ป่าหนองมะค่า: ตู้กับข้าวของชุมชน แหล่งชีวิตของสัตว์ป่า

ป่าหนองมะค่า: ตู้กับข้าวของชุมชน แหล่งชีวิตของสัตว์ป่า

ในหุบเขาเล็ก ๆ ของตำบลสองพี่น้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มีผืนป่าเล็ก ๆ ที่ชาวบ้านเรียกกันอย่างภาคภูมิใจว่า “ตู้กับข้าว” นั่นคือป่าหนองมะค่า ผืนป่าเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยพืชพรรณ สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และในวันการขอประทานบัตรเหมืองแร่โดโลไมต์เริ่มแพร่กระจาย ชาวบ้านก็รวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืนว่า ป่าแห่งนี้มีคุณค่ามากกว่าที่จะแลกด้วยฝุ่นควันและการระเบิดจากเหมือง

ป่าเล็ก ๆ ที่เลี้ยงชีวิตทั้งชุมชน

“ป่าหนองมะค่า” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกติดปากกัน เป็นส่วนหนึ่งของป่าสงวนแห่งชาติป่ายางน้ำกลัดเหนือและใต้ ครอบคลุมพื้นที่หมู่ที่ 4, 7 และ 8 ของตำบลสองพี่น้อง แม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่เทียบเท่าป่าแก่งกระจานที่อยู่ใกล้เคียง แต่ด้วยความหลากหลายของสภาพภูมิประเทศ ทั้งเชิงเขา ตาน้ำ และพื้นที่ราบ ทำให้ป่าแห่งนี้มีระบบนิเวศเฉพาะตัวและรองรับความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตได้อย่างน่าทึ่ง สำหรับชาวบ้านป่าแห่งนี้เป็นมากกว่าทรัพยากรธรรมชาติ เพราะมันคือรากฐานในการดำรงชีวิตของพวกเขา เป็นแหล่งอาหาร แหล่งสมุนไพร และวัสดุธรรมชาติสำหรับการดำรงชีพอย่างยั่งยืน

“ที่นี่คือตู้กับข้าวของพวกเรา” ชาวบ้านหาอยู่หากินจากป่านี้มาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ คำพูดนี้สะท้อนภาพของชุมชนที่ผูกพันกับธรรมชาติ จนป่าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและวิถีชีวิต

สำรวจความหลากหลาย: พบสิ่งมีชีวิตเกือบ 300 ชนิด

ในวันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน 2568 ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านรวมตัวกันจัดกิจกรรมที่มีชื่อว่า “หลงรักษ์ป่า Wildlife In Love” ซึ่งเป็นกิจกรรมชีวตะลุมบอน (BioBlitz) เพื่อสำรวจความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ป่าหนองมะค่า ได้ความร่วมมือจากนักชีววิทยา นักธรรมชาติวิทยา เยาวชน และองค์กรอนุรักษ์มาร่วมสำรวจ การสำรวจในช่วงเวลาสามวันนี้อาจดูสั้น แต่กลับให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง เพราะพบสิ่งมีชีวิตมากถึง 297 ชนิด โดยมีการจำแนกออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ได้แก่ แมลง 176 ชนิด นก 63 ชนิด แมง 22 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 20 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 5 ชนิด พืช 6 ชนิด สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 3 ชนิด หอยและเห็ดอย่างละ 1 ชนิด ข้อมูลทั้งหมดได้รับการบันทึกและเผยแพร่ผ่านฐานข้อมูล iNaturalist และ eBird – Kaeng Krachan NP–Nong Maka forest ซึ่งเป็นพื้นที่ให้นักวิจัยและนักอนุรักษ์จากทั่วโลกเข้ามาศึกษาและสนับสนุนการอนุรักษ์

กิจกรรมนี้ไม่ได้เพียงแต่ให้ข้อมูลเชิงวิชาการเท่านั้น แต่ยังเป็นกระบวนการเรียนรู้ของชุมชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในพื้นที่ที่ได้ลงมือสำรวจธรรมชาติรอบตัว สร้างความผูกพันและความภาคภูมิใจในทรัพยากรของถิ่นฐานตนเอง

Creobroter apicalis สำรวจโดย : jiangyou
Black-and-white Spiny Spider (Gasteracantha kuhli) / คชาณพ พนาสันติสุข
Many-spotted Cat Snake (Boiga multomaculata) / คชาณพ พนาสันติสุข

