ความคืบหน้าคดีเปรมชัย กรรณสูตร 2562

ความคืบหน้าคดีเปรมชัย กรรณสูตร 2562

คดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก

19 มีนาคม 2562 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก โดยมีสาระสำคัญดังนี้

 

คลิกที่รูปเพื่ออ่านเนื้อหาข่าว

 

จำเลยที่ 1 นายเปรมชัย กรรณสูต

รวมโทษจำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา ถูกสั่งฟ้อง 6 ข้อหา ยกฟ้อง 1 ข้อหา ดังนี้
1.ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน
2.ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และ 3.ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 8 เดือน
4.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 2 เดือน

จำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ

รวมโทษจำคุก 13 เดือน ถูกสั่งฟ้อง 7 ข้อหา ยกฟ้อง 3 ข้อหา ดังนี้
1.ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 เดือน
2.ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน
3.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ
4.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 4 เดือน

จำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน

จำคุก 4 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2 ปี ถูกสั่งฟ้อง 5 ข้อหา  ยกฟ้อง 3 ข้อหา
1.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ
2.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) 

จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ

รวมโทษจำคุก 2 ปี 17 เดือน ถูกสั่งฟ้อง 8 ข้อหา ไม่มีข้อหาใดถูกยกฟ้อง
1.ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 เดือน
2.ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน
3.ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และ 4.ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 1 ปี
5.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกับ ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย(กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 4 เดือน
6.ข้อหาพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จำคุก 4 เดือน
7.ข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จำคุก 1 ปี

ค่าเสียหายให้จำเลยที่ 1 และ4 ร่วมกันชำระค่าเสียหาย 2 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 4 ก.พ.2561 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 

24  พ.ค. 2562  อัยการศาลสูงจังหวัดกาญจนบุรียื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

นายเปรมชัย กรรณสูตร จำเลยที่ 1

  • อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานเป็นตัวการให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่า (เสือดำ) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ศาลจังหวัดทองผาภูมิวินิจฉัยว่าเป็นผู้สนับสนุน
  • อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันเก็บหาของป่าภายในเขตป่าสงวน
  • อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษายกฟ้อง
  • อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า (ไก่ฟ้าหลังเทา) เป็นการกระทำหลายกรรม ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว
  • อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน 
  • ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่า เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน


นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2

  • อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยขอไม่ให้ลดโทษ เนื่องจากจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาได้ถอนคำให้การเดิมเป็นให้การรับสารภาพ
  • อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษายกฟ้องข้อหานี้
  • อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าและมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(เสือดำ) ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษายกฟ้องข้อหานี้
  • อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว
  • อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน


นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3

  • อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าและมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(เสือดำ)ไว้ในครอบครอง ศาลจังหวัดทองผาภูมิยกฟ้อง
  • อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำและซากไก่ป่า(ไก่ฟ้าหลังเทา) เป็นการกระทำหลายกรรมต่างกัน ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว

     
นายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4

  • อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่ลดโทษ เนื่องจากจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาได้ถอนคำให้การเดิมและรับสารภาพ
  • อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว
  • อุทธรณ์ให้ลงโทษสูงขึ้น ฐานความผิดพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์ฯ ศาลจังหวัดทองผาภูมิลงโทษจำคุก 4 เดือน โจทก์เห็นว่าน้อยไป
  • อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน

และอุทธรณ์ขอให้จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 3,012,000 บาท เต็มตามฟ้องโจทก์ นอกจากนี้ยังอุทธรณ์ขอให้ริบเกลือป่น ถุงเกลือป่น (ถุงเปล่า) ถุงดำ และรถยนต์ แบบนั่งสองตอนของกลางเนื่องจากเห็นว่าเป็นทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำผิด (ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาให้คืน)

คลิกที่รูปเพื่ออ่านเนื้อหาข่าว

คดีอยู่ในระหว่างกระบวนพิจารณาชั้นอุทธรณ์

และศาลนัดฟังคำพิพากษา 12 ธันวาคม 2562 

 

คดีติดสินบน

11 มิถุนายน 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 นัดฟังคำพิพากษานายเปรมชัย กรรณสูต และนายยงค์ โดดเครือ ในคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน

สืบเนื่องจากคดีล่าสัตว์ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 ได้ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 และนายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือประวิงการกระทําอันมิชอบด้วยหน้าที่ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 83 นั้น โดยศาลมีพิพากษาดังนี้

จำเลยที่ 1 นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 รวมโทษจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา โดยให้นับโทษต่อจากคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกด้วย โดยในคดีล่าสัตว์ป่า ศาลพิพากษาให้นายเปรมชัย กรรณสูตร จำคุกรวม 16 เดือน ไม่รอลงอาญา แต่ศาลไม่สามารถนับโทษต่อในคดีหมายเลขดำ อ.1143/2561 (คดีครอบครองงาช้าง) และคดีหมายเลขดำ อ.1144/2561(คดีครอบครองอาวุธปืนไรเฟิล)ได้ เนื่องจากทั้ง 2 คดี ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น

ศาลได้อนุญาตให้นายเปรมชัย กรรณสูตร จำเลยที่ 1 ประกันตัว โดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน 200,000 บาท เนื่องจากเห็นว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และมารายงานตัวต่อศาลตามกำหนดนัดทุกครั้ง

คลิกที่รูปเพื่ออ่านเนื้อหาข่าว

 

จำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าคลิปเสียงตามที่ปรากฏเป็นข่าว เป็นการสนทนาตามปกติ และขณะนั้นนายเปรมชัย ไม่ได้อยู่ในบริเวณดังกล่าว

คดีอยู่ในระหว่างกระบวนพิจารณาชั้นอุทธรณ์

 

