
ในการทำงานเรื่อง ‘ป่ากันชน’ หรือ ‘ครอบครัวห้วยขาแข้ง’ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ตั้งโจทย์การทำงานผ่านการศึกษาวิเคราะห์ชุมชนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่รอบๆ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ผ่านกิจกรรมลงพื้นที่เก็บข้อมูลกว่า 40 ชุมชน ตลอดแนวกันชนจากเหนือจรดใต้
กิจกรรมดังกล่าวตรงกับข้อ 2 ในเรื่องแนวทางการทำงาน ว่าด้วยเรื่องการจัดทำข้อมูล สถานภาพพื้นที่แนวกันชน หน่วยงานที่ดูแลในปัจจุบัน ตลอดจนข้อมูลป่าชุมชน สถานการณ์และภัยคุกคามบริเวณแนวกันชน ปัญหาสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ ตัวอย่างกลุ่มอาชีพที่เป็นมิตรกับผืนป่า เพื่อนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอแนวทางความร่วมมือการทำงานบริเวณป่ากันชน
ผลจากการเก็บข้อมูลวิเคราะห์ชุมชนได้เกิดรูปแบบจัดการในมุมมองเชิงพื้นที่ ที่สามารถแบ่งออกมาได้เป็น 6 โซน พร้อมเพิ่มมิติการจัดการตามประเด็นปัญหา ความต้องการ ตลอดจนสิ่งที่ยังขาด และออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับโซนพื้นที่นั้นๆ

โซน 1 : การจัดการเรื่องถิ่นที่อยู่ใหม่ของสัตว์ป่า
พื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงาน จำนวน 6 ชุมชน ประกอบด้วย พื้นที่ บ้านสวนป่า บ้านปางสัก บ้านแม่กะสี บ้านคลองห้วยหวาย บ้านเขาแหลม บ้านเขามะตูม ตำบลแม่เปิน อำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์
ทั้ง 6 ชุมชน ในโซนที่ 1 มีการใช้ประโยชน์ จากทรัพยากรในป่าชุมชน และบางส่วน เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ทั้งจากคนภายในชุมชนเอง และจากคนภายนอกชุมชน ในอำเภอแม่เปิน จากอำเภออื่นๆ ในจังหวัดนครสวรรค์ และ จากจังหวัดใกล้เคียง
ทั้ง 6 ชุมชน มีป่าชุมชนเป็นของตัวเอง บ้านแม่กะสี มีป่าชุมชนแต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนป่าชุมชน มีคณะกรรมการรร่วมดูแลรักษาทรัพยากรของทุกหมู่บ้าน มีการขับเคลื่อนงานป่าชุมชนผ่านเครือข่าย ป่าชุมชน มีปัญหา เรื่องการปรับเปลี่ยน ตัวคณะกรรมการป่าชุมชน
ปัจจุบันมี ช้าง ลิง วัวแดง หมูป่า จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง กระจายตัวเข้าไปในพื้นที่ป่าชุมชน พื้นที่ใช้ประโยชน์ชุมชน ในพื้นที่ บ้านเขาแหลม บ้านเขามะตูม บ้านสวนป่า บ้านแม่กะสี บ้านปางสัก และบ้านคลองห้วยหวาย มีการสร้างรั้วกันช้าง บริเวณรอยต่อของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ซึ่งปัจจุบัน บางส่วนชำรุด
มีเพียง บ้านเขามะตูม หมู่บ้านเดียว ที่อยู่ ในเครือข่ายเฝ้าระวังสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ โดยการสนับสนุน ผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
กิจกรรม
