แจ้งข้อหาพี่สาวเปรมชัย รุกป่าภูเรือ-ด่านซ้าย 6 พันไร่

แจ้งข้อหาพี่สาวเปรมชัย รุกป่าภูเรือ-ด่านซ้าย 6 พันไร่

7 พฤษภาคม 2561 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาสอบปากคำ และรับมอบตัวนางพิไลจิตร เริงวิทยา นางนิจพร จรณะจิตต์ นางอรเอม เทอดประวัติ 3 กรรมการบริษัท ซีพีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

นางพิไลจิตร นางนิจพร และนางอรเอมทั้ง 3 คน เป็นพี่น้องของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาคดีร่วมกันล่าเสือดำ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยหลังจากการพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าในอำเภอภูเรือ และอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย รวม 6 คดี จำนวน 6,700 ไร่ มูลค่าความเสียหายกว่า 680 ล้านบาท

โดยที่ดินที่มีการบุกรุกป่าเป็นที่ดินที่ถูกเพิกถอน นส.3 ไปแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2556 แต่มีการนำเอกสารสิทธิ์ การนำชี้ การแจ้งข้อความ เพื่อให้ได้โฉนดทับซ้อนกับที่ดินที่มีการเพิกถอนไปแล้ว พร้อมกับนำไปปลูกพืชผลทางการเกษตร

ผลของการสืบสวนในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ได้รับการร้องเรียนว่ามีผู้บุกรุกพื้นที่ป่า อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ต่อมาพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดิน จ.เลย เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และเจ้าที่ตํารวจ บก.ปทส. ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าจริง จึงร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนพื้นที่รับผิดชอบ ให้ดําเนินคดีกับผู้กระทําความผิด จำนวน 6 คดี ได้แก่

1. พื้นที่สภ.โคกงาม ตามคดีอาญาที่ 15/61 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” บริเวณ ต.โพนสูง อ.ด่านซ้าย และ ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 6,215 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 621,500,000 บาท

2. พื้นที่สภ.ภูเรือตามคดีอาญาที่ 30/61 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ในความผิดฐาน “นํารังวัดในที่ดินซึ่งมิใช่ของ ตนเอง และแจ้งความเท็จ” พื้นที่ป่าบริเวณ ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 6 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 600,000 บาท

3. พื้นที่สภ.ภูเรือ ตามคดีอาญาที่ 35/61 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” พื้นที่ป่าบริเวณบ้านร่องจิก ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 16-1-84 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1,618,400 บาท

4. พื้นที่สภ.ภูเรือ ตามคดีอาญาที่ 37/61 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” พื้นที่ป่าบริเวณบ้านร่องจิก ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 293 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 24,914,300 บาท

5. พื้นที่ สภ.ด่านซ้าย ตามคดีอาญาที่ 39/61 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2561 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” พื้นที่ป่าสงวนภูเรือ ภูขี้เถ้า ภูเปลือย บริเวณบ้านน้ำพุง ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย จํานวน 117 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 8,303,400 บาท

และ 6. พื้นที่ สภ.ภูเรือ ตามคดีอาญาที่ 88/61 ลงวันที่ 24 เมษายน 2561 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” พื้นที่ป่าบริเวณ บ้านร่องจิก ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 253 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 23,202,100 บาท ทั้งหมดใช้พื้นที่ดังกล่าวปลูก ต้นแมคคาดีเมีย ต้นแก้วมังกร ต้นองุ่น และต้นยูคาลิปตัสมี โดยบริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด เป็นผู้ครอบครอง รวม 6 คดี คิดมูลค่าเสียหายประมาณ 680 ล้านบาท

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเอาผิดตามหลักฐานนิติบุคคลกับผู้ที่อำนาจลงนาม จำนวน 3 คน ที่บุกรุกพื้นที่ป่าจำนวน 6 พันกว่าไร่ นอกจากนี้ยังพบว่าในรายชื่อกรรมการบริษัทดังกล่าวมีนายเปรมชัย กรรณสูต รวมอยู่ด้วย แต่กฎหมายสามารถดำเนินคดีได้เฉพาะกับนิติบุคคลและผู้ที่ลงนาม แต่ไม่รวมถึงนายเปรมชัย

จากการสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน ยอมรับว่าเป็นผู้เซ็นเอกสารลงนามจริง และครอบครองพื้นที่ 6 พันกว่าไร่จริง และพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์จริง ซึ่งที่ดินของเดิมได้มาจากคุณพ่อ คือนายชัยยุทธ กรรณสูต ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินคดีและเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ไป ส่วนเรื่องเจตนาบุกรุกหรือไม่นั้น เป็นดุลยพินิจของศาล

ในวันเดียวกัน เครือข่ายสภาองค์กรชุมชน และเครือข่ายภาคประชาชนคนเมืองเลย กว่า 500 คน ได้ร่วมตัวที่หน้าศาลากลางประกาศเจตนารมณ์รวมกัน สำนึกพลเมืองคนไทยเลย ขอให้กำลังใจและขอบคุณต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม และผู้เกี่ยวข้อง ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อกรณีการทวงคืนผืนป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้สำเร็จลุล่วงตามกระบวนการยุติธรรม ปราศจากปัญหาอุปสรรครวมถึงแรงดกดันต่างๆ

 


เรียบเรียง ฝ่ายสื่อสารองค์กร มูลนิธิสืบนาคะเสถียร