สรุปเหตุการณ์ สืบพยานจำเลย คดีล่าเสือดำ (19-21 ธ.ค. 61)

สรุปเหตุการณ์ สืบพยานจำเลย คดีล่าเสือดำ (19-21 ธ.ค. 61)

ขั้นตอนการสืบพยานคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 หรือที่สาธารณชนรู้จักกันดีในคดีล่าเสือดำที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเดินทางมาถึงขั้นตอนการสืบพยานจำเลยแล้ว

โดยการสืบพยานจำเลยนั้น เดิมได้กำหนดนัดสืบพยานจำเลยทั้งหมด 17 ปากรวม 6 นัดในระหว่างวันที่ 19-27 ธันวาคม 2561 แต่จากที่ได้สืบพยานโจทก์ไปก่อนหน้านี้และเพราะมีบ้างปากซ้ำกับพยานของฝ่ายโจทก์ โดยทนายความฝ่ายจำเลยได้ซักค้านไปแล้ว จึงได้ข้อสรุปว่าจะเหลือการสืบพยานจำเลยเพียง 6 ปากเท่านั้น

19 ธันวาคม 2561 วันแรกของการสืบพยานจำเลย ได้สืบพยานจำเลยปากแรก นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 ตลอดเวลาราชการในช่วงเช้า จากนั้นได้นัดสืบพยานจำเลยปาก นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 ในช่วงบ่ายจนเสร็จสิ้น และหมดเวลาราชการ

ต่อมาในวันที่ 20 ธันวาคม 2561 นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 เข้าเบิกความพยานจำเลยเป็นปากแรก ในช่วงเช่าเสร็จสิ้นจนจบปาก ส่วนการสืบพยานจำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศนั้น ได้เลื่อนไปสืบพยานเพิ่มเติมในวันพุธที่ 26 ธันวาคมนี้ พร้อมกับเรียกพยานที่เหลืออีก 2 ปากมาวันเดียวกัน

โดยเว็บไซต์มติชนออนไลน์ และผู้จัดการออนไลน์ รายงานอ้างสาเหตุว่า จำเลยมีอาการนอนไม่หลับ เป็นเหตุให้ความดันขึ้น จึงไม่สามารถเข้าเบิกความเป็นพยานจำเลยในวันดังกล่าวด้วย

ทางศาลได้ระบุว่า เพื่อเปิดโอกาสให้จำเลยทั้ง 4 ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลอนุมัติให้เลื่อนการสืบพยานจำเลยปากจำเลยที่ 4 และปากที่เหลือไปในวันพุธที่ 26 ธันวาคม 2561

ประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีล่าเสือดำ และขั้นตอนการดำเนินคดีในชั้นศาลนั้น เว็บไซต์ เนชั่นทีวี ได้รายงานเพิ่มเติมถึงเรื่องที่ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ได้รับการติดต่อจากทนายของนายเปรมชัย เพื่อเป็นพยานในการสืบพยานฝ่ายจำเลยในการพิจารณาคดี แต่เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายของนายเปรมชัยได้แถลงต่อศาลแล้วไม่นำนายปรเมศวร์ไปเป็นพยาน

นายปรเมศวร์ ให้ความเห็นว่า คดีนี้ตนเองไม่ได้เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ แต่เป็นการวิเคราะห์ตามข้อมูลที่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่อุทยานป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเท่านั้น

นอกจากนี้นาย นายปรเมศวร์ ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับสำนักข่าวพีพีทีวี ว่า เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายจำเลยต้องหาหลักฐานที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับตัวเอง เพื่อเอามาสู้กันในศาล แต่เชื่อว่าผู้พิพากษาของศางจังหวัดทองผาภูมิ จะไม่ให้น้ำหนักกับคำพูดของนายปรเมศวร์ เพราะเป็นแค่ความคิดเห็นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคดี

 

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกรณี ซีอีโออิตาเลียนไทยล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรในเว็บไซต์มูลนิธิสืบนาคะเสถียร

 


เรียบเรียง ฝ่ายสื่อสารองค์กร มูลนิธิสืบนาคะเสถียร