ถอดบทเรียน สะท้อนการทำงานอย่างมีส่วนร่วมในโครงการอนุรักษ์ ‘ปลาซิวสมพงษ์’ ในทุ่งน้ำหลากของลุ่มน้ำบางปะกง ระยะที่ 2

ถอดบทเรียน สะท้อนการทำงานอย่างมีส่วนร่วมในโครงการอนุรักษ์ ‘ปลาซิวสมพงษ์’ ในทุ่งน้ำหลากของลุ่มน้ำบางปะกง ระยะที่ 2

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ร่วมกับ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) และกองทุนหุ้นส่วนระบบนิเวศที่สำคัญ (CEPF) ชุมชนและหน่วยงานท้องถิ่น รวมถึงนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินโครงการอนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์ในทุ่งน้ำหลากของลุ่มน้ำบางปะกง ระยะที่ 2 เพื่อการอนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์ และถิ่นอาศัย โดยการลดภัยคุกคามที่สำคัญ และสนับสนุนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนให้ร่วมกันอนุรักษ์

ปลาซิวสมพงษ์ Trigonostigma somphongsi (Meinken, 1958) เป็นชนิดพันธุ์เฉพาะถิ่นของไทย ที่ในอดีตเคยพบได้ทั่วไปในที่ราบลุ่มภาคกลาง ในลุ่มน้ำแม่กลอง เจ้าพระยา และบางปะกง แต่ปัจจุบันพบเฉพาะในลุ่มน้ำบางปะกงตอนกลางที่จังหวัดนครนายกและปราจีนบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่ทุ่งน้ำหลากของต.ท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก และพื้นที่ใกล้เคียง  เป็น 1 ใน 100 สัตว์และพืชที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งของโลก โดยมีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (Critically Endangered-CR) ตามเกณฑ์ IUCN Redlist 

ปลาซิวสมพงษ์ใกล้สูญพันธ์เนื่องจากการสูญเสียถิ่นอาศัยที่เป็นพื้นที่ราบลุ่มต่ำรับน้ำท่วมตามธรรมชาติที่มีคุณภาพดีอย่างวิกฤต ที่ซึ่งเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารของชุมชน อีกทั้ง การขาดข้อมูล ความรู้ และการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของปลาซิวสมพงษ์และถิ่นอาศัย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่อาจทำให้ทรัพยากรสำคัญสูญหายไปตลอดกาล

โครงการดำเนินมาจนเสร็จสิ้นการทำงานระยะที่ 2 หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนร่วมในการทำงานจึงร่วมกันคืนข้อมูลให้ชุมชน และถอดบทเรียนการเสริมสร้างศักยภาพให้ชุมชนร่วมกันดูแลระบบนิเวศของท้องถิ่นและร่วมกันอนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์และถิ่นอาศัย 

มาตรการคุ้มครองพื้นที่เพื่ออนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์

องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก นำโดย ณรงค์ศักดิ์ พรมสวัสดิ์ นายกอบต. ทำงานด้านมาตรการคุ้มครองพื้นที่เพื่ออนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์ โดยมีการออกประกาศ อบต.ท่าเรือ ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2567 เรื่อง “ประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่และบุคคลภายนอก กระทำการหรืองดเว้นกระทำการในเขตทุ่งใหญ่สาธารณประโยชน์ พื้นที่สาธารณะรอบข้าง และสระน้ำวัดลำบัวลอย ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก” เพื่อขอความร่วมมืองดใช้เครื่องมือจับปลาที่มีตาข่ายขนาดเล็กหรือขัดกับกฎหมายประมง ห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาจับสัตว์น้ำ และหากประสงค์ขอใช้พื้นที่ ต้องมีการยื่นความประสงค์ขอใช้พื้นที่ต่อ อบต. ท่าเรือ เพื่อพิจารณาด้วย

