รวมแถลงการณ์ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร 2568 เพื่อปกป้องผืนป่า สัตว์ป่า เพื่อความยั่งยืนของทุกชีวิต

รวมแถลงการณ์ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร 2568 เพื่อปกป้องผืนป่า สัตว์ป่า เพื่อความยั่งยืนของทุกชีวิต

คัดค้านโครงการอุโมงค์ผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง จังหวัดกาญจนบุร (มกราคม) 

เนื่องจากพื้นที่โครงการบางส่วนอยู่ในเขตสงวนธรรมชาติเข้มข้น มีสภาพธรรมชาติเปราะบาง ควรค่าแก่การรักษาไว้ เพื่อเป็นที่อยู่ของสัตวป่า และแหล่งต้นน้ำ ลำธาร ซึ่งพื้นที่เขตนี้ไม่ควรให้มีการใช้ประโยชน์ใดๆ นอกจากจะปล่อยไว้ให้เป็นสภาพธรรมชาติแบบดั้งเดิม เพื่อมิให้เกิดการรบกวนการเป็นอยู่ของสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ซึ่งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย จึงควรนำเสนอข้อมูลทางเลือกอื่นๆ เพื่อประกอบการพิจารณาอย่างรอบคอบ

อ่านแถลงการณ์

ข้อกังวลและห่วงใยต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ชุ่มน้ำเวียงหนองหล่ม จังหวัดเชียงราย (กุมภาพันธ์)

ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานทบทวน และให้ตระหนักถึงความสมดุล และความสำคัญอย่างยิ่งยวด โดยมีการตรวจสอบกระบวนการขั้นต้นต่อการดำเนินโครงการ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อฐานทรัพยากรธรรมชาติทั้งในปัจจุบันและระยะยาว

อ่านแถลงการณ์

คัดค้านโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย (พฤษภาคม) 

การพัฒนาโดยไม่คำนึงถึงศักยภาพของพื้นที่และสัตว์ป่าเป็นตัวตั้ง อาจนำไปสู่สถานภาพของพื้นที่ที่ลดคุณค่าลงตามที่ได้นำเรียนข้างต้น จนอาจไม่เหมาะสมที่จะเป็นอุทยานแห่งชาติ นำไปสู่การเพิกถอนเพื่อเหตุผลแห่งการพัฒนาในที่สุด ด้วยเหตุผลดังกล่าว มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอยืนยันคัดค้านโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง เพื่อคงคุณค่าการเป็นพื้นที่อนุรักษ์ต่อไป

อ่านแถลงการณ์

สนับสนุนการเดินเท้าของม๊ะทม สินสุวรรณ และเครือข่ายเพื่อปกป้องทะเลระนอง-ชุมพร จากเเลนด์บริดจ์ (สิงหาคม) 

ขอร่วมสนับสนุนการเดินเท้าของม๊ะทม สินสุวรรณ และเครือข่ายเพื่อปกป้องทะเลระนอง-ชุมพร จากเเลนด์บริดจ์ และขอเรียกร้องให้ สนข. ยุติเวที ค.3 หยุดใช้ร่าง EHIA ฉบับนี้เป็นใบเบิกทางทำลายระบบนิเวศและวิถีชีวิตชุมชน

อ่านแถลงการณ์

ขอยืนยันเจตนารมณ์คัดค้านการเพิกถอนพื้นที่ 2.6 แสนไร่ ออกจากการเป็นอุทยานแห่งชาติทับลาน (กันยายน)

ขอยืนยันเจตนาคัดค้านการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานทั้ง 265,286.58 ไร่ เพื่อกันออกจากการเป็นอุทยานแห่งชาติและส่งมอบพื้นที่ให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เนื่องจากอุทยานแห่งชาติทับลานเปรียบเสมือนไข่แดงของกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เป็นทางเชื่อมของสัตว์ป่าในการเดินข้ามไปมาระหว่างพื้นที่ในกลุ่มป่า เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าที่มีขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศไทย ถือเป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของผืนป่าและความหลากหลายทางชีวภาพ อีกทั้งผืนป่าบริเวณดังกล่าวมีศักยภาพและความอุดมสมบูรณ์มากพอต่อการขยายตัวของจำนวนเสือโคร่ง

อ่านแถลงการณ์

การกำหนดแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน (เพิ่มเติม) และยืนยันเจตนารมณ์ คัดค้านการเพิกถอนพื้นที่ 2.6 แสนไร่ ออกจากการเป็นอุทยานแห่งชาติทับลาน (ตุลาคม)

การจัดการปัญหาการทับซ้อนพื้นที่ควรพิจารณาอย่างจำเพาะเจาะจงในแต่ละกรณี มิใช่การเพิกถอนพื้นที่โดยรวมทั้งหมด ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียผืนป่าและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างไม่อาจประเมินค่าได้ ดังนั้น การกำหนดแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานควรมุ่งสร้างสมดุลระหว่างการแก้ไขปัญหาที่ดิน การคุ้มครองระบบนิเวศ และการคำนึงถึงวิถีชีวิตของชุมชน เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ความเป็นธรรม และสอดคล้องกับพันธกรณีด้านการอนุรักษ์ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ โดยขอส่งสิ่งที่ส่งมาด้วยนี้เพื่อเป็นเหตุผลประกอบการ

อ่านแถลงการณ์

ขอแสดงความกังวลต่อร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมที่ดิน-ป่าไม้ (ตุลาคม)

ร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับ ไม่ได้ระบุถึงแนวทางในการตรวจสอบคุณสมบัติหรือพิสูจน์สิทธิบุคคลที่ควรได้รับการนิรโทษกรรมไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังรวมไปถึง ตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำความผิด หรือผู้ถูกใช้ ซึ่งอาจทำให้ตีความได้ว่าจะมีการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน หรือผู้มีอิทธิพล ให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มมากขึ้น

อ่านแถลงการณ์

คัดค้านการปลดนกปรอดหัวโขน ออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง (ธันวาคม)

การปลดบัญชีอาจทำให้ไทยกลายเป็นเส้นทางการค้านกในภูมิภาค เพราะมีข้อมูลการลักลอบนำนกจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาอยู่แล้ว หากสถานะคุ้มครองถูกยกเลิก นกจากต่างประเทศอาจปะปนเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น และสร้างภาพลักษณ์ลบเช่นเดียวกับกรณีงาช้างในอดีต

อ่านแถลงการณ์

จดหมายเปิดผนึกถึงคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เรื่อง ขอให้ทบทวนยุติ “การปลดนกปรอดหัวโขนออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง” (ธันวาคม) 

นกปรอดหัวโขนยังคงถูกลักลอบจับจำนวนมาก แม้เป็นชนิดที่พบได้ทั่วไป แต่ข้อมูลจากหลายจังหวัดชี้ชัดว่าการดักจับจากธรรมชาติยังคงเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง ทั้งเพื่อใช้แข่งขัน เชิงพาณิชย์ และเพื่อส่งออก การปลดออกจากบัญชีคุ้มครองจะยิ่งเปิดช่องให้การล่ามีความชอบธรรมและเพิ่มแรงจูงใจในการจับจากธรรมชาติจำนวนมากขึ้น

อ่านแถลงการณ์