- ประชุมจัดทำแผนเรื่องการกระจายอำนาจกับท้องถิ่นในประเด็นการช่วยเหลือผู้ได้รับผลการทบจากสัตว์ป่าและการจัดการไฟป่า
- งานสำรวจข้อมูลสัตว์ป่า
- การอบรมพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ในเก็บข้อมูลสัตว์ป่า
- สนับสนุนอุปกรณ์สำหรับเก็บข้อมูลสัตว์ป่า
- ติดตามและสนับสนุนการเดินสำรวจข้อมูลสัตว์ป่า

โซน 2 : ประตูสู่ห้วยขาแข้ง ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ ทางด้านทรัพยากรสัตว์ป่าและทรัพยากรอื่นๆ
พื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงาน จำนวน 5 ชุมชน ประกอบไปด้วย บ้านเขาเขียว บ้านไผ่งาม บ้านบึงเจริญ บ้านอ่างห้วยดง บ้านโป่งมะค่า ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
ในพื้นที่ชุมชนเป้าหมาย โซนที่ 2 ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น การปลูกข้าวโพด มันสำปะหลัง ถั่วเขียว และบางส่วนประกอบอาชีพ เสริมโดยการทำประมง อ่างเก็บน้ำห้วยทับเสลา เป็นพื้นที่ประชิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ของ ทรัพยากรสัตว์ป่า เป็นอย่างมาก
สถานภาพที่ดิน บ้านเขาเขียว มีพื้นที่ทำกิน จำนวน 76 ไร่ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ส่วนหมู่บ้านอื่นๆ มีสถานะที่ดินเป็น ที่ดิน คทช. และ สปก.
ในพื้นที่ชุมชนเป้าหมาย โซนที่ 2 จำนวน 4 ชุมชน มีป่าชุมชนเป็นของตนเอง การขึ้นทะเบียนป่าชุมชน มีบางหมู่บ้านที่มีความต้องการเพิ่มพื้นที่ป่าชุมชน มีคณะกรรมการป่าชุมชนร่วมดูแลรักษาทรัพยากรของทุกหมู่บ้าน ซึ่งในปัจจุบัน ยังมีการขับเคลื่อนทำงาน ดูแลรักษาป่าร่วมกันอยู่ บ้านเขาเขียวมีการตั้งด่าน ตอนปิดป่าชุมชน พื้นที่ป่าชุมชนในโซนนี้ เป็นพื้นที่เป้าหมาย ในการเก็บหาของป่า ของราษฎรต่างหมู่บ้าน ต่างตำบล ต่างอำเภอ และต่างจังหวัด มีเครือข่ายป่าชุมชนแต่ไม่ได้มีขับเคลื่อนการทำงานมานานแล้ว
ป่าชุมชนบ้านเขาเขียว ป่าชุมชนบ้านไผ่งาม ป่าชุมชนบ้านอ่างห้วยดง มีการขับเคลื่อนเรื่องคาร์บอนเครดิต ร่วมกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
นอกจากการใช้ประโยชน์ในการเก็บหาทรัพยากรในป่าชุมชนแล้ว ยังมีบางส่วน ที่เขาไปเก็บหาของป่า ในพื้นที่แนวรั้วลวดหนามของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งในอดีต เคยทำข้อตกลง กติกา ไว้กับเครือข่ายชุมชน มีสัญลักษณ์แสดง แนวเขต ที่ชัดเจน
การจัดทำเส้นทางตรวจการ และแนวรั้วลวดหนามของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง การจัดทำเส้นทางตรวจการทำให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้าน ชาวบ้านก็มีการไถที่เลยเข้าไปในเส้นทางตรวจการ
ในพื้นที่โซนนี้ มีสัตว์ป่าออกมาหลากหลายชนิดและเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ช้าง วัวแดง กวาง หมูป่า และลิง ซึ่งปัจจุบันได้สร้างปัญหาให้กับชุมชนโซนนี้เป็นอย่างมาก เสือโคร่ง ก็มีการ เข้ามาในพื้นที่ชุมชนเป็นบางครั้ง
