โดยปกติแล้ว หากภาครัฐต้องการพัฒนาโครงการก่อสร้างในพื้นที่ที่มีคุณค่าและความสำคัญ จะต้องมีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมีมาตรการในการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจได้ว่า โครงการก่อสร้างที่จะเกิดขึ้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และจะส่งผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตชุมชนให้น้อยที่สุด
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา กลุ่ม Beach for life มูลนิธิภาคใต้สีเขียว มูลนิธินิติธรรมสิ่งเเวดล้อม Greenpeace เเละเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนภาคใต้ ร่วมจัดเวทีวิพากษ์ EHIA* ท่าเรือแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง เนื่องจากพบความบกพร่องใน EHIA หลายจุด ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. การกำหนดขอบเขตการศึกษา (scoping) ที่ไม่ครอบคลุมพื้นที่ และผู้ได้รับผลกระทบ ประเด็นดังกล่าวนักวิชาการทั้ง 12 ท่าน ให้ข้อมูลที่สอดคล้องกันว่า ในรายงาน EHIA ระบุขอบเขตการศึกษาแค่เพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งไม่ครอบคลุมพื้นที่นิเวศบริการ*ของอ่าวอ่าง จังหวัดระนอง และแหลมริ่ว จังหวัดชุมพร ทำให้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนอกรัศมี 5 กิโลเมตร ไม่ปรากฎใน EHIA ทั้งที่เป็นพื้นที่ทำมาหากินและมีระบบนิเวศที่สำคัญที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวโดยตรง
อีกทั้ง การศึกษาข้อมูลไม่ครบถ้วน ทำให้ข้อมูลบางประการถูกละเลย เช่น ต้นทุนผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลกระทบต่อชุมชน ระบบเศรษฐกิจ ไม่ถูกนำมาพิจารณากำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนโครงการ นำไปสู่การประเมินความคุ้มค่าและการตัดสินใจที่ผิดเพี้ยนไป


2. รายงานการศึกษา ในหลายบทที่สำคัญแต่กลับเลือกใช้ข้อมูลทุติยภูมิ โครงการมีความจำเป็นต้องทำ EHIA เนื่องจากมี ‘ผลกระทบต่อสุขภาพของคนในพื้นที่โดยตรง’ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ได้นำเสนอข้อมูลด้านสาธารณสุขในเวทีว่า ในรายงาน EHIA ข้อมูลสุขภาพของคนในพื้นที่เป็นข้อมูลทุติยภูมิที่ใส่มาและมีข้อผิดพลาด แสดงให้เห็นถึงการขาดการตรวจสอบให้ถี่ถ้วน ทั้งจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง และไม่มีการวิเคราะห์ข้อมูลการเชื่อมโยงกับผลกระทบจากโครงการท่าเรือ อีกทั้ง ไม่มีการสำรวจข้อมูลปฐมภูมิสถานะสุขภาพของครัวเรือนในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรที่จะได้รับผลกระทบ ซึ่งด้านสุขภาพควรมีการสำรวจสุขภาพคนทั้งตำบลเป็น Base Line Data เพื่อทราบข้อมูลสถานะสุขภาพ และสามารถประเมินผลกระทบพร้อมแนวทางแก้ไขได้ รวมถึงข้อมูลภัยพิบัติที่จำเป็น แม้ในรายงานจะปรากฎการจำลองพิบัติภัย น้ำมันรั่วไหล แต่ไม่มีการประเมินผลการจัดการและการรับมือภัยพิบัติอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากการมีท่าเรือ เช่น สารเคมีระเบิดรุนแรงที่ท่าเรือ ไฟไหม้กองตู้คอนเทนเนอร์ สารเคมีรั่วไหลลงทะเล สึนามิ แผ่นดินไหวรุนแรง พายุไต้ฝุ่น ไซโคลนฯ