ขณะเดียวกัน ประภาส พิมลกนกวรรณ ประมงอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ซึ่งทำงานด้านการส่งเสริมและป้องปราม ควบคู่ไปกับมาตรการทางกฎหมาย ได้ทำงานร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดปราจีนบุรี เข้ามาเก็บรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ปลาซิวสมพงษ์ จำนวน 88 ตัว จากแหล่งน้ำบริเวณทุ่งนกเหยี่ยว เพื่อไปเพาะพันธุ์ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2567 ซึ่งสามารถเพาะพันธุ์ได้สำเร็จ ได้ลูกปลาซิวสมพงษ์จำนวนมาก สามารถสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการเพาะพันธุ์ ซึ่งก่อนหน้านี้หวงกันไว้เฉพาะในกลุ่มผู้ค้าปลาสวยงาม และเตรียมถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน

ที่สำคัญ ด้านทางกฎหมาย กรมประมงกำลังเตรียมประกาศ ‘เขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์น้ำพื้นที่สระน้ำวัดลำบัวลอย’ เนื้อที่กว่า 17 ไร่ เพื่อคุ้มครองพื้นที่สระน้ำวัดลำบัวลอย ในฐานะ ‘ถิ่นอาศัยวิกฤต’ (Critical habitat) ของปลาซิวสมพงษ์ โดยห้ามจับสัตว์น้ำด้วยเครื่องมือประมงทุกชนิด

อีกทั้ง ยังมีการติดตั้งป้ายประกาศพื้นที่คุ้มครอง ในพื้นที่สระน้ำบริเวณวัดลำบัวลอย และพื้นที่บริเวณทุ่งใหญ่สาธารณประโยชน์ ตำบลท่าเรือ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เพื่อขอความร่วมมืองดใช้เครื่องมือจับปลาขนาดเล็ก (ปลาสวยงาม)

ประภาส พิมลกนกวรรณ ประมงอำเภอปากพลี และณรงค์ศักดิ์ พรมสวัสดิ์ นายกอบต. ท่าเรือ

ข้อมูลการสำรวจเชิงอนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์และทุ่งปากพลี

ดร.ชวลิต วิทยานนท์ หัวหน้าโครงการและหัวหน้าทีมสำรวจ ได้เสนอความสำคัญของพื้นที่ที่มีทั้งปลาซิวสมพงษ์ นกเหยี่ยวดำ พันธุ์ข้าวป่าแหล่งสุดท้ายในภาคกลาง แหล่งปลาท้องถิ่นกว่าร้อยชนิด และปลาเศรษฐกิจกว่า 15 ชนิด รวมถึงพืชเศรษฐกิจอีกมากมาย ช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนหลักล้านบาทต่อปี ความหลากหลายทางชีวภาพสูงเช่นนี้ ทำให้พื้นที่ท่าเรือ-ปากพลี เป็นพื้นที่ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้  

พื้นที่ท่าเรือ-ปากพลี มีปลาชนิดสำคัญ ใกล้สูญพันธุ์ และหายากในพื้นที่อื่นหลายชนิด นอกจากปลาซิวสมพงษ์แล้ว ยังมีชนิดที่ถูกคุกคามใน IUCN Red List of Threatened Species อีก 5 ชนิดคือ ปลาซิวแคระสามจุด ปลาซิวหางกรรไกรเล็ก ปลาจีด ปลาสวาย และปลากัด โดยเป็นปลาที่มีวงจรชีวิตสัมพันธ์กับระบบนิเวศทุ่งน้ำหลากเช่นเดียวกับปลาซิวสมพงษ์ การอนุรักษ์ถิ่นอาศัยโดยอนุรักษ์วิถีเกษตรนาข้าวน้ำลึกจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยสนับสนุนชาวนาให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้ข้าวนาน้ำลึกที่เป็นข้าวอินทรีย์ และหาไม่ได้จากที่อื่น 