มีเครือข่ายเฝ้าระวังสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ทั้งหมู่บ้าน ได้แก่ บ้านเขาเขียว บ้านไผ่งาม บ้านบึงเจริญ บ้านอ้างห้วยดง บ้านโป่งมะค่า ซึ่งได้รับงบประมาณในการสนับสนุนการทำงานจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อลดผลกระทบ จากสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่
ปัจจุบัน ในโซนนี้ มีเรื่องการจัดตั้ง กลุ่มท่องเที่ยวสัตว์ป่าตำบลระบำ มีการปรับเปลี่ยนอาชีพ ปรับเปลี่ยนพืชเพื่อลดผลกระทบจากสัตว์ป่านอกพื้นที่ โดยการหันมาทำกลุ่มสมุนไพร อินทรีย์
กิจกรรม
- เวทีประชุมเครือข่าย ป่าชุมชน และให้ความรู้เรื่องการจัดการทรัพยากร
- ปรับปรุงแผนการจัดการป่าชุมชน 2 บ้าน
- การลาดตระเวนร่วมดูแลป้องกันทรัพยากรในป่าชุมชนและสนับสนุนเสบียง สำหรับเครือข่ายผลักดันสัตว์ป่า 4 ชุมชน
- ป้ายประชาสัมพันธ์การใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน

โซน 3 : การสร้างความร่วมมือ ในการจัดการทรัพยากรสัตว์ป่าและทรัพยากรอื่นๆ
พื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงาน จำนวน 11 ชุมชน ประกอบไปด้วย บ้านเขาไม้นวล บ้านโป่งสามสิบ บ้านคีรีวง บ้านทรัพย์สมบูรณ์ ตำบลระบำ บ้านซับป่าพลูใหม บ้านเขาไม้นวน บ้านคลองชะนีบน ตำบลป่าอ้อ อำเภอลานสัก บ้านอีซ่า บ้านห้วยร่วม บ้านคลองเคียน บ้านไซเบอร์ ตำบลทองหลาง อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี
ในพื้นที่ชุมชนเป้าหมาย โซนที่ 3 ชาวบ้านส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น การปลูกข้าวโพด มันสำปะหลัง สัปปะรด และบางส่วนประกอบอาชีพ ทำสวน ทุเรียน ทั้งหมดเป็นพื้นที่ ที่อยู่ประชิด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ของ ทรัพยากรสัตว์ป่า เป็นอย่างมาก
สถานภาพที่ดิน บ้านเขาไม้นวล บ้านโป่งสามสิบ บ้านคีรีวง บ้านทรัพย์สมบูรณ์ ตำบลระบำ บ้านซับป่าพลูใหม บ้านเขาไม้นวน บ้านคลองชะนีบน ตำบลป่าอ้อ พื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. มีพื้นที่ คทช.บ้างเล็กน้อย บ้านอีซ่า บ้านห้วยร่วม บ้านคลองเคียน บ้านไซเบอร์ ตำบลทองหลาง อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่คทช. บางส่วน มีการทับซ้อนกับสวนป่า
ในพื้นที่ชุมชนเป้าหมาย โซนที่ 3 ชุมชน ในพื้นที่อำเภอลานสัก รวมถึงบ้านห้วยร่วม มีป่าชุมชนเป็นของตนเอง การขึ้นทะเบียนป่าชุมชน มีคณะกรรมการป่าชุมชนร่วมดูแลรักษาทรัพยากรของทุกหมู่บ้าน ซึ่งในปัจจุบันยังมีการขับเคลื่อนทำงาน ดูแลรักษาป่าร่วมกันอยู่ ถึงแม้ว่าบางชุมชนจะมีป่าชุมชนขนาดเล็ก ส่วนชุมชน อีซ่า คลองเคียน ไซเบอร์ มีความพยายามที่จะจัดทำป่าชุมชน แต่ยังไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน แต่อย่างใด
