11
เอาเขื่อนหรือเปล่า ?

ล่วงเข้าเวลาเย็นฝ่ายข่าวของเราแจ้งว่ามีแผ่นป้ายไวนิลสนับสนุนการสร้างเขื่อนแม่วงก์ขึงอยู่เหนือถนนลาดยาวต้อนรับเราอยู่แล้วหลายแผ่น ขณะเดียวกันพวกเราก็พบป้ายกระดาษลังสีน้ำตาลเขียนข้อความโจมตีขบวนการคัดค้านเขื่อนแม่วงก์ของเราอยู่ตามต้นไม้ริมถนน พร้อมๆ กับข่าวจากนายอำเภอที่ไม่ยินดีให้พวกเราเข้าพักในเมืองคืนนี้ ที่พักทั้งหมดที่ติดต่อไว้ถูกยกเลิก หลายครั้งที่ดูเหมือนว่ามีวัดที่รอบๆ เมืองให้เราไปอาศัยนอน แต่สุดท้ายก็ได้ข่าวว่ามีผู้บริหารระดับท้องถิ่นเข้าไปสกัดกั้นการอนุญาตเข้าพักของวัดทั้งหมด

ยิ่งใกล้เมืองมากเท่าไหร่ ผมระงับความตื่นเต้น วิตกกังวล ไม่แสดงออกให้ใครเห็น และไม่พยายามออกความเห็นใดๆ มากไปกว่าการทำหน้าที่ของตัวเองคือการเดินเซฟพลังงาน และโทรศัพท์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิทยุและทีวีดาวเทียมในกรุงเทพฯ ปล่อยปัญหาการเผชิญหน้าระหว่างแนวคิดการพัฒนากับการทักท้วงเพื่ออนุรักษ์ป่าเป็นหน้าที่ของทีมงาน

ในความเป็นจริงแล้ววันนั้น ตัวผมก็วิตกกังวลไปต่างๆ นานา ภาพที่กลัวที่สุดของผมไม่ใช่ขบวนผู้เห็นต่างที่รอสั่งสอนเราที่เทศบาล แต่จินตนาการเป็นคนทั้งตลาดออกมาหน้าบ้านรวมตัวด่าทอขับไล่…

ข่าวที่สร้างความประหลาดใจให้พวกเราเมื่อใกล้ค่ำก็คือ ไม่พบกลุ่มคนผู้สนับสนุนเขื่อนรอคอยเราอยู่ที่เทศบาลแต่อย่างไร และเมื่อทีมงานขับรถสำรวจทั่วทั้งเขตอำเภอก็ไม่พบกลุ่มคนที่จะรอต้อนรับเราด้วยความขัดแย้ง ขบวนของเราเข้าเขตเทศบาลเกือบสองทุ่ม แสงไฟถนนส่องให้เห็นป้ายผ้าที่สนับสนุนเขื่อนแม่วงก์อยู่เต็มเมือง 

แต่ด่านแรกของชุมชนลาดยาวที่เราเจอกลับเป็นน้ำยาอุทัยทิพย์เย็นๆ ที่มาต้อนรับให้หายเหนื่อยจากชาวบ้านในตลาด

แว่บหนึ่ง ผมคิดว่าอาจเป็นแผนให้กินน้ำผสมยาถ่ายหรือยาพิษ แต่ถึงเวลานั้นก็วัดใจกัน ผมดื่มน้ำเย็นหมดแก้วจับมือขอบคุณผู้มาให้กำลังใจแล้วเดินต่อมา มีเสียงโวยวายจากตึกแถวว่า “เป็นเอ็นจีโอหรือเปล่า ทีค้านเขื่อนละมาจัง ทีน้ำท่วมไม่เคยเห็นมาช่วย” พวกเราหันไปมองคำพูดอย่างจริงใจของชายในตลาดลาดยาววันนั้น ไม่มีใครสื่อสารใดๆ ตอบโต้ยกเว้นสื่อมวลชนจากเคเบิ้ลทีวีนครสวรรค์ที่ได้ช็อตเด็ดนั้นไป 

