“ป่าไม่ได้มีคุณค่าแค่การเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ แต่ยังเป็นสถานที่เยียวยาจิตใจมนุษย์จากความเครียดในเมือง” ศรัณย์ นราประเสริฐกุล

“ป่าไม่ได้มีคุณค่าแค่การเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ แต่ยังเป็นสถานที่เยียวยาจิตใจมนุษย์จากความเครียดในเมือง” ศรัณย์ นราประเสริฐกุล

แม้จะเกิดไม่ทันช่วงที่ สืบ นาคะเสถียร ทำงานด้านการอนุรักษ์ แต่ชื่อของสืบก็ยังคงดังก้องในใจของใครหลายคน รวมถึง หมอเน๋ง – ศรัณย์ นราประเสริฐกุล ผู้ซึ่งผสมผสานบทบาทของสัตวแพทย์ นักแสดง และช่างภาพสัตว์ป่าเข้าด้วยกัน

สำหรับหมอเน๋ง สืบ นาคะเสถียร คือ ‘ไอคอน’ ของการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่าไทย บุคคลที่ทุ่มเทได้แม้กระทั่งชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องธรรมชาติ และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนรุ่นหลังยังคงสานต่อ

ความรักต่อสัตว์ป่าที่มีตั้งแต่วัยเด็ก

ตั้งแต่เล็ก หมอเน๋งหลงใหลในสัตว์ป่า ชอบดูสารคดีและพยายามทำความเข้าใจโลกของสิ่งมีชีวิต เมื่อโตขึ้นก็เลือกเรียนสัตวแพทย์รวมถึงการได้ออกไปถ่ายภาพสัตว์ป่า ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ตระหนักว่า ผืนป่าและสัตว์ป่ายังคงเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ที่คนในเมืองจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน

ภาพสัตว์ป่าที่ถูกบันทึกไว้ จึงไม่เพียงแค่เป็นผลงานศิลปะ แต่ยังกลายเป็น ‘หน้าต่าง’ ที่ช่วยให้คนเมืองรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ และอาจเป็นแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์ ซึ่งสัตว์ที่หมอเน๋งชื่นชอบมากที่สุดก็อย่างเช่น เสือดาว เสือดำ เสือโคร่ง และนกเงือก ซึ่งทุกตัวล้วนสะท้อนความงดงามและคุณค่าของผืนป่าไทย

ป่าแหล่งเยียวยาจิตใจมนุษย์

สำหรับหมอเน๋ง ป่าไม่ได้มีคุณค่าแค่การเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ แต่ยังเป็นสถานที่เยียวยาจิตใจมนุษย์จากความเครียดในเมือง เมื่อเข้าไปในป่า ได้ยินเสียงนกและเสียงสัตว์ ความวุ่นวายค่อย ๆ จางหายไป ความสงบและความเป็นธรรมชาติมาแทนที่ มนุษย์ไม่ใช่ผู้ครอบครองธรรมชาติ แต่เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตหนึ่งในระบบนิเวศ และความผูกพันระหว่างมนุษย์กับป่าคือความจริงที่ไม่ควรถูกลืม

การอนุรักษ์ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง

ด้วยขนาดของผืนป่าที่กว้างใหญ่ เจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คนไม่อาจดูแลได้ทั้งหมด ดังนั้น ‘คนในพื้นที่’ จึงมีบทบาทสำคัญที่สุด โดยเชื่อว่าหากชุมชนสามารถมองเห็นคุณค่าของป่าและได้รับผลประโยชน์ร่วม เช่น การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สร้างรายได้ คนที่เคยทำลายป่าอาจเปลี่ยนมาหวงแหนและร่วมปกป้องอย่างจริงจัง นี่คือการทำให้การอนุรักษ์เป็นเรื่องของทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง

หน้าที่ของแต่ละคน

ทุกคนมีบทบาทของตนเอง สำหรับหมอเน๋ง หน้าที่คือการเป็น ‘กระบอกเสียง’ ผ่านการถ่ายภาพและบอกเล่าเรื่องราวของสัตว์ป่าให้คนทั่วไปได้เห็น แม้บางชนิดจะถูกมองว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่การได้เห็นภาพของสัตว์ป่าเหล่านั้นในป่าทำให้ผู้คนตระหนักว่ายังมีชีวิตที่ต้องการการปกป้องอยู่ และนี่อาจเป็นก้าวเล็ก ๆ ที่สร้างแรงกระเพื่อมในสังคมได้

ความท้าทายในปัจจุบัน

สถานการณ์ป่าไม้ในไทยยังน่าเป็นห่วง พื้นที่ป่าหายไป 0.03% ซึ่งแม้จะฟังดูเป็นตัวเลขเล็กน้อย แต่แท้จริงแล้วหมายถึงการสูญเสียพื้นที่กว่า 32,000 ไร่ เมื่อเทียบจากปีก่อน นี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักและลงมือร่วมกัน เพราะแม้สืบ นาคะเสถียร จะทำงานอย่างหนัก แต่ก็ไม่อาจ “ควบคุมทุกอย่างได้เพียงลำพัง” หน้าที่ในการรักษาป่าและสัตว์ป่าคือความรับผิดชอบร่วมกันของประชาชนทุกคนบนโลกใบนี้

บทสรุป

เรื่องราวของสืบยังคงเป็นแรงบันดาลใจ และหมอเน๋งก็คือหนึ่งในผู้ที่ได้รับแรงบันดาลใจนั้น โดยเลือกใช้ความรู้ ความสามารถ และความรักที่มีต่อสัตว์ป่าเพื่อบอกเล่า ถ่ายทอด และสร้างความตระหนักให้ผู้คนเห็นคุณค่าของธรรมชาติ

หมอเน๋งทิ้งท้ายว่า การอนุรักษ์อาจไม่ได้เริ่มต้นจากสิ่งใหญ่โต แต่เริ่มจากการที่แต่ละคนทำหน้าที่ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสียง ดูแล หรือเพียงแค่ไม่ทำลาย เมื่อเราทุกคนรวมพลังเล็ก ๆ เหล่านี้เข้าด้วยกัน ป่าและสัตว์ป่าก็จะยังคงอยู่คู่กับเราตลอดไป

Seub Life Fest รำลึก 35 ปี สืบ นาคะเสถียร สืบสานงานอนุรักษ์ ขอขอบคุณ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) Pasaya ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) การไฟฟ้านครหลวง NIRAN พวงหรีดรักษ์โลก บริษัท ไอรา เนเชอรัล โพรดักส์ จำกัด และเครื่องดื่ม M-150 ฝาเหลือง บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)

ผู้เขียน

+ posts

นักสื่อสารผู้หลงใหลในธรรมชาติ เชื่อว่าการเล่าเรื่องที่ดีสามารถเปลี่ยนมุมมองและปลุกพลังการอนุรักษ์ได้