เนื่องจาก พื้นที่โซนนี้ มีป่าชุมชน ที่มีขนาดเล็ก ทำให้การใช้ประโยชน์ ในการเก็บหาทรัพยากรจากป่าส่วนใหญ่จะเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ แนวรั้วลวดหนาม เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งในอดีต เคยทำข้อตกลง กติกา ไว้กับเครือข่ายชุมชน มีสัญลักษณ์แสดง แนวเขต ที่ชัดเจน
นอกจากคนในพื้นที่ ที่เข้าไปใช้ประโยชน์ในการเก็บหาทรัพยากรจากป่าแล้ว ยังมีบุคคล จากต่างหมู่บ้านต่างตำบลต่างอำเภอต่างจังหวัด เข้ามาใช้ประโยชน์ ในพื้นที่โซนนี้ ซึ่งคนส่วนใหญ่เหล่านั้น จะไม่ทราบข้อตกลง กติกาแนวทางปฏิบัติ
ในพื้นที่โซนนี้ สัตว์ป่าที่ออกมานอก พื้นที่เขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ส่วนใหญ่จะเป็น ช่าง ว่าง และหมู่ป่า
ทุกหมู่บ้านในโซนนี้ มีการจัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ ซึ่งได้รับงบประมาณในการสนับสนุนการทำงานจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
กิจกรรม
- การจัดเวทีประชุมเครือข่ายและให้ความรู้เรื่องการจัดการทรัพยากร
- การลาดตระเวนร่วมดูแลป้องกันทรัพยากรในป่าชุมชน
- สนับสนุน เสบียงเครือข่ายผลักดันสัตว์ป่า
- ป้ายประชาสัมพันธ์การใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน
- ประสานอำเภอเพื่อขอความร่วมมือให้ท้องถิ่นควบคุมดูแลการใช้ทรัพยากรจากป่าชุมชน

โซน 4 : การจัดการทรัพยากรโดยชุมชน ในพื้นที่ป่าชุมชน และพื้นที่ใช้ประโยชน์ชุมชน
พื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงาน จำนวน 7 ชุมชน ประกอบไปด้วย บ้านกระแหน่ บ้านดง บ้านน้อย บ้านเจดีย์ บ้านน้ำพุ บ้านปางสวรรค์ ตำบลคอกควาย และบ้านใหม่ร่มเย็น ตำบลเจ้าวัด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
ตำบลคอกควาย ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร (มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยางพารา ทุเรียน) พื้นที่มีความสมบูรณ์ของทรัพยากรสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ เช่น น้ำตกผาสวรรค์ อ่างเก็บน้ำท่ากวย มีถ้ำที่ยังไม่ถูกพัฒนา มีรีสอร์ทที่รองรับนักท่องเที่ยว
สถานภาพพื้นที่ทีหลายประเภทได้แก่ คทช. ส.ป.ก. นส.3 โฉนดที่ดิน พื้นที่ทหารขอใช้ประโยชน์ ซึ่งปัจจุบันมีการเปลี่ยนมือของที่ดิน ซึ่งไม่ส่งผลกระทบกับห้วยขาแข้ง เพราะเป็นการใช้ความสมบูรณ์ของทรัพยากรเป็นจุดขาย
7 ชุมชน มีป่าชุมชนเป็นของตนเอง การขึ้นทะเบียนป่าชุมชน มีบางหมู่บ้านที่มีความต้องการเพิ่มพื้นที่ป่าชุมชน มีคณะกรรมการรร่วมดูแลรักษาทรัพยากรของทุกหมู่บ้าน มีบางหมู่บ้านที่มีจำนวนพื้นที่ป่าชุมชนน้อยการใช้ทรัพยากรไม่เพียงพอ มีการตั้งด่านเพื่อตรวจสอบการเข้ามาเก็บหาทรัพยากรจากคนต่างพื้นที่ (นครสวรรค์ ชัยนาท) มีเครือข่ายป่าชุมชนแต่ไม่ได้มีขับเคลื่อนการทำงานมานานแล้ว
