สัตว์ชนิดใดมีโอกาสสูญพันธุ์เพราะสภาวะโลกร้อน

สัตว์ชนิดใดมีโอกาสสูญพันธุ์เพราะสภาวะโลกร้อน

หนึ่งในหกของสปีชีส์ทั้งหมดอาจหายไปจากโลกภายในหนึ่งศตวรรษหน้าเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การศึกษาล่าสุดพบว่าสัตว์และพืชในทวีปอเมริกาใต้มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์สูงที่สุด ขณะที่ทวีปอเมริกาเหนือจะมีความเสี่ยงต่ำที่สุด

เนื่องจากมีปริมาณประชากรตามธรรมชาติในป่าดิบชื้นปริมาณไม่มาก ทำให้ทวีปอเมริกาใต้อาจพบอัตราการสูญพันธุ์สูงถึงสี่เท่าหากเปรียบเทียบกับทวีปอเมริกาเหนือ ในขณะที่ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ อัตราส่วนในการสูญพันธุ์อาจสูงเป็นสองเท่าเทียบกับทวีปอเมริกาเหนือ เนื่องจากสัตว์และพืชถูกจำกัดการโยกย้ายถิ่นฐานเพราะโดนล้อมด้วยมหาสมุทร

“หลักฐานดังกล่าวยืนยันว่า เรากำลังผลักโลกให้เข้าสู่ยุคที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หรืออาจจะเคยมีเมื่อนานแสนนานมาแล้ว” Janneke Hille Ris Lambers ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านชีววิทยา มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เขียนแสดงความคิดเห็นถึงผลวิจัยข้างต้น

นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากได้พยายามที่จะคำนวณว่าสัตว์และพืชจากพื้นที่ใดที่จะสูญพันธุ์ไปเนื่องจากความเลวร้ายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2556 คาดการณ์ว่า ปลาน้ำจืดในรัฐแคลิฟอร์เนียจะลดจำนวนลงร้อยละ 82 เนื่องจากสภาวะโลกร้อน

Mark Urban ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านนิเวศวิทยา มหาวิทยาลัยคอนเนคติคัท พบว่ามีการศึกษาหลายชิ้นที่ใช้วิธีการวิจัยหลายรูปแบบ เพื่อศึกษาผลลัพธ์ที่ตรงกับสิ่งที่พวกเขาคาดการณ์ “มันขึ้นกับว่าคุณอ่านการศึกษาเรื่องใด ซึ่งงานชิ้นนั้นอาจให้ผลสรุปที่มองโลกในแง่ดีเกินไป หรือมองโลกในแง่ร้ายเกินไป”

ในความพยายามที่จะแยกแยะงานวิจัยหลายชิ้น Mark Urban ได้ทำการทบทวนงานวิจัย 131 ชิ้นที่เกี่ยวข้องกับการสูญพันธุ์ และใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์และวิธีการทางสถิติกับข้อมูลทั้งหมด เพื่อใช้ในการประมาณการในระดับโลก

“การทำเช่นนี้ เหมือนกับเราได้เข้าไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ 131 คนว่า ‘คุณคิดว่าในอนาคตจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นภายใต้การคาดเดาที่ดีที่สุด’” ซึ่งการกระทำดังกล่าว Janneke Hille Ris Lambers มองว่าเป็นเรื่องที่ “มีคุณค่า”

Mark Urban พบว่า ยิ่งมนุษยชาติทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเร็วมากเท่าไร อัตราการสูญพันธุ์ก็จะยิ่งเร็วมากขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น การจำกัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็นเป้าหมายร่วมกันของผู้นำหลายประเทศที่มุ่งมั่นจะทำให้สำเร็จ ณ สถานการณ์ดังกล่าวจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ราว 2 เท่า

แถวบน จากซ้าย Yellow-footed Rock-wallaby, Golden-shouldered Parrot แถวล่าง จากซ้าย Lumholtz Tree-kangaroo, Tuatara

 

ปัจจุบัน ชนิดพันธุ์ราวร้อยละ 2.8 ทั่วโลกกำลังอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการถูกทำให้หายไปจากโลก อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 2 องศาเซลเซียสจะทำให้อัตราการสูญพันธุ์เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5.2 แต่หากอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้น 4.3 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน โดยไม่มีการลดการใช้พลังงานฟอสซิลอย่างมหาศาล อัตราการสูญพันธุ์จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 16 หรือคิดง่ายๆ ว่า ทุกๆ 6 ชนิดพันธุ์บนโลก จะมี 1 ชนิดพันธุ์ที่สูญพันธุ์

ในบางพื้นที่จะประสบกับความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากกว่าพื้นที่อื่น เนื่องจากพื้นที่เหล่านั้นมีชนิดพันธุ์เฉพาะถิ่น (Endemic species) ซึ่งหมายถึงพืชหรือสัตว์ที่ไม่พบในบริเวณอื่น รวมถึงพื้นที่อยู่อาศัยที่ขนาดไม่ใหญ่นัก

นั่นคือเหตุผลที่ทำไมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เริ่มส่งผลกระทบต่อประชากรสัตว์บางชนิด เช่น นกมานาคินหงอนเหลือง และนกมานาคินหลังดำ (Yellow-crested and blue-backed manakins) ในทวีปอเมริกาใต้ ตัวตารา (Tuatara) สัตว์เลื้อยคลานที่ตัวเมียจะออกไข่เมื่อรังมีอุณหภูมิต่ำ การที่อุณหภูมิสูงขึ้นนั้นส่งผลโดยตรงต่อประชากรของสัตว์เหล่านี้


ถอดความจาก What Animals Are Likely to Go Extinct First Due to Climate Change  โดย Craig Welch  เข้าถึงได้ที่ http://news.nationalgeographic.com/2015/04/150430-extinction-climate-warming-animals-species-conservation-wildlife/
ถอดความโดย รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์