คู่มือขั้นกลาง โรงเรียนนักเดินป่า อุทยานแห่งชาติน้ำพอง

คู่มือขั้นกลาง โรงเรียนนักเดินป่า อุทยานแห่งชาติน้ำพอง

จะไปเดินป่า ต้องทำแบบทดสอบด้วยหรอ??

หากยังไม่รู้จัก “โรงเรียนนักเดินป่า” หลายคนอาจสงสัย เเละเกิดคำถามนี้ในใจ

ตลอดระยะเวลาร่วม 4 ปี โรงเรียนนักเดินป่าได้มีการเปิดหลักสูตรขั้นต้นไปแล้วใน 7 พื้นที่อนุรักษ์ ได้เเก่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อุทยานแห่งชาติน้ำพอง อุทยานแห่งชาติภูเวียง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติคลองลาน อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เเละอุทยานแห่งชาติภูผายล เพื่อให้ผู้ที่สนใจธรรมชาติได้เรียนรู้เรื่องการเตรียมตัวเเละการเดินป่าอย่างถูกต้อง พร้อมสำหรับสถานการณ์ต่างๆ ในการเดินป่า โดยมีหัวใจหลักคือ “พึ่งพาตนเอง เคารพธรรมชาติ เเละให้เกียรติเพื่อนร่วมทาง”

ในเดือนตุลาคม 2568 นี้ โรงเรียนนักเดินป่าก็ได้เปิดหลักสูตรขั้นกลางรุ่นที่ 1 โดยจัดขึ้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำพอง จังหวัดขอนเเก่น หลักจากที่มีการร่างหลักสูตรร่วมกันมาเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปี เเละมีการทดลองหลักสูตรไปแล้วสองครั้ง ณ อุทยานแห่งชาติคลองลาน เเละเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เเต่เพิ่งเปิดรุ่นที่ 1 อย่างเป็นทางการที่อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ในวันที่ 17-19 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีผู้สมัครเเละผ่านการคัดเลือกทั้งสิ้น 21 คน (ต้องผ่านหลักสูตรขั้นต้นมาเเล้วจึงมีสิทธิ์สมัครได้) 

ในขั้นตอนการสมัครคัดเลือกนั้นมีขั้นตอนคล้ายกับการสมัครในหลักสูตรขั้นต้นคือ ผู้สมัครจะต้องมีการลงทะเบียนผ่าน https://nationalparkoutdoor-edu.com/ และใส่รหัสโรงเรียนนักเดินป่าขั้นต้นที่ผู้ผ่านหลักสูตรเเต่ละคนจะมีรหัสประจำตัวอยู่เเล้ว เพื่อยืนยันการสมัคร หลังจากนั้นจะต้องทำแบบทดสอบ 8 เรื่องให้ผ่าน ได้เเก่ (1) การเตรียมตัวเเละการจัดการตัวเอง (2) การจัดการที่พักแรม (3) การเดินเทรลเเละการเเก้ปัญหา (4) การประกอบอาหาร (5) การจัดการกองไฟ (6) การหาแหล่งน้ำและการทำน้ำสะอาด (7) การดูแลสุขภาพและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น (8) การศึกษาสัตว์ป่าและการระวังภัย โดยจะผ่านได้นั้นเเต่ละหัวข้อต้องได้คะเเนนเกิน 80% จึงจะได้ใบ Certificate เพื่อนำมาเเนบยืนยันการสมัครอีกครั้งหนึ่ง เเล้วจึงรอประกาศผลผู้ผ่านการคัดเลือก เพื่อไปเดินป่าในพื้นที่จริง ซึ่งเป็นการฝึกภาคสนาม ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน  

อ่านมาถึงตรงนี้ อย่าเพิ่งถอดใจกันไปก่อนนะ…

ขั้นตอนอาจจะมากหน่อย แต่ท้ายที่สุดเเล้วรับรองได้เลยว่าคุณจะได้อะไรกลับไปไม่น้อยเลยจากการมาเรียนครั้งนี้ ซึ่งผู้สอนทุกคน (อาสาสมัครเเละเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า) ล้วนมีความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องเพื่อการเป็นนักเดินป่าที่มีคุณภาพให้กับผู้เรียนทุกคนต่อไป โดยหลักสูตรขั้นกลางนี้มีวัคถุประสงค์เพื่อให้ผู้ที่สนใจศึกษาธรรมชาติ สามารถเดินป่าระยะไกล 2-3 คืนได้อย่างปลอดภัย โดยมีผู้นำทางแต่สามารถพึ่งพาตนเองในทุกด้าน มีความพร้อมรับผิดชอบตัวเองได้ตลอดเส้นทาง เเละลดผลกระทบต่อธรรมชาติให้น้อยที่สุด 

