ความยากของงานอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19

ความยากของงานอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19

เนื่องจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส – ตลาดค้าสัตว์ป่าที่เคยคึกคักในประเทศจีนได้ปิดตัวลงชั่วคราว ขณะเดียวกันมลพิษในเมืองใหญ่ทั่วโลกก็กำลังค่อย ๆ ลดลง นั่นอาจเป็นช่วงเวลาพักสั้น ๆ ของธรรมชาติระหว่างที่ไวรัสกำลังแพร่กระจายในหมู่มนุษย์

แต่ในแอฟริกาทางตะวันออกและทางตอนใต้ ชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ป่ากลับพบความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น บรรดากลุ่มลักลอบล่าสัตว์ยังคงทำงานอย่างไม่หวั่นเกรงสิ่งใด ๆ แม้จะมีประกาศ “ปิดเมือง” ไปแล้วก็ตาม

นักอนุรักษ์ในแอฟริกาได้ออกมาอธิบายกับสื่อมวลชนว่า การปิดร้านและหยุดให้บริการของผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวทำให้พื้นที่อุทยานแห่งชาติมีผู้คนเข้ามาใช้บริการเพียงน้อยนิดหรืออาจไม่มีเลย ซึ่งนั่นกลับกลายเป็นข้อได้เปรียบให้กลุ่มนักล่าสัตว์ได้อาศัยจังหวะที่ปลอดสายตาผู้คนลักลอบเข้าไปในพื้นที่

โดยทั่วไปในแอฟริกา สัตว์ส่วนใหญ่จะถูกล่าเอาอวัยวะบางส่วนและเอาเนื้อไปขาย แต่หากเป็นกลุ่มขบวนการค้าสัตว์ป่า เป้าหมายจะถูกเจาะจงไปที่แรดเป็นส่วนใหญ่ โดยหวังผลไปที่ “นอ” ซึ่งมีมูลค่าสูงในตลาด

ในแอฟริกาใต้ ช่วง ค.ศ. 2008 – 2018 มีแรดถูกล่าอย่างผิดกฎหมายเกือบ 8,000 ตัว หรือคิดเป็น 80% ของจำนวนแรดทั้งหมดในแอฟริกา ปัจจุบัน มีประชากรแรดดำเหลืออยู่เพียง 5,000 ตัว และแรดขาว 18,000 ตัว หากระดับการล่ายังคงดำเนินไปเช่นนี้เรื่อย ๆ แรดทั้งหมดอาจสูญพันธุ์ภายในช่วงชีวิตของเรา

ก่อนปี 2008 รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายว่าจะฟื้นฟูจำนวนประชากรของแรดทั้งสองชนิดให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น เงื่อนไขสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จได้ จำเป็นต้องยุติการล่าลงให้ได้เสียก่อน

แต่การระบาดครั้งใหญ่ของโคโรนาไวรัส กลับทำให้ความพยายามของงานอนุรักษ์เกิดความระส่ำระสาย

ในขณะที่การปิดเมืองได้เริ่มต้นขึ้นในแอฟริกาและบอตสวานา จำนวนการลักลอบล่าแรดกลับเพิ่มสูงขึ้น

นิโค เจคอบส์ นักบินเฮลิคอปเตอร์ของ Rhino 911 องค์กรอนุรักษ์แรดในแอฟริกาใต้ได้เล่าสถานการณ์ให้กับสื่อฟังว่า ตลอด 10 วันที่ผ่านมา ได้ออกไปช่วยเหลือแรดที่ถูกล่ามากถึง 9 ตัว ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 2 แห่ง เขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะช่วยชีวิตพวกมัน แต่ก็ไม่อาจยื้อการลาจากได้สำเร็จ โชคยังดีอยู่บ้างที่ลูกของพวกมันบางตัวไม่โดนฆ่าไปด้วย เขาจึงนำชีวิตน้อย ๆ ไปส่งให้กับสถานีรับเลี้ยงสัตว์ป่ากำพร้าดูแลต่อไป

“ผมทำงานนี้มา 15 ปี แต่ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนที่ทำให้ผมยุ่งเท่าตอนนี้เลย” เขาบอกกับสื่อ “วันนี้ไม่ใช่คืนที่พระจันทร์เต็มดวง แต่ในช่วงคืนวันเพ็ญแรกที่มีประกาศปิดเมือง พวกเราโดนจู่โจมอย่างน่าหวาดกลัวทีเดียว” เขาบอกว่าในคืนที่จันทร์ส่องแสงอร่ามจ้า กลุ่มนักล่าสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฉายส่องนำทาง ซึ่งหมายความว่าบรรดาพรานมีโอกาสเล็ดลอดสายตาของเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน

