ยังไม่มีผลทางกฎหมาย! มติเห็นชอบ ‘ปลดนกปรอดหัวโขน’ ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องรอเสนอ ครม. ก่อนมีผลบังคับใช้

ยังไม่มีผลทางกฎหมาย! มติเห็นชอบ ‘ปลดนกปรอดหัวโขน’ ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องรอเสนอ ครม. ก่อนมีผลบังคับใช้

แม้ที่ประชุมคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มีมติ ‘เห็นชอบ’ ให้ปลดนกปรอดหัวโขนออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ โดยให้เหตุผลว่าประชากรในธรรมชาติไม่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ทั้งนี้ มติดังกล่าว ยังไม่ก่อให้เกิดผลทางกฎหมายทันที (ธันวาคม 2568) และยังต้องนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาในขั้นต่อไปก่อนมีผลบังคับใช้

อย่างไรก็ตาม การจับนกป่าในพื้นที่คุ้มครองยังคงมีความผิดตามกฎหมาย เช่น เขตห้ามล่าสัตว์ป่า (เตรียมประกาศเพิ่มเติมเป็น 98 แห่งทั่วประเทศ) เขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งยังคงห้ามจับนกป่าโดยเด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562  

ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึง สามารถใช้กฎหมายอื่น ๆ ควบคู่กันได้ เช่น พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ และกฎหมายว่าด้วยการบุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อใช้ในการลงโทษแก่ผู้กระทำความผิด

ผู้เพาะเลี้ยงจะต้องมีระบบระบุตัวนก เช่น ห่วงขามาตรฐาน เพื่อแยกแยะนกเพาะเลี้ยงจากนกที่มาจากธรรมชาติ รวมทั้งต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้นกเพาะเลี้ยงหลุดรอดสู่ธรรมชาติ และป้องกันการ ‘สวมสิทธิ์’ นำนกป่ามาปะปนในระบบเพาะเลี้ยง การควบคุมดังกล่าวจะเป็นกลไกสำคัญเพื่อลดการล่าจากธรรมชาติและควบคุมตลาดที่เกี่ยวข้อง

ต้องมีการเฝ้าระวังและกำกับติดตามสถานการณ์หลังการปลดบัญชีอย่างใกล้ชิด โดยมีเงื่อนไขว่าหากพบการเปลี่ยนแปลงในทางลบ หรือพบการคุกคามประชากรนกในธรรมชาติเพิ่มขึ้น สามารถเสนอให้นกปรอดหัวโขน บรรจุกลับเข้าบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองได้ทันที

และปัจจุบัน (ธันวาคม 2568) สถานะของ ‘นกปรอดหัวโขนยังคงเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้’ หากพบผู้กระทำความผิด สามารถโทรแจ้งสายด่วนพิทักษ์ป่าได้ที่ 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

อ้างอิง

ผู้เขียน

+ posts

สาวแว่นทาสแมวที่ชอบบอกเล่าเรื่องราวผ่านลายเส้น มีธรรมชาติช่วยฮีลใจ และหลงใหลในพระจันทร์เสี้ยว