การล่มสลายของ แมลง อาจส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลก

การล่มสลายของ แมลง อาจส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลก

นักอนุรักษ์เตือนว่า “การล่มสลายของ แมลง ที่ไม่มีใครสังเกตเห็น” ควรจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนก หากแนวโน้มดังกล่าวยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ก็อาจส่งผลอย่างรุนแรงต่อมนุษยชาติและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลก

รายงานล่าสุดระบุว่า โลกได้สูญเสียประชากรแมลงจำนวนเกินกว่าครึ่งหนึ่งตั้งแต่ พ.ศ. 2513 เนื่องจากการทำลายล้างธรรมชาติและการใช้สารกำจัดแมลงอย่างเข้มข้น โดยที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของแมลงที่เรารู้จักจำนวนราว 1 ล้านชนิดพันธุ์กำลังเผชิญกับภาวะสูญพันธุ์

การวิเคราะห์ข้างต้นเขียนโดยหนึ่งในนักนิเวศวิทยาชั้นแนวหน้าในสหราชอาณาจักร โดยเนื้อหาค่อนข้างให้ความสำคัญกับพื้นที่ในสหราชอาณาจักรซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีการศึกษาแมลงมากที่สุดในโลก รายงานดังกล่าวระบุว่าผึ้งและตัวต่อ 23 ชนิดพันธุ์ได้สูญพันธุ์ในศตวรรษที่ผ่านมา ในขณะที่ปริมาณการใช้สารกำจัดแมลงเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าหากเทียบกับ 25 ปีก่อน

นับตั้งแต่ พ.ศ. 2513 ผีเสื้อในสหราชอาณาจักรที่จำเป็นต้องอยู่อาศัยในพื้นที่จำเพาะมีปริมาณลดลงถึง 77 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผีเสื้อทั่วไปลดลงถึง 46 เปอร์เซ็นต์ สถานการณ์ดังกล่าวกระทบต่อสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น นกจับแมลงลายจุด (spotted flycatcher) ซึ่งกินเฉพาะแมลงที่บินได้เท่านั้น ประชากรของมันลดลงถึงร้อยละ 93 นับตั้งแต่ พ.ศ. 2510

อย่างไรก็ดี นักอนุรักษ์ระบุว่าประชากรแมลงยังสามารถฟื้นตัวได้โดยการตั้งเป้าหมายที่เคร่งครัดในการลดใช้สารจำกัดศัตรูพืช รวมทั้งสร้างสวนในเมืองให้เป็นมิตรต่อสัตว์ป่า นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าแมลงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทุกระบบนิเวศในฐานะผู้ผสมเกสร เป็นแหล่งอาหาร และช่วยรีไซเคิลสารอาหาร

“เราไม่มีทางมั่นใจกับข้อมูลที่มีได้ แต่ในแง่ตัวเลขเราอาจสูญเสียประชากรแมลงราวร้อยละ 50 หรือมากกว่านั้น นับตั้งแต่ พ.ศ. 2513 ซึ่งมันอาจจะมากกว่านี้มากก็ได้” ศาสตราจารย์ เดฟ กูลสัน (Dave Goulson) จากมหาวิทยาลัยแห่งซัสเซกส์ (University of Sussex) ผู้เขียนรายงานให้สัมภาษณ์ “เราเพียงแต่ไม่รู้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก หากเรายังไม่หยุดการลดจำนวนของแมลงลงอาจจะส่งผลรุนแรงต่อโลกและความเป็นอยู่ของมนุษย์”

การศึกษาเรื่องจำนวนประชากรของแมลงในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมานั้นค่อนข้างขาดแคลน เขากล่าวเสริมว่า “แต่น้ำหนักของข้อมูลที่มีอยู่นั้นชัดเจนว่าการลดลงอย่างรวดเร็วของประชากรแมลงเป็นเรื่องจริง มันทำให้ผมกังวลมากเมื่อได้ยินคนอื่นพูดว่าเราจำเป็นต้องมีการศึกษาในระยะยาวเพื่อให้มั่นใจ แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม แต่เราไม่สามารถรออีก 25 ปีก่อนที่จะเริ่มทำอะไร เพราะมันอาจจะสายเกินไป”

แกรี แมนเทิล (Gary Mantle) ผู้อำนวยการ Wilshire Wildlife Trust กล่าวว่า “การสูญพันธุ์ที่ไม่มีใครสังเกตเห็นควรจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนก เรากำลังทำให้หนึ่งในรากฐานสำคัญในการดำรงชีพของเราเผชิญกับความเสียง แต่แมลงและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหากเราหยุดฆ่าพวกมันและฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยซึ่งพวกมันจำเป็นต้องใช้ในการขยายพันธุ์ เราจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างในตอนนี้ ในสวนของเรา สวนสาธารณะ และแปลงเกษตร”

ประชากรแมลงที่ลดจำนวนลงอย่างมากเป็นปรากฎการณ์ที่พบในเยอรมัน และเปอโตริโก การทบทวนวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ในระดับโลกครั้งแรกได้เผยแพร่ในเดือนกุมภาพันธุ์ที่ผ่านมา ระบุว่าการลดจำนวนลงของประชากรแมลงทั่วโลกเป็นภัยคุกคามต่อ “การล่มสลายระดับหายนะของระบบนิเวศตามธรรมชาติ”

แมลงสามารถช่วยให้ฟื้นจำนวนประชากรได้โดยการ “ฟื้นธรรมชาติ (rewilding)” สวนในเมืองและสวนสาธารณะ กูลสันกล่าว “ในสหราชอาณาจักรยังมีพื้นที่ศักยภาพซึ่งเป็นมิตรกับแมลงมากเพียงพอทั่วประเทศ ปัจจุบันนี้มีหลายคนเริ่มซื้อแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนสวนหลังบ้านของพวกเขาให้เป็นมิตรกับสัตว์ป่ามากขึ้นโดยลดการควบคุมลง ยังมีอีกหลายพื้นที่ซึ่งตัดสินใจเลิกใช้ยาฆ่าแมลง” แต่เขาก็ยังกล่าวอีกว่า “ความท้าทายที่ใหญ่กว่านั้นคือแปลงเกษตร พื้นที่บนเกาะอังกฤษราวร้อยละ 70 คือพื้นที่ฟาร์ม ไม่ว่าเราจะปรับสวนหลังบ้านของเราให้เป็นมิตรกับสัตว์มากแค่ไหน แต่ตราบใดที่พื้นที่ 70 เปอร์เซ็นต์ในเขตชนบทยังเป็นภัยต่อสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะแก้ประชากรแมลงที่กำลังลดลงให้กลับมาเพิ่มขึ้นได้”

รายงานดังกล่าวเรียกร้องให้มีการริเริ่มเป้าหมายผูกพันที่จะลดการใช่สารเคมีในแปลงเกษตร รวมถึงการสนับสนุนเกษตรกรเหล่านั้นให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ โครงการดังกล่าวควรใช้เงินจากภาษีที่เก็บจากสารเคมี สวีเดนมีการเก็บภาษีลักษระดังกล่าวตั้งแต่ พ.ศ. 2527 เช่นเดียวกับฝรั่งเศส อิตาลี และเดนมาร์ก

จากการศึกษาเมื่อ พ.ศ. 2550 ระบุว่าแปลงเกษตรสามารถลดปริมาณการใช้ยาฆ่าแมลงลงได้อย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ยังผลิตอาหารได้เท่าเดิม งานวิจัยดังกล่าวยังระบุออีกว่าสามารถลดการใช้สารเคมีได้โดยไม่กระทบต่อผลกำไรของแปลงเกษตรในพื้นที่ราว 3 ใน 4 ของพื้นที่เกษตรทั้งหมด

แมตต์ ชาร์ดโลว์ (Matt Shardlow) ผู้อำนวยการองค์กรการกุศล Buglife กล่าวว่า “งานวิจัยล่าสุดนี้ได้แสดงให้เห็นว่าพื้นที่อยู่อาศัยเปี่ยมคุณภาพ (ในสหราชอาณาจักร) ยังถูกตัดขาดออกจากกันทำให้ชนิดพันธุ์สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังไม่สามารถอพยพขึ้นทางเหนือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การฟื้นฟูโครงข่ายที่อยู่อาศัยสำหรับแมลงจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ในตอนนี้”

กูลสันระบุว่าการแยกตัวออกของสหราชอาณาจักรจากสหภาพยุโรปหมายถึงความเป็นไปได้ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ “ไม่ว่าใครจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับเบร็กซ์อิท (Brexit) นี่ถือเป็นโอกาสดียิ่งในการที่เราจะพลิกโฉมระบบเกษตรกรรมในอังกฤษ” เรากล่าวว่าการให้เงินทุนเพื่อหนุนเสริมสิ่งแวดล้อมและสินค้าสาธารณะต่างๆ แทนที่จะถือครองที่ดินธรรมดาเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง

 


ถอดความและเรียบเรียงจาก  ‘Insect apocalypse’ poses risk to all life on Earth, conservationists warn
ถอดความและเรียบเรียงโดย รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์