ผู้ที่ผ่านการเรียนออนไลน์มาเเล้ว ถึงเวลาพร้อมลงสนามเพื่อฝึกภาคปฏิบัติกันต่อ การฝึกภาคสนามใช้ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน แต่ทางอุทยานฯจะให้เดินทางมาล่วงหน้าก่อน 1 วัน โดยจะใช้เวลาช่วงบ่ายๆ ใน ลงทะเบียน เเละเริ่มบทเรียน 3 เรื่อง คือ การเตรียมตัวเเละการจัดการตัวเอง การดูแลสุขภาพและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เเละการศึกษาสัตว์ป่าและการระวังภัย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเดินป่า เพราะการเข้าป่าครั้งนี้มีระยะทางค่อนข้างไกล การเตรียมตัวด้านต่างๆ จึงมากขึ้นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนมื้ออาหาร ยาเเละอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น ต้องเตรียมให้พร้อมทุกสถานการณ์ แต่ต้องไม่เกินกำลังของเราที่จะแบกเข้าป่าไป 

แน่นอนว่าทุกคนที่เข้าเรียน โรงเรียนนักเดินป่า จะต้องจัดการดูเเลตัวเองได้ทั้งหมด เเละแบกของเอง เพราะสิ่งหนึ่งที่เราเน้นมากๆ คือ “การพึ่งพาตนเอง”

เริ่มต้นวันเเรก 

วันเเรกจริงๆ ในการฝึกภาคสนาม จะมีการเเบ่งกลุ่ม ซึ่งกลุ่มนี้จะอยู่ด้วยกันตลอดระยะเวลาการฝึก  ผู้สอนจะเริ่มบทเรียนแรกคือ เรื่องการใช้แผนที่เข็มทิศ เเต่ละกลุ่มจะได้แผนที่เเสดงพื้นที่ภูมิประเทศบางส่วนของอุทยานแห่งชาติน้ำพองเเละพื้นที่บริเวณใกล้เคียง เราจะได้เรียนรู้กันตั้งเเต่เรื่ององค์ประกอบของแผนที่ สัญลักษณ์ต่างๆ การเริ่มใช้แผนที่เข็มทิศต้องทำอย่างไร อ่านอย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้มีอยู่ในเนื้อหาออนไลน์อยู่เเล้ว การมาฝึกอีกครั้งในภาคสนามจะทำให้เราได้ปฏิบัติเเละลองใช้จริง 

ระหว่างการเดินในวันเเรกจะมีการสอนกันในเเต่ละเรื่องเป็นระยะๆ ไป ทั้งเรื่องการเดินเทรลเเละการเเก้ปัญหา การหาแหล่งน้ำเเละทำน้ำสะอาด ส่วนเรื่องการใช้เเผนที่เข็มทิศผู้เรียนจะต้องคอยหมั่นสังเกตุเเละเรียนรู้ไปตลอดทาง นอกเหนือจากบทเรียนเเล้วจะมีการสอดแทรกความรู้ด้านนิเวศวิทยาจากทีมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ทั้งในส่วนของอุทยานแห่งชาติน้ำพองเเละเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ที่มาร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย การเดินในวันเเรกนี้จึงยังไม่เหนื่อยมากนัก เเละเป็นการวอร์มร่างกายไปในตัว 

เมื่อถึงเเคมป์ก็เข้าสู่บทเรียนเรื่องการจัดการที่พักเเรม ซึ่งจะต้องมีการจัดสรรพื้นที่ในการตั้งเเคมป์ ประกอบอาหาร จัดเตรียมหลุมฝังเศษอาหาร ไปจนถึงการกำหนดพื้นที่สำหรับจัดการธุระส่วนตัว (ซึ่งรายละเอียดของบทเรียนเเต่ละเรื่องเราจะไม่ลงรายละเอียดไว้ในครั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถไปเรียนออนไลน์เเละทำแบบทดสอบกันได้ที่เว็บไซต์ของโรงเรียนนักเดินป่า) ใช้เวลาไม่นาน ก็เเยกย้ายกันไปจัดการที่พักของตัวเอง มีเวลาให้เเบบไม่ต้องรีบร้อนนัก ก่อนค่ำจึงมาเข้าสู่หัวข้อต่อไปเรื่องการประกอบอาหาร พร้อมพูดคุยกันถึงการเดินในวันนี้ ก่อนนัดหมายถึงกำหนดการในวันรุ่งขึ้น เเล้วจึงเเยกย้ายกันไปประกอบอาหารเเละทำภารกิจส่วนตัว

