หนังสือตอบกลับ เรื่อง ทบทวนการจัดซื้อจัดจ้างบริษัทอิตาเลียนไทย

หนังสือตอบกลับ เรื่อง ทบทวนการจัดซื้อจัดจ้างบริษัทอิตาเลียนไทย

จากเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ภาคประชาชน ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้รัฐบาล เพื่อกดดันรัฐบาลพิจารณาทบทวนยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้าง และขึ้นทะเบียนแบล็คลิสต์ บริษัทอิตาเลียนไทย จากกรณีที่ผู้บริหารตกเป็นจำเลยคดีล่าสัตว์ป่าในพื้นที่มรดกโลก ล่าสุด ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ทำหนังสือตอบกลับว่าได้ประสานถึงกระทรวงคมนาคม เพื่อรับทราบข้อมูลประกอบการพิจารณาแล้ว

จากกรณีที่กลุ่ม T’Challa และตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ในวาระครบ 100 วัน เหตุการณ์ล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เพื่อกดดันรัฐบาลพิจารณาทบทวนยกเลิก การจัดซื้อจัดจ้าง ทำสัญญา MOU ทำธุรกิจ และขึ้นทะเบียนแบล็คลิสต์ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่มีนายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยคดีล่าสัตว์ป่า ดำรงตำแหน่งประธานบริหารอยู่นั้น

จากเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เฟสบุ๊ค T’Challa พิทักษ์ เสือดำ – เฉพาะกิจ ได้โพสต์ภาพหนังสือ ที่ นร 0105.04/42939 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2561 ถึง นายธัชพงศ์ แกดำ เรื่อง ขอให้พิจารณาทบทวนการจัดซื้อจัดจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า

ตามหนังสือที่อ้างถึง ท่านได้เดินทางไปยื่นหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ณ จุดบริการประชาชน 1111 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาทบทวนการจัดซื้อจัดต้างกับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากท่านอ้างว่า ผู้บริหารของบริษัทฯ มีพฤติกรรมที่ขัดต่อหลักธรรมาภิบาล และไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งอาจส่งผลให้การทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ความแจ้งอยู่แล้ว นั้น

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ประสานส่งเรื่องให้กระทรวงคมนาคม ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบกรณีที่ท่านได้มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เพื่อรับทราบเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาแล้ว ลงชื่อ นายพันศักดิ์ เจริญ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน ปฏิบัติราชการแทน ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

 

 

สำหรับการยื่นหนังสือเรียกร้องเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมานั้น กลุ่ม T’Challa ระบุประเด็นไว้ 2 เรื่อง คือ (1) ขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนยกเลิก การจัดซื้อจัดจ้าง ทำสัญญา MOU ทำธุรกิจกับบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ทุกโครงการ จนกว่าศาลจะพิจารณาคดีถึงที่สุดว่ามิได้กระทำความผิด หรือได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวประธานบริษัทเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

(2) ขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวน ขึ้นทะเบียนแบล็คลิสต์ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ให้เป็นบริษัทที่ขาดหลักธรรมาภิบาล ไม่ให้มีสิทธิในการเข้าร่วมประมูล หรือ ต่อสัญญาทำ MOU ในโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จนกว่าศาลจะพิจารณาคดีถึงที่สุดว่ามิได้กระทำความผิด หรือได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวประธานบริษัทเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

นอกจากนี้ ตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังได้นำรายชื่อที่ได้จากการรณรงค์ผ่านเว็บไซต์ change.org เรื่อง ขอให้ภาครัฐงดทำสัญญากับบริษัทอิตาเลี่ยน-ไทย และบริษัทที่ไร้ธรรมาภิบาล จำนวน 23,507 รายชื่อ มอบแก่นายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีกลุ่มทีชาลาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกสัญญาและสัมปทานที่ทำไว้กับอิตาเลียนไทยว่า

“ตามกฎหมายอาญา กฎหมายบุคคล และกฎหมายประชาชนทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะนายเปรมชัย หรือใครก็ล่าสัตว์ไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องของคดีความ แต่การจะไปยกเลิกการประกอบธุรกิจเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งเป็นการสร้างการรับรู้ไม่ถูกต้อง โยงไปโน่นโยงไปนี่ทั้งหมด ถ้าอย่างนั้นอีกหน่อยใครมีปัญหาในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองก็ตามที่มีคดีความอยู่วันนี้ เลิกไปให้หมด เอาไหมละ ใครเกี่ยวข้องติดคุก ยุบไปทั้งพรรคไปเลย เอาไหม”

 


เรียบเรียง ฝ่ายสื่อสารองค์กร มูลนิธิสืบนาคะเสถียร