งานวิจัยชี้ การผลิตข้าวสาลีอาจเผชิญวิกฤติจากภัยแล้งและอากาศร้อนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

งานวิจัยชี้ การผลิตข้าวสาลีอาจเผชิญวิกฤติจากภัยแล้งและอากาศร้อนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

โลกปัจจุบันกำลังร้อนมากขึ้น ทำให้รูปแบบของภูมิอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับสภาพอากาศสุดขั้วที่บ่อยครั้งและรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งรุนแรงและคลื่นความร้อน ซึ่งจะกระทบต่อผลผลิตต่อไร่และความมั่นคงทางอาหาร 

การศึกษาล่าสุดโดยนักวิจัยจาก Friedman School of Nutrition Science and Policy มหาวิทยาลัยทัฟท์ (Tufts University) พบว่ามีความเป็นไปได้อย่างยิ่งอุณหภูมิสุดขั้วจะกระทบผลผลิตข้าวสาลีโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและจีน

ข้อค้นพบดังกล่าวพยากรณ์ว่าคลื่นความร้อนที่จะเกิดขึ้นทุกๆ หลายร้อยปีดังเช่นที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2524 จะมีแนวโน้มเกิดขึ้นทุกๆ 6 ปีในภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา และทุกๆ 16 ปีในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน การศึกษาชิ้นนี้จึงฉายภาพสภาพแวดล้อมที่เราต้องเตรียมรับมือ ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะยังไม่เกิดขึ้นก็ตาม

“ประวัติศาสตร์ด้านภูมิอากาศไม่สามารถใช้เป็นภาพแทนสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกต่อไป” Erin Coughlan de Perez นักวิจัยหลักของงานชิ้นดังกล่าวแสดงความเห็น “เราอยู่ในโลกที่ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และประชาชนก็ประเมินโอกาสที่จะเกิดภัยธรรมชาติที่เลวร้ายต่ำเกินไป”

รายงานฉบับล่าสุดจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change) อุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวโลกในทศวรรษที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 1.1 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับช่วงเวลาระหว่างปี ค.ศ. 1850 – 1900 เพื่อประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภูมิอากาศอย่างไร Coughlan de Perez และทีมวิจัยรวบรวมการพยากรณ์อากาศตลอด 40 ปีที่ผ่านมา แล้วสร้างสถานการณ์จำลองหลายพันรูปแบบทั้งในด้านอุณหภูมิและปริมาณน้ำฝน วิธีการดังกล่าวมีชื่อเรียกว่าการสร้างจำลองแบบองค์รวมของเหตุการณ์วิกฤติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน (Unprecedented Simulated Extreme Ensemble) ด้วยวิธีการนี้ นักวิจัยจะสามารถประมาณการได้ว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่อุณหภูมิจะสูงจนเสี่ยงต่อระดับผลิตภาพของพืชอาหารสำคัญอย่างข้าวสาลี

ข้าวสาลีที่ปลูกในช่วงฤดูหนาวจะเริ่มปลูกในฤดูใบไม้ร่วงและเก็บเกี่ยวในฤดูร้อน หากในฤดูใบไม้ผลิซึ่งเป็นช่วงที่ข้าวสาลีกำลังผลิดอก เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นมากก็อาจกระทบต่อพัฒนาการของต้นข้าวได้ หากอุณหภูมิสูงกว่า 27.8 องศาเซลเซียส พืชก็จะเผชิญความเครียดจากความร้อน หากอุณหภูมิสูงกว่า 32.8 องศาเซลเซียส เอนไซม์สำคัญของข้าวสาลีก็จะเริ่มตายลง

“ที่ผ่านมา เราคุ้นเคยกับฤดูกาลที่ข้าวสาลีจะเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงจนเอนไซม์เริ่มตายประมาณ 4 ถึง 5 วัน แต่หากมากกว่านั้นก็ถือว่าไม่ปกติ” Coughlan de Perez อธิบายเพิ่มเติม “แต่งานวิจัยของเราพบว่ามีความเป็นไปได้ที่ภูมิอากาศในปัจจุบันจะร้อนเกินระดับดังกล่าวราว 15 วันซึ่งน่าจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อผลผลิต”

อุณหภูมิที่สูงทุบสถิติมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับภัยแล้งรุนแรงเช่นกัน สองวิกฤตินี้จะสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงในฤดูเพาะปลูก สหรัฐอเมริกาและจีนต่างนับว่าเป็นตะกร้าขนมปังหรือแหล่งผลิตข้าวสาลีป้อนตลาดโลกที่สำคัญอย่างยิ่ง หากผลผลิตในสองแห่งนี้เกิดปัญหาขึ้นพร้อมกัน หรือในช่วงเวลาที่พืชอาหารชนิดอื่นประสบภัยพิบัติเช่นกันก็อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อความมั่นคงทางอาหารทั่วโลกทั้งในแง่ปริมาณและราคา

ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าสองสามปีที่ผ่านมาถือว่าเราโชคดี เพราะภูมิอากาศมีองค์ประกอบของการสุ่มที่ยากจะคาดเดาไม่ต่างจากการทอยลูกเต๋า ช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมาทั้งจีนและสหรัฐอเมริกาต่างมีอากาศที่ค่อนข้างเย็น แต่ถ้าลูกเต๋าเกิดเปลี่ยนหน้าเป็นอุณหภูมิสูงลิ่ว ทั้งสองประเทศนี้ที่ยังไม่เคยเผชิญกับวิกฤติขั้นรุนแรงก็อาจจะยังไม่พร้อมรับมือ

“ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถบอกให้คนตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ รวมถึงโอกาสที่เราจะเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติขั้นรุนแรงนั้นสูงขึ้นมาก” Coughlan de Perez ระบุ “แม้ว่าเราจะยังไม่ทอยลูกเต๋าออกหน้าที่จะทำให้เกิดหายนะเร็วๆ นี้ แต่ฉันคิดว่าการมีแผนสำรองและป้องกันไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย”

“ในมุมมองของฉัน เราขาดจินตนาการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรานึกไม่ถึงว่าภัยพิบัติเลวร้ายขนาดไหนกำลังรอเราอยู่ข้างหน้า นี่คือสาเหตุที่เราไม่เตรียมพร้อมเท่าที่ควร แต่เราสามารถเตรียมตัวให้พร้อมรับมือได้โดยใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อทำความเข้าใจว่ามีโอกาสเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคต แล้วเตรียมพร้อมรับมือ”

ถอดความและเรียบเรียงจาก New Research Suggests Wheat Crops May Be Threatened by Unprecedented Heat and Drought

ผู้เขียน

+ posts

บัณฑิตการเงินและการบัญชีที่สนใจความเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่าน เขียน เรียนคอร์สออนไลน์ และเลี้ยงลูกชายวัยกำลังน่ารัก