คืนชีพ นกกระเรียนไทย หลังสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติมาแล้ว 50 ปี

คืนชีพ นกกระเรียนไทย หลังสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติมาแล้ว 50 ปี

หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า นกกระเรียนพันธุ์ไทยเคยสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติของไทยไปแล้ว แต่ด้วยความพยายามของนักอนุรักษ์ ทำให้พวกเขาได้กลับมาโบยบินกลางทุ่งอีกครั้ง ปัจจุบันมีนกระเรียนพันธุ์ไทยอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ และสามารถขยายพันธุ์ได้เองจำนวน 102 ตัว 

การหายไปของนกกระเรียนพันธุ์ไทยส่วนหนึ่งเกิดจากการพัฒนาและการขยายตัวของเมือง วิถีชีวิตของผู้คนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง มีการทำเกษตรที่ใช้สารเคมี ทำให้พื้นที่ชุ่มน้ำหลายแห่งเสื่อมโทรม รวมไปถึงการล่าในอดีต สิ่งเหล่านี้ต่างรบกวนการใช้ชีวิตของพวกเขา ทำให้เมื่อ 50 ปีที่แล้ว นกกระเรียนพันธุ์ไทยได้ถูกระบุเป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วในธรรมชาติของไทย

โครงการนำนกกระเรียนพันธุ์ไทยคืนสู่ธรรมชาติ ได้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2525 ในช่วงนั้นมีการร่วมมือระหว่างไทยกับมูลนิธิอนุรักษ์นกกระเรียนสากล (International Crane Foundation) ต่อมาในปี 2533 สวนสัตว์โคราชเริ่มมีการขยายพันธุ์แบบธรรมชาติและการผสมพันธุ์เทียม จากจำนวนพ่อแม่พันธุ์ตั้งต้นจำนวน 33  ตัว ได้ลูกนกที่รวมพ่อแม่พันธุ์ในกรงเลี้ยงทั้งหมดประมาณ 100 ตัว ภายในปี 2552

แม้การเพาะขยายพันธุ์จะสำเร็จ แต่เป้าหมายหลักในครั้งนี้ไม่ใช่การเพิ่มจำนวนของลูกนกในกรงเลี้ยง แต่เป็นการพานกกระเรียนพันธุ์ไทยให้กลับมาโบยบินในธรรมชาติอีกครั้ง

ปี 2554 องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และสวนสัตว์โคราช ได้มีการปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยกลับคืนสู่ธรรมชาติเป็นครั้งแรก จำนวน 10 ตัว เป็นลูกนกกระเรียนอายุประมาณ 1 ปี โดยพิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสมคือ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำสนามบิน จ.บุรีรัมย์ ทั้ง 2 พื้นที่ ถือเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของนกหลายชนิด และมีภาพถ่ายยืนยันว่า จังหวัดบุรีรัมย์เคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของนกกระเรียนพันธุ์ไทยในอดีต 

จากการปล่อยลูกนกในปีนั้นพบว่าไม่ประสบผลสำเร็จ ลูกนกสามารถอยู่รอดได้ประมาณ 1-2 ปี เท่านั้น เนื่องจากเป็นการปล่อยลูกนกครั้งแรก องค์ความรู้และเทคนิคต่าง ๆ ของนักวิจัยจึงมีไม่เยอะมาก ประกอบกับสถานการณ์น้ำท่วมในปีนั้น ทำให้การติดตามทำได้ยากขึ้นจึงไม่สามารถเข้าไปดูแลลูกนกได้

โครงการได้ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในทุก ๆ ปีจะมีการปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยประมาณ 10-15 ตัว ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการปล่อยเพิ่มอีกจำนวน 14 ตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ปล่อยไปแล้ว 119 ตัว รวมเป็น 133 ตัว จากการติดตามพบว่าโอกาสรอดของลูกนกสูงถึง  70% และคาดว่ามีนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่อาศัยในธรรมชาติจริง ๆ จำนวน 102 ตัว 

นกกระเรียนพันธุ์ไทยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในนาข้าวเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% การหาจุดบาลานซ์ระหว่างนกกระเรียนไทยกับชาวนาจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน

จากความร่วมมือกับท้องถิ่นในช่วงสิบปีที่ผ่านมาทำให้ชาวบ้านมีความเข้าใจเรื่องนกกระเรียนพันธุ์ไทยมากขึ้น นาข้าวที่ได้รับความเสียหายจากการย่ำเท้าของนกกระเรียนก็จะมีหน่วยงานที่เข้ามาดูแลรับผิดชอบ โดยส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านในบริเวณโดยรอบเอง ได้เปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อหาจุดสมดุลทางธรรมชาติที่คนและสัตว์จะอาศัยอยู่ร่วมกันในพื้นที่ทับซ้อนได้อย่างยั่งยืน

 


ภาพเปิดเรื่อง: Sarus Crane Reintroduction Project Thailand
อ้างอิงข้อมูล: วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์,  เมื่อ ‘นกกระเรียนไทย’ คืนถิ่นธรรมชาติเป็นครั้งแรก, The 101 world
นัท สุมนเตมีย์, เงาตะคุ่มของกระเรียนพันธุ์ไทยที่เคยสูญพันธุ์จากไทยกว่า 50 ปี ในจังหวัดบุรีรัมย์, The cloud 
ไทยโพสต์, ปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทย 14 ตัวคืนธรรมชาติ เผยความสำเร็จสู่แหล่งเรียนรู้นกหายากของโลก
เรียบเรียง นูรซาลบียะห์ เซ็ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารองค์กร มูลนิธิสืบนาคะเสถียร