‘คาร์บอนบอมบ์’ บริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังเพิ่มชนวนวิกฤตโลกร้อน

‘คาร์บอนบอมบ์’ บริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังเพิ่มชนวนวิกฤตโลกร้อน

‘คาร์บอนบอมบ์’ บริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังเพิ่มชนวนวิกฤตโลกร้อน

การศึกษาใหม่ที่นำโดยมหาวิทยาลัยลีดส์พบว่าบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังวางแผนหรือดำเนินการที่นำไปสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ จำนวนมหาศาล มากถึง 425 โครงการ

โดยโครงการน้ำมันและก๊าซที่อาจขัดขวางความพยายามอย่างจริงจังในการจำกัดภาวะโลกร้อนให้อยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ความคิดริเริ่มดังกล่าวสามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 646 พันล้านตัน และควรยุติโดยด่วน หากโลกประสงค์หลีกเลี่ยงภัยพิบัติจากสภาพอากาศ

แม้จะมีคำเตือนของนักวิทยาศาสตร์ว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมากต่อสภาพอากาศของโลก แต่บริษัทข้ามชาติรายใหญ่ เช่น Shell, Gazprom, ExxonMobil, BP, PetroChina, Petrobras, ConocoPhillips หรือ Chevron (ซึ่งทั้งหมดทำรายได้กว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐในระหว่าง ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา) ได้เริ่มโครงการน้ำมันและก๊าซขนาดใหญ่ถึงร้อยละ 60

ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างน้อย 1 พันล้านตันในแต่ละช่วงอายุ เทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบันประมาณ 18 ปี

บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทเหล่านี้กำลังจะใช้จ่าย 103 ล้านดอลลาร์ต่อวันในช่วงที่เหลือของทศวรรษเพื่อใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำมันและก๊าซใหม่ๆ ที่ไม่ควรถูกเผาไหม้ไปทั้งหมดหากจำกัดภาวะโลกร้อนให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส

คาร์บอน บอมบ์

“อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซยังคงวางแผนโครงการขนาดใหญ่เหล่านี้ต่อไป แม้สถานะของดาวเคราะจะต้องเผชิญกับห์ที่กำลังลุกไหม้” Kjell Kühne หัวหน้าทีมวิจัยด้านการศึกษาด้านเชื้อเพลิงฟอสซิลจากมหาวิทยาลัยลีดส์กล่าว “เป้าหมายที่ทะเยอทะยานของข้อตกลงปารีสดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตั้งคำถามกับกรณีธุรกิจของพวกเขา ระเบิดคาร์บอนเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ที่ใหญ่ที่สุดเพียงตัวเดียวว่าเรายังพยายามไม่มากพอ”

“นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เวลาทั้ง 30 ปีในการแก้ไขปัญหานี้และพวกเขาเข้าใจผิดทั้งหมด และซีอีโอน้ำมันรายใหญ่เองก็รู้ดี หรือเพราะอยู่เบื้องหลังความกังวลทั้งหมด พวกเขาไม่สนใจต่อชุมชนที่เปราะบางต่อสภาพอากาศ

โดยทั่วไปแล้วผู้ที่ได้รับผลกระทบคือ คนยากจน คนผิวสี และ ผู้คนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ และที่น่ากังวลไม่แพ้กัน คือ พวกเขาไม่สนใจอนาคตของลูกหลานของตัวเอง” Kevin Anderson นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศจากศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Tyndall กล่าว

การกำจัด ‘คาร์บอนบอมบ์’ ทางสภาพภูมิอากาศเหล่านี้ควรกลายเป็นส่วนที่สำคัญของนโยบายบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเคลื่อนไหวเพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิอันตรายที่จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศส่วนใหญ่ของโลก


เรื่อง : ปีกาญจนา สินวราวิวัฒน์
เรียบเรียงจาก “Carbon bomb” projects must be halted to limit global warming
ภาพ : financial tribune