ราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ขอกันที่ทํากินออกจากพื้นที่โครงการไฟฟ้าพลังงานลม

ราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ขอกันที่ทํากินออกจากพื้นที่โครงการไฟฟ้าพลังงานลม

ราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ รุดยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ มุกดาหาร ร้องให้มีคําสั่งกันพื้นที่ทํากินทั้งหมดของราษฎรออกจากพื้นที่โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม ชี้ทับซ้อนที่ดินทํากินของราษฎรและอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหาเรื่องนโยบายทวงคืนผืนป่า

27 ตุลาคม 65  เวลา 10.00 น. ณ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ กว่า 50 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เพื่อขอให้มีคําสั่งกันพื้นที่ทํากินทั้งหมดของราษฎรออกจากพื้นที่โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม บริษัท 555 กรีน เอ็น เนอร์จี้ จํากัด ของเทศบาลตําบลคําป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร หลังสภาเทศบาลตําบลคําป่าหลายมีมติเห็นชอบอนุญาตเข้าทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมูแปลง 2 เพื่อดําเนินการโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมของบริษัทดังกล่าว เมื่อวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมาทั้งที่มีการคัดค้านจากประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่สำนักงานพลังงานจังหวัดมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร เป็นตัวแทนผู้ว่าฯมุกดาหารมารับหนังสือจากราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ

โดยตัวแทนราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ ได้อ่านเนื้อหาในหนังสือก่อนทำการยื่นหนังสือ ซึ่งหนังสือได้ระบุใจความสำคัญว่า พื้นที่ยื่นคําขอเพื่อดําเนินการโครงการดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบ้านแก้ง-โนนคำ ตําบลคําป่าหลาย อําเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ทับซ้อนที่ดินทํากินของราษฎรหลายราย ทั้งอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหาเรื่องนโยบายทวงคืนผืนป่าที่มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐจากหน่วยงานพื้นที่เข้าทําการตัดต้น ยางพารา ไถทําลายอาสิน และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง โดยที่ไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ในที่ดินทํากินของราษฎรในพื้นที่อีกทั้งยังไม่มีการประชาสัมพันธ์โครงการใดๆ ให้ประชาชนรับทราบ ทั้งสิ้น ว่าโครงการมีขอบเขตอย่างไร เป็นการจัดทําโรงไฟฟ้ากี่เมกกะวัตต์ และมีการจัดทํารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นแล้วหรือไม่ ประชาชนในพื้นที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการอย่างไรบ้าง หากพิจารณาตามระเบียบ คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ข้อมูลเบื้องต้นที่ทางเทศบาลตําบลคําป่าหลายต้องได้รับเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ และประกอบการตัดสินใจต้องประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้

1. รายละเอียดโครงการที่ขอเข้าทําประโยชน์ วัตถุประสงค์ ลักษณะการดําเนินการของโครงการ ผู้ได้รับ ผลประโยชน์ แนวทางการบริหารจัดการ พร้อมแปลนแผนผัง และแผนการใช้ประโยชน์

2. แผนที่แสดงภูมิประเทศ 1:50,000 และภาพถ่ายทางอากาศ มาตราส่วนตามความเหมาะสม พร้อมแผนที่สังเขป แสดงพื้นที่ที่ขอใช้ประโยชน์

3. รายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น

ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลพื้นฐานที่จะทําให้เห็นว่าประชาชนที่อยู่ในขอบเขตการปกครองของท่านจะได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวมากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นหน้าที่ของท่านโดยตรงที่ต้องปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน 

การไม่แจ้งข้อมูลดังกล่าวให้ประชาชนในพื้นที่ทราบ ถือเป็นการจงใจปกปิดข้อมูล และการมีมติเห็นชอบต่อการใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯ ของโครงการดังกล่าว โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ย่อมเป็นการกระทําที่ผิดต่อระเบียบและข้อกฎหมาย

กลุ่มราษฎรบ้านแก้ง-บ้านโนนคํา จึงขอให้เทศบาลตําบลคําป่าหลาย ได้มีมติเพิกถอนมติเห็นชอบการขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมูแปลง 2 เพื่อทําโครงการดังกล่าว และขอให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบโดยทั่วกันก่อน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วน ร่วมกับการพัฒนาพื้นที่ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย 

ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ ต.คําป่าหลาย อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารมีคําสั่งกันพื้นที่ทํากินของชาวบ้านทั้งหมด ออกจากพื้นที่โครงการดังกล่าวเพื่อป้องกันไม่ให้ราษฎรในพื้นที่ต้องได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว และเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในอนาคต

ภายหลังจากยื่นหนังสือเจ้าหน้าที่สำนักงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหารได้กล่าวว่าจะนำหนังสือร้องเรียนเสนอถึงผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหากกระบวนของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมไม่ถูกต้องต้องทำการยกเลิกมติสภาเทศบาลตำบลคำป่าหลาย

ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหารก็กล่าวว่าถ้ากระบวนการไม่ถูกต้องและมีปัญหากับชาวบ้านในพื้นที่ก็คงจะไม่อนุญาตให้ทำโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม

ขณะที่ราษฎรบ้านแก้ง-บ้านโนนคํา ได้กล่าวย้ำว่า “ต่อไปถ้ามีโครงการอะไรไม่อยากให้ทำในพื้นที่นี้ เพราะผ่านมามีทั้งประเด็นเรื่องนโยบายทวงคืนผืนป่า โครงการเหมืองแร่หินทราย และยังมีโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม ชาวบ้านสู้เรื่องเหมืองมา 5 ปี เข้าสู่ปีที่ 6 และสวนมันสวนอ้อยก็ไม่ได้ทำเพราะได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า ต้องหยุดซ้ำเติมชาวบ้านในพื้นที่ด้วยโครงการต่าง ๆ และเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ราษฎรในพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบและเกิดความขัดแย้งในอนาคต”

ทั้งนี้ราษฎรบ้านแก้ง-บ้านโนนคํา ยังได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือฉบับดังกล่าวต่อนายอำเภอเมืองมุกดาหารและนายกเทศมนตรีตำบลคำป่าหลายอีกด้วย

เรื่อง : กลุ่มราษฎรบ้านแก้ง-บ้านโนนคำ