การเข้าไปเก็บหาทรัพยากรภายในแนวรั้วของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง มีข้อตกลงของช่วงระยะเวลาในการเก็บหา เจ้าหน้าที่และชุมชนขาดการประชุมหารือเพื่อวางแผนการใช้ทรัพยากร นำไปสู่ความเข้าใจไม่ตรงกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวบ้าน ในช่วงของการเก็บหามีการเข้าไปเก็บหาของชาวบ้านเป็นจำนวนมาก เช่น การเก็บหาหน่อไม้คาดว่ามีการเก็บหาเฉลี่ยวันละ 50 ตัน
การจัดทำเส้นทางตรวจการ และแนวรั้วลวดหนามของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง การจัดทำเส้นทางตรวจการทำให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้าน ชาวบ้านก็มีการไถที่เลยเข้าไปในเส้นทางตรวจการ
มีเครือข่ายเฝ้าระวังสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านกระแหน่ บ้านน้ำพุ บ้านเจดีย์ บ้านดง และมีเครือข่ายเฝ้าระวังไฟป่า 2 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านดง บ้านปางสวรรค์ ซึ่งได้รับงบประมาณในการสนับสนุนการทำงานจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
บริเวณอ่างเก็บน้ำท่ากวยมีสัตว์ป่าออกมาอย่างชุกชุม สัตว์ป่าที่ออกมาทำลายพืชผลทางการเกษตร ได้แก่ หมูป่า ลิง ช้าง
กิจกรรม
- ประชุมทำความเข้าใจการร่วมดูแลรักษาทรัพยากร
- ลาดตระเวนร่วมป่าชุมชนและพื้นที่ใช้ประโยชน์ในแนวรั้วร่วมกับหน่วย อน.3 หนองปรือ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
- ประชุมร่วมกับทหารบริเวณพื้นที่อ่างท่ากรวย
- สื่อสารงานเวทีครอบครัวห้วยขาแข้ง

โซน 5 : การรักษา พื้นที่ต้นน้ำห้วยแม่ดีน้อย
พื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงาน จำนวน 5 ชุมชน ประกอบไปด้วย บ้านอีมาดอีทราย บ้านเจ้าวัด บ้านใหม่คลองอังวะ บ้าน ใต้ บ้านคลองเสลา จังหวัดอุทัยธานี
ในพื้นที่ชุมชนเป้าหมาย โซนที่ 5 ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น การปลูกข้าวไร่ การปลูกข้าวโพด มีการส่งเสริมการ ทำอาชีพเกษตร โดยโครงการปิดทองหลังพระ โดยการสนับสนุนให้เกษตรกร ปลูกไผ่ ทำสวนผสมผสาน เช่น ส้มโอ อะโวคาโด
พื้นที่ป่ามอตาจ่อย ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ และเป็นพื้นที่ต้นน้ำ ของลำห้วยแม่ดีน้อย ซึ่งไหลเข้าสู่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ไปรวมกับลำขาแข้ง ที่หน่วย พิทักษ์ป่าเขาบันได ก่อนจะไหลลงสู่ เขื่อนศรีนครินทร์
ในพื้นที่ชุมชนเป้าหมาย โซนที่ 5 บ้านใหม่คลองอังวะ บ้าน ใต้ และบ้านคลองเสลา 3 ชุมชน มีป่าชุมชนเป็นของตนเอง การขึ้นทะเบียนป่าชุมชน มีคณะกรรมการป่าชุมชนร่วมดูแลรักษาทรัพยากรของทุกหมู่บ้าน ซึ่งในปัจจุบัน นานๆ ที จะมีการขับเคลื่อนทำงาน ดูแลรักษาป่าร่วมกันอยู่ สวนบ้านอีมาดอีทราย มีการกำหนด พื้นที่ป่ามอตาจ่อย และพื้นที่ป่า บ้านเจ้าวัด เป็นพื้นที่ป่าชุมชน แต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน เนื่องจากในอดีต ติดสถานะ อยู่ในพื้นที่ทหารขอใช้ประโยชน์
