ความคืบหน้าคดี ซีอีโออิตาเลียนไทยล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ # 5

ความคืบหน้าคดี ซีอีโออิตาเลียนไทยล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ # 5

ความคืบหน้าคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวก 4 คน ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกเข้าจับกุมขณะตั้งแคมป์ในพื้นที่หวงห้ามของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และตรวจพบซากเสือดำ ซากไก่ฟ้าหลังเทา ซากเก้ง อาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนมาก เมื่อวันที่ 6 ก.พ.

23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดผลตรวจอาวุธปืนที่พบในแคมป์พักนายเปรมชัยและพวก โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลางรายงานผลยืนยันว่า มีลายนิ้วมือของนายเปรมชัยติดอยู่บนโกร่งไกปืนลูกซอง

ขณะที่ผลตรวจรูกระสุนปืนที่หนังเสือดำ 3 ใน 8 รู ยืนยันชัดว่าเป็นแผลที่เกิดจากกระสุนลูกปรายจากปืนลูกซอง ส่วนอีก 5 รู ไม่ชัดเจน จึงไม่สามารถระบุได้ว่าเสือดำถูกยิงกี่นัด

ในส่วนการแจ้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์นั้น เดิมเจ้าหน้าที่ด่านกักสัตว์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกได้มาแจ้งความในข้อหาทารุณกรรมสัตว์เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา

แต่ล่าสุด ได้ถอนแจ้งความเมื่อวันที่ 21 ก.พ. เนื่องจากพิจารณานิยามคำว่า “สัตว์” แล้วพบว่าไม่เข้าตามคำนิยามของตาม พ.ร.บ.การทารุณกรรมสัตว์

ดังนั้น การแจ้งข้อกล่าวหานายเปรมชัยจึงยังเป็น 9 ข้อกล่าวหาเหมือนเดิม

สำหรับการรวมรวบหลักฐานอื่นๆ นั้น กระบะท้าย รถโตโยต้าแลนด์ครุยเซอร์ของนายเปรมชัยและพวก ไม่พบดีเอ็นเอ คราบเลือดของสัตว์ป่า

ส่วนงาช้าง 2 คู่ที่ที่ยึดได้จากบ้านนายเปรมชัย อยู่ระหว่างการตรวจสอบดีเอ็นเอ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ นับจากวันที่ 15 ก.พ. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้ให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้

ด้านการออกหมายเรียกนายเปรมชัยและพวก จากล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ทนายของนายเปรมชัยได้ขอเลื่อนเป็นวันที่ 5 มี.ค. ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สามารถดูรายละเอียดการเรียกตัวนายเปรมชัยและพวกได้ที่ ขั้นตอนการฝากขังระหว่างสอบสวน กรณีซีอีโออิตาเลียนไทยล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ 2561

 

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกรณี ซีอีโออิตาเลียนไทยล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรในเว็บไซต์มูลนิธิสืบนาคะเสถียร

ร่วมลงชื่อ “ดำเนินคดีกับผู้ล่าสัตว์ในเขตอุทยานฯ ต้องโปร่งใส และมีมาตรฐานแบบเดียวกันทุกคดี”

 


เรียบเรียง ฝ่ายสื่อสารองค์กร มูลนิธิสืบนาคะเสถียร