หนองมะค่ากับสถานะ “แหล่งดูนกระดับโลก”

ความโดดเด่นอีกอย่างของพื้นที่ป่าหนองมะค่า คือ การเป็นจุดดูนกสำคัญระดับประเทศ จากข้อมูลของสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย (BCST) พบว่าบริเวณหนองมะค่าและแนวป่ารอบข้างสามารถพบนกได้มากกว่า 200 ชนิด ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ขนาดเล็กเช่นนี้ โดยเฉพาะนกหายาก เช่น แต้วแล้วหูยาว นกเค้าใหญ่พันธุ์เนปาล ซึ่งล้วนแต่เป็นนกที่นักดูนกใฝ่ฝันอยากเห็นสักครั้งในชีวิต

ในช่วงฤดูกาลดูนก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนไม่น้อยจะเดินทางมาเยือนที่หนองมะค่าเพื่อส่องกล้องจับภาพเหล่านกหายากเหล่านี้ อีกทั้งเป็นพื้นที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนในรูปแบบของโฮมสเตย์ ร้านอาหาร และไกด์ท้องถิ่นที่ให้บริการนำชมนกอย่างมืออาชีพ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนผ่านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

นกแต้วแล้วหูยาว (Eared Pitta) / Ayuwat Jearwattanakanok
นกกะรางสร้อยคอเล็ก (Lesser Necklaced Laughingthrush) / คชาณพ พนาสันติสุข

ความเสี่ยงจากเหมือง: เมื่อระเบิดอาจจุดชนวนชีวิต

“โดโลไมต์” เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่มีองค์ประกอบหลักคือแคลเซียมคาร์บอเนตและแมกนีเซียมคาร์บอเนต นิยมนำไปใช้ประโยชน์ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบในการผลิตปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง การปรับปรุงคุณภาพดินในการเกษตร รวมถึงใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตเหล็กและแก้ว การทำเหมืองโดโลไมต์ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการระเบิดหินจากภูเขา แล้วนำมาบดและแปรรูป ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เป็นที่มาของฝุ่นละออง เสียงดัง และแรงสั่นสะเทือน 

ในขณะที่ชุมชนกำลังพัฒนาแนวทางการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน การขอประทานบัตรเพื่อเปิดเหมืองแร่โดโลไมต์บริเวณพื้นที่ราบใกล้ของป่าหนองมะค่า กลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ชาวบ้านต้องลุกขึ้นมาต่อสู้  โดยเหมืองที่วางแผนไว้นั้นอยู่ห่างจากพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติกลุ่มป่าแก่งกระจานประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าใกล้เกินไปสำหรับกิจกรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม

ปัญหาที่ชุมชนกังวล ได้แก่ มลพิษทางอากาศจากฝุ่นละออง เสียงดัง และแรงสั่นสะเทือนจากการระเบิด การปนเปื้อนของน้ำในลำห้วย และผลกระทบต่อสัตว์ป่าที่อาจหนีหายออกจากพื้นที่ ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่คือความเสี่ยงต่อวิถีชีวิต เศรษฐกิจ โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก วัด สถานพยาบาล และความมั่นคงของชุมชนในระยะยาว

ชาวบ้านในตำบลสองพี่น้องจะคัดค้านโครงการเหมืองนี้อย่างเต็มที่ เพราะไม่ต้องการสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิต พร้อมย้ำว่า “เราไม่ต้องการเหมือง เราต้องการป่า”

เนื้อหาจากบทสัมภาษณ์ Scoop – เขตกันชนหรือเขตผลักดัน? เหมืองโดโลไมต์รุกใกล้ป่าแก่งกระจาน

ท่ามกลางกระแสการพัฒนาอุตสาหกรรม ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านเลือกที่จะยืนหยัดเคียงข้างธรรมชาติ พวกเขายืนยันว่าจะไม่ประนีประนอมและขอให้รัฐเห็นคุณค่าของป่าแห่งนี้ในฐานะแหล่งทุนธรรมชาติ ไม่ใช่แค่แหล่งแร่ ชุมชนเชื่อว่าการพัฒนาไม่จำเป็นต้องทำลาย และธรรมชาติคือมรดกที่แท้จริงของลูกหลานในอนาคต

อ้างอิง