ในแคมป์คืนเเรกจะอยู่ใกล้กับลำธาร ในฤดูกาลนี้ยังมีน้ำให้ใช้ได้ สามารถอาบน้ำได้ หลังจากเดินมาร้อนๆ เหงื่อชุ่มทั้งวันพอได้มาเจอลำธารแบบนี้รับรองว่าชุ่มฉ่ำใจจนลืมความเหน็ดเหนื่อยไปได้เลย เพราะนอกจากน้ำที่เย็นฉ่ำเเล้ว ขยับจากบริเวณที่เเช่น้ำได้ไปอีกหน่อยเป็นหน้าผาสูง ในระหว่างเเช่น้ำจึงมองเห็นเเสงไฟไกลๆ จากหมู่บ้านด้านล่าง และหากแหงนหน้าขึ้นมาอีกหน่อยจะพบกับหมู่ดาวเต็มท้องฟ้ายามราตรี นับเป็นความสุขเล็กๆ ของการเดินป่าในวันนี้

แต่ในรอบต่อๆ ไปอาจต้องเผื่อใจไว้บ้างเพราะน้ำในลำธารสายต่างๆ ไม่ได้มีปริมาณเพียงพอต่อการอาบน้ำทุกครั้ง  ทางที่ดีควรเช็คกับทางพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง

วันที่สองของการฝึกภาคสนาม 

หลังจากที่วันเเรกได้มีการสอนไปเเล้วส่วนหนึ่ง ในวันนี้จะเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติ โดยทีมงานโรงเรียนนักเดินป่าเป็นพี่เลี้ยงเเละค่อยเสริมให้ในบางเรื่อง ระยะทางการเดินในวันนี้ไม่ต่างจากวันเเรกคือราวๆ  7-8 กิโลเมตร เเต่สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือความชันของพื้นที่เเละสภาพเส้นทางเดินที่ไม่ชัดเจนนัก บางช่วงเป็นพื้นที่โล่งมีหญ้าสูงท่วมหัว หากเดินทิ้งขบวนอาจมีสิทธิหลงทางได้ ความรู้จากบทเรียนเรื่องการเดินเทรลฯ การสังเกตร่องรอยสัตว์ป่า เเละการใช้แผนที่เข็มทิศจึงถูกสอดเเทรกเข้ามาในสถานการณ์จริงให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะกันตลอดเส้นทาง

ช่วงบ่ายของวันเส้นทางจะมาพามาพบกับบริเวณหน้าผา เบื้องหน้าเป็นวิวอ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ ด้านซ้ายมือจะเห็นชะง่อนหินบริเวณจุดชมวิวหินช้างสี ขวามือเป็นเทือกเขาภูพานคำ ตรงจุดนี้เองที่มีพื้นที่ชัดเจนเป็นที่สังเกตได้ เหมาะเเก่การเรียนเรื่องการสกัดกลับในบทเรียนของเเผนที่เข็มทิศ เราใช้เวลากันตรงจุดนี้พักใหญ่ค่อยๆ เรียนรู้กันไป ในขณะเดียวกับก็ถือโอกาสพักขาจากการเดินเเละรับลมเย็นๆ กันไปในตัว

บ่ายแก่ๆ ได้เวลาออกเดินทางไปยังเเคมป์พักในคืนที่สองอีกราวๆ 2 กิโลเมตร แต่เป็น 2 กิโลเมตรที่ใช้เวลาค่อนข้างนานเนื่องจากทางขึ้นลงเนินหลายรอบเเละรกทึบ กว่าจะถึงเเคมป์แสงในป่าก็น้อยลงทุกที การจัดเตรียมที่นอนในวันนี้จึงต้องเเข่งกับเวลาพอสมควร 

ภายในแคมป์ของวันนี้ลำธารสายเล็กๆ พอให้ใช้ล้างถ้วยชาม เเละดื่มกินได้ จะอาบน้ำก็ได้เช่นกัน เเต่ต้องใช้การตักอาบ กิจกรรมค่ำนี้ไม่มีอะไรมาก ปล่อยให้ทุกคนได้ทำอาหารเเละสนทนากันกันตามอัธยาศัย ก่อนที่จะเเยกย้ายกันไปนอนเอาเเรงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในวันสุดท้าย