3. โครงการนี้ เป็นชุดโครงการขนาดใหญ่ ที่ประกอบไปด้วยโครงการย่อย ทั้งโครงการท่าเรือน้ำลึกสองฝั่งทะเล (อ่าวอ่าง จ.ระนอง และแหลมริ่ว จ.ชุมพร) รถไฟรางคู่ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ซึ่งมีการศึกษาแยกจากกัน ทำให้หากมีโครงการใดโครงการหนึ่ง ไม่ผ่าน อาจส่งผลกระทบให้ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ และอาจกลายเป็นพื้นที่ทิ้งร้าง โดย ณ ขณะนี้ ยังไม่มีการศึกษาผลกระทบการก่อสร้าง ‘ถนนหลักสู่ท่าเรือน้ำลึก’ ซึ่งถนนนี้ คือ ส่วนหนึ่งของท่าเรือ เช่นเดียวกันกับ ‘ท่าเรือระนองเดิม’ ที่จะถูกใช้เป็นท่าเรือชั่วคราวในการก่อสร้าง อีกทั้ง เส้นทางขนหินและวัสดุก่อสร้าง ที่รบกวนชุมชน และเสี่ยงอุบัติเหตุ ทำให้เกิดข้อสงสัยได้ว่า หากไม่มีการศึกษาผลกระทบโครงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ท่าเรือน้ำลึกอาจไม่สามารถเปิดใช้งานได้ และกลายเป็นการสูญเสียพื้นที่และความหลากหลายไป

4. ไม่มีการประเมินมูลค่าและวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มีอยู่อย่างรอบด้านที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ชุมชน และภาคธุรกิจดั้งเดิมในพื้นที่ เช่น ผลผลิตจากประมงพื้นบ้านที่มาจับสัตว์น้ำในอ่าวอ่างและดอนตาแพ้ว ซึ่งเป็นขอบเขตพื้นที่การศึกษาในระยะ 5 กิโลเมตร อีกทั้ง ข้อมูลเส้นทางเดินเรือ จุดพักเรือ และจุดจอดเรือของชาวประมง
5. ข้อมูลสมุทรศาสตร์และชายฝั่งทะเล ไม่สามารถตอบคำถามที่สำคัญได้ ยกตัวอย่างเช่น ไม่มีแบบจำลองคลื่นและแบบจำลองการเปลี่ยนแปลงชายฝั่ง รวมถึงการวิเคราะห์อดีตถึงปัจจุบัน และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อีกทั้ง ไม่มีการประเมินความเข้มข้น ระยะเวลาที่น้ำขุ่น และความหนาของการทับถม เพื่อบ่งบอกว่า น้ำจะขุ่นเท่าไหร่ และตะกอนจะไปทับถมที่ไหน และมีการใช้แบบจำลอง 2 มิติที่อาจประเมินผลกระทบต่ำไป ทำให้ประเมินการกระจายตัวของตะกอนได้เพียงกระแสน้ำที่เกิดจากน้ำขึ้นน้ำลงเท่านั้น และไม่มีการประเมินความเสี่ยงรอบด้าน รวมถึงการจำลองเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว (extreme Events) และพิจารณาผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

EHIA ใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากรายงานของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ระบุเพียงพื้นที่ไหนกัดเซาะ/ทับถม น้อย ปานกลาง ต่ำ ซึ่งไม่สามารถตอบได้ว่า หากมีโครงการ ชายฝั่งมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร
6. การสำรวจสัตว์ในพื้นที่ไม่ครอบคลุม โดยในรายงานระบุว่า พบสัตว์จำนวนไม่มากในพื้นที่โครงการ และสรุปว่า บริเวณนี้ มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ นำไปสู่การให้คะแนนความเหมาะสมของพื้นที่ในการเป็นพื้นที่โครงการมีมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่การศึกษาของทีมนักวิจัยพบสัตว์จำนวนมากในพื้นที่ และบอกว่า บริเวณนี้มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง
7. จังหวัดระนองมีเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย และการเกษตรมูลค่าสูง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งเมืองระนอง เป็นพื้นที่อนุรักษ์ป่าชายเลน ที่มีความสำคัญระดับโลก อีกทั้งเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีคุณสมบัติเฉพาะ และมีกระแสของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเชิงอนุรักษ์ในสายตานักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเกาะพยาม สถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นของระนอง ที่นักท่องเที่ยวเลือก ด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติ อากาศดี ไม่มีมลพิษ ซึ่งโครงการท่าเรือน้ำลึกระนอง จะส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพที่ไม่สวยงาม และมลภาวะต่าง ๆ อีกทั้ง โครงการฯ ไม่มีรายละเอียดความชัดเจนของเส้นทางขนส่งทางบกที่พาดผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนองไปยังท่าเรือว่า มีการออกแบบ และจะกระทบพื้นที่ป่าชายเลนระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรอย่างไร
8. โครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ทำให้การเสนอมรดกโลกหยุดชะงัก เนื่องจากพื้นที่โครงการท่าเรือน้ำลึกฝั่งระนอง มีพื้นที่คุ้มครองทางทะเลอยู่ใกล้เคียง คือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง อุทยานแห่งชาติแหลมสน พื้นที่สงวนชีวมณฑลระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่เสนอมรดกโลกดังกล่าว จึงเกิดการตั้งคำถามว่า โครงการพัฒนาเหล่านี้ มีความคุ้มค่าและเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนจริงหรือ เมื่อต้องแลกมาด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ธรรมชาติและวิถีชีวิตที่สูญหาย ที่จะไม่สามารถกู้คืนได้อีก
9. การขาดการมีส่วนร่วมของชุมชน คนในพื้นที่มีคำถามมากมายที่แสดงออกถึงความกังวลถึงผลกระทบพื้นที่ทำมาหากินและที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของพวกเขาในขั้นตอนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เช่น ประเด็นการกัดเซาะชายฝั่ง และการเปลี่ยนแปลงชายฝั่ง ซึ่งรายงานการศึกษา EHIA ไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ เพราะข้อมูลการศึกษาที่ไม่ครบถ้วน อีกทั้ง ในบางเวที ชาวบ้านไม่ได้รับเชิญไปเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ เวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 5-6 สิงหาคม 2568 นี้ จึงควรยุติลง และเริ่มทบทวนกระบวนการใหม่ทั้งหมด

เมื่อพื้นที่ถูกลดความสำคัญด้วยข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน และตรงกับความเป็นจริง จะส่งผลให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ตัดสินใจบนฐานข้อมูลที่ผิดพลาด นำมาซึ่งผลกระทบอีกนับไม่ถ้วนต่อพื้นที่และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในพื้นที่
หากเปรียบ EHIA นี้ เป็นข้อสอบ นักวิชาการทั้ง 12 ท่านให้สอบตก ต้องติด F และต้องไปทำกระบวนการศึกษาใหม่ทั้งหมด
ทั้งนี้ สามารถติดตามความคืบหน้าการต่อสู้ ได้ที่ Beach for Life Thailand และมูลนิธินิติธรรมสิ่งเเวดล้อม
- EHIA หมายถึง รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการกิจการ หรือการดำเนินการที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิต ของประชาชนในชุมชนอย่างรุนแรง (Environmental and Health Impact Assessment: EHIA)
- นิเวศบริการ หมายถึง แนวคิดที่ว่าระบบนิเวศเปรียบเสมือนเครื่องจักรซับซ้อนที่สามารถสร้างประโยชน์ให้มนุษย์ โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ บริการด้านการเป็นแหล่งผลิต (provisioning services) บริการด้านการควบคุม (regulating services) บริการด้านวัฒนธรรม (cultural services) และบริการด้านการสนับสนุน (supporting services)
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
- แถลงการณ์ขอร่วมสนับสนุนการเดินเท้าของม๊ะทม สินสุวรรณ และเครือข่ายเพื่อปกป้องทะเลระนอง-ชุมพร จากเเลนด์บริดจ์
- แลนด์บริดจ์ (Land Bridge) โครงการยักษ์ใหญ่ถมทะเลสร้างท่าเรือ ทำลายพื้นที่สีเขียว
อ้างอิง
- สไลด์นำเสนอของนักวิชาการ 12 ท่าน ในเวทีเสวนา ‘วิพากษ์ EHIA ท่าเรือแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง’
- รายงาน Land bridge Effect ผลกระทบโครงการท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง
ผู้เขียน
มนุษย์หมีแข็ง ช่างสังเกต ชอบมองท้องฟ้า ต้นไม้สีเขียว ฟังเพลงไปเรื่อย และถ่ายรูปทุกสิ่งอย่าง I can do this all day.