การใช้ทรัพยากรจากป่า ชุมชนบ้านอีมาดอีทราย ส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์ทรัพยากร จากบริเวณป่ารอยต่อ ระหว่างบ้าน อีมาด กับบ้านพุบอน
การใช้ประโยชน์ เรื่องการเก็บเห็ด เช่นเห็ดเผาะ เห็ดโคน ชาวบ้านส่วนใหญ่ เข้าไปใช้ประโยชน์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งในอดีต เคยทำข้อตกลง กติกา ไว้กับเครือข่ายชุมชน แต่ในปัจจุบัน ไม่ค่อยมีความร่วมมือ ในเรื่องการควบคุม การปฏิบัติตามกติกาจากชุมชน
ในพื้นที่โซนนี้ นานๆ ครั้งถึงจะมีสัตว์ป่า ออกมารบกวนพืชผลทางการเกษตรของชุมชน เช่นช้าง เสือโคร่ง หมูป่า วัวแดง

โซน 6 : พื้นที่ฟื้นฟูประชากรควายป่า
ควายป่าเป็นสัตว์ที่ถูกพูดถึงกันมานานมากว่าเราเหลือประชากรหลักกลุ่มสุดท้ายอยู่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เราต้องให้ความสำคัญ ต้องคุ้มครองดูแล แต่ที่ผ่านมากลับไม่ค่อยมีโครงการหรือกิจกรรมเฉพาะในการอนุรักษ์ควายป่าในพื้นที่บริเวณนั้นเลย ในด้านหนึ่งผืนป่าห้วยขาแข้งคือพื้นที่คุ้มครองที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่สำหรับควายป่าที่มีประชากรเหลืออยู่ไม่ถึง 100 ตัว มันจำเป็นต้องมีมาตรการโครงการหรือกิจกรรมคุ้มครองประชากรที่เหลืออยู่ให้มากขึ้น มูลนิธิสืบฯ จึงสนใจทำโครงการฟื้นฟูประชากรควายป่าและถิ่นที่อยู่อาศัยในประเทศไทยขึ้น โดยได้พัฒนาโครงการร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อเข้าไปทำงานในพื้นที่อย่างเข้มข้น
ปีที่ผ่านมา มูลนิธิสืบฯ ร่วมกับกลุ่มงานวิชาการของสำนักบริหารจัดการพื้นที่ 12 นครสวรรค์ เข้าไปประเมินประชากรในพื้นที่โดยการตั้งกล้องดักถ่ายภาพ เพื่อตรวจดูประชากรว่ามีอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่ รวมถึงการศึกษาเรื่องถิ่นอาศัย และแหล่งอาหารของควายป่า ศึกษาศักยภาพพื้นที่ว่ามีความเหมาะสมต่อการรองรับประชากรได้แค่ไหน ถ้าเรามีโอกาสไปฟื้นฟูพื้นที่อื่นๆ ที่มีความเหมาะสม เราควรวางแผนการบริหารพื้นที่อย่างไร เนื่องจากเราคาดหวังถึงการพัฒนาศักยภาพพื้นที่อื่นๆ ที่มีศักยภาพในการรองรับควายป่า เพื่อให้ควายป่าได้มีโอกาสกระจายประชากรไปอยู่ในจุดอื่นๆ ไม่จำกัดอยู่เฉพาะตอนล่างของห้วยขาแข้ง และเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
ในระยะยาว บทบาทหนึ่งของมูลนิธิสืบฯ คือ การดึงประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์คุ้มครองดูแล เราไม่ได้มองว่าการคุ้มครองดูแลพื้นที่เป็นภารกิจของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าหรือของหน่วยงานที่ดูแลตามกฎหมายเท่านั้น แต่ประชาชนควรมีโอกาสร่วมกันดูแล และอีกสิ่งที่สำคัญ จะทำอย่างไรให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์ในระยะยาวอย่างยั่งยืน เป็นอีกเรื่องที่ท้าทายการทำงานในอนาคต