สายๆ ของวันที่สาม

ทุกคนจัดการมื้อเช้า เก็บของ เคลียร์เเคมป์เรียบร้อยเเล้ว ก็ขึ้นเป้เตรียมพร้อมเเล้วมายืนล้อมวงกันเพื่อเตรียมตัวเดินตามกลุ่มที่เเบ่งไว้ 

ในวันนี้ทีมงานโรงเรียนนักเดินป่าจะบอกพิกัดหมุดหมายปลายทางเเละเวลาที่ควรไปถึงจุดนัดหมาย เเละปล่อยให้นักเรียนขั้นกลางทุกคนวางเเผนการเดินทาง การพัก เเละจัดสรรเวลากันเอง เส้นทางเดินวันนี้ไม่ไกลนัก เเต่ก็มีความรก ขึ้นลงเนิน เลาะผาหินเป็นระยะๆ ประกอบกับช่วงที่เดินผ่านทุ่งหญ้า หญ้าขึ้นสูงเกือบมิดตัว ตามทางเดินมีหินลอย เเละเถาวัลย์ค่อนข้างมาก ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเดินมากกว่าปกติ 

บรรยากาศสองข้างทางค่อนข้างหลากหลาย เดินช้าๆ ดูดอกไม้จิ๋ว ดอกหญ้าข้างทาง ขนุนดิน เห็ดต่างๆ แมลงทับสีสันสดใส เเละก้อนหินขนาดใหญ่ดูแปลกตาสองข้างทาง ก็ทำให้เพลิดเพลินลืมเหนื่อยไปได้ชั่วขณะ

ราวๆ บ่ายสามโมงทุกทีมก็ทยอยมาถึงที่หมายในระยะเวลาไล่เรี่ยกัน ตรงจุดนี้มีการล้อมวงสรุปกิจกรรม เเละประเมินนักเรียนขั้นกลางตามหัวข้อการเรียนทั้ง 8 หัวข้อ ซึ่งดำเนินการโดยคุณครูร่วมกับเจ้าหน้าที่ฯ ประจำกลุ่ม ก่อนที่จะมีการรับใบประกาศ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการผ่านหลักสูตรขั้นกลางโดยสมบูรณ์

โดยหลักสูตรการเรียนการสอนทั้งหมดนี้ทางโรงเรียนนักเดินป่าไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์เเต่อย่างใด จะเป็นการดีมากหากผู้ที่ผ่านการเรียนในครั้งนี้ได้นำหลักสูตรไปใช้ต่อยอดในงานของตนเอง หรือ ขยายผลต่อในเเบบที่ตนเองทำได้ ก็จะเป็นการส่งต่อวัฒนธรรมการเดินป่าที่ถูกต้องไปได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งนั้นเป็นเป้าประสงค์ของโรงเรียนนักเดินป่าอยู่เเล้ว

บทความนี้เป็นเพียงคู่มือคร่าวๆ (ไม่บอกละเอียดมากอยากให้ไปเจอเรื่องสนุกๆ ด้วยตัวเอง) ให้กับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโรงเรียนนักเดินป่าในหลักสูตรขั้นกลาง อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ได้รู้ถึงสิ่งที่ต้องเจอ (ออนไลน์/ภาคสนาม) เพื่อเตรียมความพร้อม เเละรู้วิธีการในการสมัคร ซึ่งหากลองทำตามไปทีละขั้นตอนจะพบว่าไม่ได้ยากจนเกินไปนัก (หากผ่านขั้นต้นมาเเล้วน่าจะทราบดี) ส่วนใครที่อยากจะเริ่มจากขั้นต้น สามารถติดตามการเปิดรับสมัครได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : โรงเรียนนักเดินป่า อุทยานฯ แต่ละเเห่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเปิดรับสมัคร ตามความพร้อมของเเต่ละพื้นที่ ซึ่งอาจบอกช่วงเวลาที่เเน่ชัดไม่ได้ ผู้ที่สนใจจะต้องติดตามเเละหมั่นเช็คเป็นระยะๆ

ภาพ : เกศรินทร์ เจริญรักษ์ / นายกรณ์ บุตรสีทา 

ผู้เขียน

+ posts

ถ่ายภาพเพื่อบันทึกเรื่องราว และบางคราวก็เอาภาพมาเล่าเรื่อง มีความสุขกับการดริปกาแฟ และชื่นชมแคตตัส