วงจรชีวิตของปลาซิวสมพงษ์ในฤดูแล้งเป็นที่น่ากังวล เนื่องจากแหล่งน้ำในฤดูแล้งของตำบลท่าเรือมีจำกัด และปลาซิวสมพงษ์สามารถอาศัยได้ในเฉพาะแหล่งน้ำคุณภาพดี และมีมลพิษน้อยเท่านั้น ทั้งในแหล่งน้ำปิดที่เชื่อมกับแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น สระน้ำวัดลำบัวลอย และแหล่งน้ำไหล เช่น ลำรางสาธารณะใกล้ทุ่งนกเหยี่ยว จากการสำรวจและทำแผนที่ของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร พบว่า ขนาดพื้นที่อาศัยของปลาซิวสมพงษ์ในช่วงฤดูน้ำหลากมีมากกว่า 100 ตร.กม. และในช่วงฤดูแล้ง น้อยกว่า 1 ตร.กม. 

วิถีอาหารชุมชนและประเพณีของชาวทุ่งน้ำหลาก ในระบบนิเวศใกล้สูญพันธุ์ จากประเทศไทยแห่งนี้ สามารถพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรที่สำคัญของพื้นที่ ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และนานาชาติ รวมทั้งเป็นพื้นที่เรียนรู้สำคัญของเยาวชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ร่วมกันทำงานอนุรักษ์ ดังวิสัยทัศน์ของตำบลท่าเรือว่า ‘ตำบลน่าเที่ยว น่าอยู่ เกษตรก้าวหน้า การศึกษากว้างไกล’

ดร.ชวลิต วิทยานนท์ หัวหน้าโครงการฯ

ศักยภาพการเพาะเลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์

วรรณดา พิพัฒน์เจริญชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดปราจีนบุรี เป็นกำลังหลักในการนำปลาซิวสมพงษ์ไปเพาะเลี้ยง โดยตรวจสอบแหล่งอาศัย คุณภาพน้ำ อาหารในธรรมชาติที่เหมาะสม หรือปัจจัยอื่นใดที่ช่วยให้ปลาซิวสมพงษ์เจริญเติบโตได้ดี นำสู่การเพาะเลี้ยงให้สำเร็จ เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรปลาซิวสมพงษ์ในธรรมชาติ

ในการเพาะเลี้ยง มีการทดลองและเลียนแบบสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงพื้นที่ที่พบปลาซิวสมพงษ์ในธรรมชาติ ทั้งค่าออกซิเจน ค่าความเป็นกรดด่าง อุณหภูมิน้ำ ลักษณะดิน พันธุ์ไม้น้ำเพื่อให้ปลาซิวสมพงษ์วางไข่ และการให้อากาศ พบว่า ปลาซิวสมพงษ์ปรับตัวในที่เพาะเลี้ยงได้ดี มีการไล่กันเพื่อผสมพันธุ์ โดยส่วนมาก วางไข่ใต้ใบกว้างของพืชน้ำ ไข่มีลักษณะกลมและใส

การเพาะเลี้ยงปลาซิวสมพงษ์ได้ต้องเข้าใจชีววิทยา และวงจรชีวิตของปลา รวมถึงมีพ่อแม่พันธุ์แข็งแรง ปลอดโรค และมีความสมบูรณ์เพศ อีกทั้ง มีอาหารที่เหมาะสม และเพียงพอสำหรับขุนเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ และอนุบาลลูกวัยอ่อน 

ด้านผู้นำชุมชนมองว่า การพัฒนาศักยภาพการเพาะเลี้ยงปลาซิวสมพงษ์ให้กับชาวบ้านในชุมชน เป็นอีกหนึ่งวิธีการอนุรักษ์ เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรปลา และสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชน เนื่องจากปลาซิวสมพงษ์สามารถเป็นไอคอนของพื้นที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เยี่ยมชมตำบลท่าเรือ รวมถึงสามารถเพาะขายในตลาดปลาสวยงามได้ด้วย

วรรณดา พิพัฒน์เจริญชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดปราจีนบุรี

การพัฒนาศักยภาพของนาข้าวขึ้นน้ำ เพื่อการอนุรักษ์โดยชุมชนตำบลท่าเรือ

มาลินี จันวรรณ์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยข้าวปราจีนบุรี ร่วมนำข้อเสนอการพัฒนาพื้นที่ต.ท่าเรือ ตามแนวคิด BCG Model หรือแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) เพื่อนำร่องการทำงานเพื่อพัฒนาพื้นที่ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพิ่มมูลค่าข้าวนาน้ำลึก และจัดการตอซังฟางข้าวอย่างยั่งยืน มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดเรื่องน้ำและดิน แก้ปัญหาฟางและน้ำในนาข้าว และรักษาพื้นที่นา ปลา และนกอย่างยั่งยืน เน้นการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปพัฒนาให้เกิดสมดุล เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนในพื้นที่ตำบลท่าเรือและเกิดความยั่งยืนของฐานทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพ

ตำบลท่าเรือมีจุดแข็งด้านการเป็นแหล่งปลูกข้าวขึ้นน้ำใหญ่ที่สุดในประเทศที่ไม่ใช้สารเคมี จึงเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำหลากชนิด และยังเป็นแหล่งพักพิงให้นกชนิดต่าง ๆ รวมถึงเป็นทุ่งน้ำหลากที่ช่วยรับน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ใกล้เคียง และช่วยชะลอความเค็มของแม่น้ำบางปะกง 

แม้จะมีปัญหาเรื่องการจัดการตอซังฟางข้าวที่จำเป็นต้องเผา แต่ด้วยลักษณะของพื้นที่ จึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนไปทำนาข้าวประเภทอื่นได้ จึงจำเป็นต้องศึกษาวิจัยเพื่อนำตอซังฟางข้าวไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และสร้างรายได้ให้เกษตรกรต่อได้

BCG Value Chain ออกแบบมาเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีการพัฒนาอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน โดยการนำนวัตกรรมและองค์ความรู้มาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตข้าว และต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของดีท่าเรือ (Bio Economy)

การสร้างความยั่งยืนของชุมชนและทรัพยากรด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยการบริหารการจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการตอซังและฟางข้าว เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากฟางข้าว และเชื่อมโยงตลาดฟาง ผ่านการสร้างความร่วมมือกับบริษัทรับซื้อ

การรักษาฐานทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพด้วยการจัดสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ (Green Economy) มีการจัดเวทีประชาสัมพันธ์ความสำคัญของพื้นที่นาข้าวน้ำลึก และการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เกษตร วัฒนธรรม

มาลินี จันวรรณ์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยข้าวปราจีนบุรี

ประสบการณ์การเรียนรู้ธรรมชาติในทุ่งน้ำหลากปากพลีของนักเรียนในพื้นที่

จากกิจกรรมค่ายเยาวชนเพื่อให้ความรู้เรื่องการอนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์ และทุ่งน้ำหลากท่าเรือ-ปากพลี กนกกาญจน์ สมหวัง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดลำบัวลอย และจักรี สอนนุช คุณครูโรงเรียนวัดเกาะกา ซึ่งเป็นโรงเรียนในตำบลท่าเรือ สนใจนำความรู้ที่เกิดขึ้นพัฒนาเป็น ‘หลักสูตรท้องถิ่น’ เพื่อให้เด็ก ๆ ในพื้นที่ได้เรียนรู้ความสำคัญของพื้นที่ทุ่งน้ำหลากท่าเรือ-ปากพลีโดยตรง และซึบซับความสำคัญของการอนุรักษ์พื้นที่ท้องถิ่นตน

กนกกาญจน์ สมหวัง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดลำบัวลอย กล่าวว่า ตั้งใจสอดแทรกเนื้อหาทุ่งน้ำหลากท่าเรือ-ปากพลี เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนเรียนรู้ และเข้าใจบริบทท้องถิ่นตน สร้างจิตสำนึกรักชุมชน และสนใจอนุรักษ์ต่อไป โดยหลักสูตรท้องถิ่น จะบูรณาการในกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และมีการกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ให้เหมาะสมในแต่ละระดับชั้น 

ด้านโรงเรียนวัดเกาะกา คุณครูจักรี สอนนุช กล่าวว่า เนื่องจากโรงเรียนวัดเกาะกา มีทั้งระดับประถมและมัธยมศึกษา จึงตั้งใจจะมีหลักสูตรท้องถิ่นเป็นวิชาเฉพาะ สอนนอกวิชาเรียนปกติ เป็นการ ‘ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้’ โดยโรงเรียนมีข้อมูลพื้นฐาน และให้นักเรียนต่อยอดค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง หรือ คนในท้องถิ่น เพื่อเรียนรู้ทั้งทฤษฎี และประสบการณ์การปฏิบัติจริง

การเรียนรู้ไม่ได้อยู่เพียงแค่ในห้องเรียน ทุ่งน้ำหลากท่าเรือ-ปากพลี รวมถึงพื้นที่ทุ่งนกเหยี่ยว และพื้นที่รอบข้าง จะเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนสำหรับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี – กนกกาญจน์ สมหวัง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดลำบัวลอย

กนกกาญจน์ สมหวัง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดลำบัวลอย และ จักรี สอนนุช  คุณครูโรงเรียนวัดเกาะกา

ตลอดช่วงระยะเวลาโครงการทั้งสองระยะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โครงการอนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์ในทุ่งน้ำหลากของลุ่มน้ำบางปะกง ภายใต้ความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ได้มีการดำเนินการประกาศพื้นที่คุ้มครอง บริเวณพื้นที่สระน้ำบริเวณวัดลำบัวลอย และพื้นที่บริเวณทุ่งใหญ่สาธารณประโยชน์ ตำบลท่าเรือ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก รวมถึงติดตั้งป้ายประกาศขอความร่วมมืองดใช้เครื่องมือจับปลาขนาดเล็ก (ปลาสวยงาม) และป้ายเขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์น้ำในพื้นที่ดังกล่าว

ในแง่การประชาสัมพันธ์ โครงการมีการสื่อสารองค์ความรู้ เพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์ให้กับชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น และสาธารณะ ในรูปแบบหนังสือ สื่อวิดีโอ และโรลอัป กล่าวคือ หนังสือคุณค่าทุ่งน้ำหลากท่าเรือ-ปากพลี หนังสือการ์ตูนทุ่งน้ำหลากปากพลี สมุดปกขาวอนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์และทุ่งปากพลี วิดีโอคุณค่าทุ่งน้ำหลาก-ท่าเรือปากพลีทั้งขนาดยาว 14 นาที และแบบคลิปสั้น 90 วินาที จำนวน 4 คลิป โรลอัพปลาชนิดสำคัญแห่งทุ่งท่าเรือ-ปากพลี และโรลอัพสัตว์น้ำน่าหม่ำแห่งทุ่งท่าเรือ-ปากพลี

การทำงานร่วมกันของภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนี้  สามารถต่อยอดสู่การจัดการพื้นที่ในการจัดทำมาตรการอนุรักษ์และคุ้มครองพื้นที่ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การพัฒนาพันธุ์ข้าว การวิจัยแก้ปัญหาการเผาตอซังข้าว การเพาะพันธุ์ปลาซิวสมพงษ์ และการทำหลักสูตรท้องถิ่น โดยผู้นำชุนชน โรงเรียน และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งนักวิชาการ องค์กรภาคประชาสังคม และหน่วยงานรัฐระดับประเทศ ที่กำลังช่วยกันดูแลเพื่อนตัวจิ๋วกับถิ่นอาศัยที่งดงาม อุดมสมบูรณ์ และมีความสำคัญระดับโลกแห่งนี้

ดาวน์โหลด สื่อประชาสัมพันธ์ – โครงการอนุรักษ์ปลาซิวสมพงษ์ในทุ่งน้ำหลากของลุ่มน้ำบางปะกง

ผู้เขียน

+ posts

มนุษย์หมีแข็ง ช่างสังเกต ชอบมองท้องฟ้า ต้นไม้สีเขียว ฟังเพลงไปเรื่อย และถ่ายรูปทุกสิ่งอย่าง I can do this all day.