ตลอดเส้นทางผมแวะดื่มน้ำจากชาวตลาดเทศบาลที่ออกมาให้กำลังใจพวกเราจนอิ่มจุก ทั้งจากปริมาณน้ำที่ต้องกิน เพราะกลัวเสียน้ำใจ และความจุกอกในความปลื้มใจระคนสนเท่ว่าเหตุใดไม่มีฝ่ายตรงข้าม

ที่สามแยกไฟแดงหน้าอำเภอลาดยาว มอเตอร์ไซค์ของชายคนหนึ่งหยุดกึกที่หน้าขบวน ซึ่งขณะนั้นอาจารย์ณรงค์กลับมาทำหน้าที่ผู้นำข้ามถนนที่สี่แยกไฟแดงกลางเทศบาล แล้วหันมาตะคอกถามขบวนของเราว่า

“เอาเขื่อนหรือเปล่า ?”

ผมเดินอยู่กลางขบวนที่น่าจะมากกว่าสามสิบคนในวันที่สองนี้ ทั้งขบวนเงียบไปราวอึดใจ ที่ดูนานนักกว่าที่เราจะได้ยินเสียงอาจารย์ณรงค์ตะโกนตอบเสียงดังฟังชัดว่า 

“ไม่เอา“

ทุกคนผิดคาดที่ได้ยินเสียงหนุ่มมอเตอร์ไซคนนั้นตะโกนกลับมาว่า “ผมก็ไม่เอาเหมือนกัน” พร้อมชูนิ้วหัวแม่โป้งให้ก่อนแว๊นมอเตอร์ไซต์หายไป

นั่นเป็นเหตุการณ์ที่สร้างเสียงเฮลั่นให้กับผู้ร่วมขบวนทุกคน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือภาพและเสียงที่จะประทับใจผู้ร่วมเหตุการณ์วันนั้นไปอีกนานเท่านาน 

ค่ำคืนนั้นพี่กิ้นตัดสิ้นใจประสานครือข่ายประชาสังคมในจังหวัดอุทัยธานีหาที่นอนให้พวกเราได้เป็นโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอสว่างอารมณ์นอกพื้นที่อำเภอลาดยาว

เรานั่งรถออกจากใจกลางอำเภอลาดยาวแล้วนัดหมายว่าพรุ่งนี้จะกลับมาเริ่มเดินจากหน้าอำเภอลาดยาวเหมือนอย่างเมื่อวาน

เย็นวันนั้นทีมสตาฟ เรียกประชุมอย่างเป็นทางการกันเป็นครั้งแรก บางคนมีเรื่องขัดข้องของการประสานงานมาเคลียร์กัน ผมเองแอบวิตกกังวลว่าทีมจะไปรอดไหม เพราะแม้แต่ในทีมมูลนิธิสืบฯ ด้วยกันยังมีปัญหาที่ประสานงานกระทบกระทั่งกันอยู่บ้าง อย่างว่าแต่มีคนนอกเขามาร่วมเดินกันหลายคน

ผมนั่งฟังเขาคุยกันอยู่วงนอก ก็นึกถึงคำที่ผมเคยรับปากกับสตาฟไว้ก่อนเดินว่า ถ้าจะเดินด้วยกันผมต้องไว้ใจพวกเขา หน้าที่ของผมคือเดิน หน้าที่ของพวกเขาคือจัดกาพาผมไปให้ถึงกรุงเทพฯ

เราพูดกันมาว่า “ผมต้องเป็นตีน พวกเขาจะเป็นสมอง” เมื่อคิดได้แบบนี้สิ่งที่ผมรู้ว่าควรทำคือหลบไปนอน

ปล่อยให้ทีมงานเขาทำหน้าที่สมองของเขากันไป

ผมเชื่อใจทีมงานอยู่แล้ว ดังนั้นด้วยความเหนื่อยล้า ผมหลับเป็นตาย โดยไม่มีอาการเจ็บปวดขาอะไรเลย

10 ปี เดินเท้าคัดค้าน EHIA โครงการเขื่อนแม่วงก์

ร่วมรักษาป่าใหญ่และสิ่งแวดล้อมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร

สแกนผ่านระบบ Mobile Banking