คดีปืนในบ้าน

20 สิงหาคม 2562 คดีอาญาหมายเลขดำ อ.1144/2561 ศาลนัดฟังคำพิพากษา พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูตร ในความผิดฐานมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต(ภายในบ้านพัก) ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490 ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี นายเปรมชัย แต่จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา คงจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา 

คลิกที่รูปเพื่ออ่านเนื้อหาข่าว

โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

  1. อัยการโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2561 ว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2561 จำเลยได้กระทำผิดกฎหมายด้วยการมีอาวุธปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊บ 1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตที่บ้านพัก
  2. จำเลยได้รับการประกันตัวชั้นพิจารณา 200,000 บาท โดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใดๆ ซึ่งคดีนี้ในชั้นสอบคำให้การจำเลย เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2561 จำเลยเคยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่เมื่อ 9 ก.ค.2562 วันสืบพยานโจทก์นัดแรก จำเลยได้แถลงคำให้การ “รับสารภาพ” พร้อมยื่นคำร้องประกอบต่อศาลเพื่อพิจารณา ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจประวัติครอบครัว การศึกษา การทำงาน และอื่นๆ ของจำเลย และรายงานให้ศาลทราบภายใน 30 วันเพื่อประกอบการพิจารณา
  3. วันที่ 20 ส.ค. 2562 นายเปรมชัย ได้มอบอำนาจให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ลงโทษสถานเบาหรือรอลงอาญา โดยระบุว่า
  • จำเลยจะขออุปสมบท (บวช) ที่วัดบวรนิเวศหรือวัดอื่นเป็นเวลา 15 วันเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
  • จำเลยจะบริจาคเงินส่วนตัว 3 ล้านบาท เพื่อเป็นการสาธารณประโยชน์และ 
  • จำเลยจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืนอีกตลอดชีวิต

ศาลพิเคราะห์รายงานสืบเสาะประวัติ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำคุก 1 ปีตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน แต่เนื่องจากจำเลย ยังมีโทษคดีอาญาจำคุกอีก 2 คดี ในศาลจังหวัดทองผาภูมิ และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พฤติการณ์จึงไม่รอการลงโทษ

 

คดีครอบครองงาช้าง

1 ต.ค. 2562   ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดีครอบครองงาช้าง ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางคณิตดา กรรณสูตร อายุ 65 ปี ภรรยาของนายเปรมชัย จำเลยที่ 1, นายเปรมชัย กรรณสูตร อายุ 65 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 2 และ น.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 71 ปี คนใกล้ชิดของภรรยานายเปรมชัย จำเลยที่ 3 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 คดีหมายเลขดำที่ อ.1143/2561 ในความผิดฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกับ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรฯ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2535 มาตรา 19, 47 และ พ.ร.บ.ศุลกากรพ.ศ.2469 มาตรา 27, 27 ทวิ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

ในชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 3 ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2558 นางคณิตดา และ น.ส.วันดี ได้ร่วมกันแจ้งต่อนักวิชาการป่าไม้ ชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานฯ ว่า ได้ครอบครองงาช้าง (งช.1) ทั้ง 4 กิ่ง ถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 อันเป็นทรัพย์มรดกของนางคณิตดาที่ได้มาตั้งแต่ปี 2530 โดยถูกต้อง ซึ่งมี น.ส.วันดี เป็นพยานถูกต้องทุกประการ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานเห็นว่า คดีนี้โจทก์มีเจ้าหน้าที่ศิลปากรได้เบิกความเกี่ยวกับอายุของงาช้างที่ได้ตรวจดูจากฐานไม้งาช้างทำขึ้นพิเศษ ซึ่งมีอายุมากกว่า 40 ปี โดยสอดคล้องกับคำให้การของจำเลยที่ได้ระบุว่ารับงาช้างตกทอดมาจากมารดาตั้งแต่ปี 2530 ซึ่งมารดาของจำเลยนั้นก็ได้รับงาช้างมาเมื่อปี 2521และได้ยื่นแบบคำขอครอบครองไปโดยสุจริต ตามข้อความที่ได้ระบุ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงไม่เป็นความผิดตามฟ้อง ส่วนนายเปรมชัย จำเลยที่ 2 ถูกฟ้องเพราะมีชื่อเป็นเจ้าบ้าน และนางวันดี จำเลยที่ 3 ถูกฟ้องเพราะเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรอง การทำแบบคำขอตามที่จำเลยที่ 1 บอกว่าได้รับงาช้างมาจากมารดา เมื่อการกระทำของจำเลยที่ 1 ไม่เป็นความผิด จำเลยที่ 2 และ 3 จึงไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง พร้อมทั้งยกคำร้องที่ขอให้ริบของกลางเป็นงาช้าง 2 คู่

 

สรุปโทษรวมจาก 4 คดี ของนายเปรมชัย กรรณสูตร

  1. คดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก(คดีเสือดำ) ศาลชั้นต้นพิพากษา 16 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์
  2. คดีติดสินบน ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา คดีอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์
  3. คดีครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต(พบในบ้านพัก) ศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา
  4. คดีครอบครองงาช้าง ศาลพิพากษายกฟ้อง พร้อมทั้งยกคำร้องที่ขอให้ริบของกลางเป็นงาช้าง 2 คู่

*รวมโทษรวมจากทั้ง 3 คดี คือ 1 ปี 22 เดือน

โดยต่อจากนี้คดีที่สืบเนื่องจากคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก

 

มูลนิธิสืบนาคะเสถียรชวนอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นฉบับเต็มในคดีล่าสัตว์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก สรุปบทลงโทษ และขั้นตอนรวมถึงประเด็นสำคัญที่มีการยื่นอุทธรณ์ในคดีล่าสัตว์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก

 


เรียบเรียง อรยุพา สังขะมาน หัวหน้าฝ่ายวิชาการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร