‘เมื่ออุณหภูมิเฉลี่ยโลกเพิ่มสูงขึ้น แม่น้ำในชั้นบรรยากาศจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และทำให้ฝนที่เกิดขึ้นนั้น เกิดบ่อยขึ้น รุนแรงขึ้น และกินเวลายาวนานขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากอากาศร้อนสามารถกักเก็บไอน้ำได้มากกว่าอากาศเย็น โดยนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าในอนาคต อัตราการเกิดของแม่น้ำในบรรยากาศจะเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 50 ซึ่งอาจทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ที่รุนแรงกว่าเดิม’
ปรากฏการณ์ ‘แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ’ แม่น้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้หลายพื้นที่ในภาคใต้ตกอยู่ในสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ฉับพลันหรือมหาอุทกภัย ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก เรียกได้ว่าเป็นฝนใหญ่ 300 ปี หรือโอกาสที่จะเกิดขึ้นคือเฉลี่ย 1 ครั้งในรอบ 300 ปี คิดเป็นร้อยละ 0.33 ต่อปีของความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

Atmospheric River คืออะไร?
แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ (Atmospheric Rivers; AR) คือบริเวณที่เป็นกระแสไอน้ำในชั้นบรรยากาศที่ไหลเวียนเป็นแนวยาว เปรียบเสมือนเป็นแม่น้ำสายหลักบนท้องฟ้า ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงไอน้ำหรือความชื้นออกจากบริเวณร้อนชื้นไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก ยิ่งอุณหภูมิโลกสูงขึ้น ยิ่งเกิดการสะสมของไอน้ำในชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น
เมื่อแม่น้ำในชั้นบรรยากาศเคลื่อนที่ผ่านเหนือยอดเขาสูงหรือเข้ายังพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ไอน้ำจะลอยขึ้นและเย็นตัวลง เกิดการควบแน่นจนก่อให้เกิดฝนตกหรือลูกเห็บตกลงมาอย่างฉับพลัน ซึ่งถ้าหากแม่น้ำในชั้นบรรยากาศมีกำลังอ่อน ถือเป็นประโยชน์และมีความสำคัญต่อแหล่งน้ำ แต่หากแม่น้ำในชั้นบรรยากาศมีกำลังแรง ก็สามารถทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม รวมถึงดินโคลนถล่มได้เช่นกัน
และจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น เมื่อแม่น้ำในชั้นบรรยากาศอยู่เหนือพื้นที่รับน้ำที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดมหาอุทกภัย การคมนาคมถูกทำลาย และสร้างความเสียหายมหาศาลต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
ตัวอย่างเช่น Pineapple Express ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่แม่น้ำในชั้นบรรยากาศกำลังแรง หอบเอาความชื้นจากเขตร้อนใกล้เกาะฮาวาย พัดมายังชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา จนทำให้เกิดฝนตกหนักและหิมะตกเป็นบริเวณกว้างนั่นเอง
ปัจจุบันองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration; NOAA) และหน่วยงานวิจัยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการติดตามปรากฏการณ์นี้ เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม เรดาร์ตรวจอากาศเครื่องบินสำรวจ และแบบจำลองสภาพอากาศเชิงตัวเลข (Numerical Weather Models) เพื่อทำความเข้าใจโครงสร้างและวิเคราะห์แนวโน้ม ซึ่งช่วยให้สามารถพยากรณ์ความเสี่ยงล่วงหน้าได้ 5 ถึง 7 วัน เอื้ออำนวยต่อการแจ้งเตือนภัยและการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
และด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่ปัจจุบันทวีความรุนแรงมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญที่ส่งผลให้ปรากฏการณ์แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ มีความถี่และรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนำมาสู่ความเสี่ยงด้านอุทกภัยและภัยพิบัติที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นอกจากปัจจัยทางวิทยาศาสตร์แล้ว ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงนโยบายของหน่วยงานภาครัฐ ในการเตรียมความพร้อม การรับมือ และการฟื้นฟู ภายใต้ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากปรากฏการณ์ดังกล่าว ถือเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญถึงความรุนแรงของภัยพิบัติ และสะท้อนให้เห็นว่าแนวทางการดำเนินงานของรัฐนั้น นำไปสู่การแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือเป็นการซ้ำเติมความเปราะบางของประชาชนในสถานการณ์ภัยพิบัติเช่นนี้
อ้างอิง
- What are atmospheric rivers? I NOAA
- Weather: ทำความรู้จักกับ “Atmospheric River” หรือ ‘แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ’ ซึ่งกำลังทำให้รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาเสี่ยงหายนะจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ I TNN Earth
ผู้เขียน
สาวแว่นทาสแมวที่ชอบบอกเล่าเรื่องราวผ่านลายเส้น มีธรรมชาติช่วยฮีลใจ และหลงใหลในพระจันทร์เสี้ยว



