจิบคอดำ นกจับแมลงอกดำ นกกระเต็นอกขาว นกกะปูดใหญ่ นกเค้าแมว นกกินปลีอกเหลือง นกจับแมลงสีน้ำตาล และนกแอ่นพง (ซึ่งยังเป็นข้อมูลดิบที่รอการตรวจสอบเช็ครายละเอียดความถูกต้องอีกที)
นกเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของจิ๊กซอว์ระบบนิเวศที่เริ่มแสดงให้เห็นคุณประโยชน์ของทางเชื่อมป่าที่สัตว์ปีกได้รับ และในอนาคตจะเพิ่มมิติงานสำรวจข้อมูลความหลากหลายและการใช้ประโยชน์ของสัตว์ชนิดอื่นๆ เพื่อเติมภาพฝันให้สมบูรณ์
แม้วันนี้ยังไม่พบนกอพยพในระหว่างการศึกษา แต่เวลาของการทำงานก็ยังไม่ถึงวันสิ้นสุด ในอนาคตอาจพบเห็นเข้าสักวันก็เป็นได้




อนึ่ง ตามข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระว่า ปัจจุบันนกอพยพเจอภัยคุกคามจากหลากหลายสาเหตุ ได้แก่ ภัยจากการล่าและทำลายถิ่นอาศัย และเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้นกอพยพและนกในประเทศไทยถูกคุกคามจนเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ โดยเฉพาะนกที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่ชุ่มน้ำ และบริเวณชายฝั่ง จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
สำหรับการล่า รวมทั้งการทำให้นกตายโดยทางอ้อมจากการใช้ยากำจัดศัตรูพืชในการเกษตรกรรม ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของไข่และลูกนก
การทำลายแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งหากินและแหล่งหลบภัย การทำให้แหล่งน้ำเน่าเสีย การเปลี่ยนสภาพธรรมชาติเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ เพื่อทำการเกษตร หรือแหล่งอุตสาหกรรม การเปลี่ยนสภาพระบบนิเวศบางอย่าง เช่น การขุดลอกหนองบึง การเผาหรือลอกหญ้าและผักตบชวา การปนเปื้อนของสารพิษ การปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำ กิจกรรมการใช้ประโยชน์ เช่น การจับสัตว์น้ำ การเลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้เกิดการรบกวนต่อการอยู่อาศัยของนก ทำให้แหล่งอาหาร ถิ่นอาศัย และแหล่งสร้างรังวางไข่ของนกเหล่านี้ถูกทำลายจนเปลี่ยนสภาพไป
นอกจากนี้ นกอพยพยังมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการระบาดของไข้หวัดนก H5N1 ดังนั้นการศึกษานกอพยพจึงเกี่ยวข้องกับการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกที่มีผลกระทบต่อคนด้วย
โครงการเชื่อมป่าฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณทำกิจกรรมจากกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร ข้าว ขนส่ง และบริการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ภายใต้แผนงานระยะยาว มานับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ
ผู้เขียน
ทำงานอิสระที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ การเขียน เรื่องสิ่งแวดล้อมและดนตรีนอกกระแส - เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตใช้ไปกับการนั่งมองความเคลื่อนไหวของใบไม้และสายลม