ลูกแรดกำพร้ากำลังถูกนำไปส่งยังสถานีดูแลสัตว์ป่า เนื่องจากแม่ของมันถูกฆ่าโดยขบวนการลักลอบล่าสัตว์ / PHOTO : Nico Jacobs

ในจังหวัดทางตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกาใต้ ลินน์ แมคทาวิช รู้สึกเข้าตาจนกับการอนุรักษ์แรดในพื้นที่สงวนที่เธอดูแล เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนต้องพร้อมออกทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยรถจิ๊ปและสุนัข แมคทาวิชจะตื่นนอนตอน 4.30 นาฬิกาทุกวัน เพื่อเข้ากะทำงานในส่วนของเธอ เธอตั้งใจจ่ายค่าตอบแทนให้กับทีมงานทั้ง 21 คน แม้จะต้องลดค่าแรงของตัวเองลง 50% หรือหักค่าแรงทั้งหมดของเธอลงเลยก็ตาม

เธอรู้ดีว่าเมื่อใดก็ตามที่เธอไล่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนออก แรดในพื้นที่ที่เธอดูแลจะต้องเผชิญหน้ากับนักล่าอย่างแน่นอน นอกจากนั้น ยังหมายรวมถึงความหิวของเพื่อนบ้านอีก 131 คน ซึ่งเป็นคนในครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ที่ต้องพึ่งพาอาศัยรายได้จากลูกน้องของเธอโดยตรง

อย่างไรก็ตาม ลินน์ แมคทาวิช บอกกับสื่อว่า การยอมแพ้ไม่ใช่ทางที่เธอเลือก

“เรารักแรดของเรา” เธอกล่าว “พวกเขาเกิดที่นี่ เรารู้จักพวกเขาทุกตัวเป็นอย่างดี หากเราหยุดดูแลพวกเขา พวกเขาก็คงไม่สามารถไปอยู่ที่ไหนได้อีก”

การดูแลและป้องกันการล่าแรด ถือเป็นงานที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง งานของแมคทาวิชยังรวมถึงการตัดแต่งนอแรด เธอบอกว่าการตัดนอแรดบางส่วนออกไปช่วยให้แรดมีโอกาสรอดพ้นจากการล่า นอแรดนั้นประกอบด้วยสารที่มีคุณสมบัติชนิดเดียวกับเล็บมือคน ดังนั้น นอแรดจะงอกขึ้นใหม่ แต่นั่นก็หมายความว่าจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับการตัดนอแรดเป็นประจำทุกปี

เจ้าหน้าที่ภายใต้การดูแลของลินน์ แมคทาวิช กำลังฝึกอบรมการลาดตระเวนร่วมกับสุนัข / PHOTO : Catherine Read

ในมุมที่ต่างออกไป ทิม ดาเวนพอร์ท ผู้อำนวยการฝ่ายอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ในแอฟริกา จากสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า อธิบายว่า มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าการระบาดของโคโรนาไวรัสเป็นสาเหตุที่ทำให้แรดในแอฟริกาตายเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ แต่เขาคาดว่าคลื่นของการล่าสัตว์จะเพิ่มมากขึ้นในสัปดาห์ถัดไปหรือในเดือนต่อไป

“พวกกลุ่มลักลอบล่าสัตว์ที่ทำงานเป็นขบวนการมักไม่ส่งพรานเข้าไปในช่วงที่มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อไหร่ที่คนในพื้นที่ลดน้อยลง กิจกรรมที่ผิดกฎหมายจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”

ดาเวนพอร์ท กล่าวว่า การล่าสัตว์ป่าอย่างช้างหรือแรดแตกต่างจากการล่าสัตว์เพื่อนำเนื้อไปบริโภค เพราะจำเป็นต้องมีเงินทุนหนุนหลังอย่างดี ต้องเป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญและมีอาวุธหนักอย่างปืนไรเฟิลเพื่อให้กำจัดสัตว์ขนาดใหญ่อย่างแรดลงได้ รวมถึงยังเชื่อมโยงกับเส้นทางการค้าระหว่างประเทศเพื่อการขนย้ายไปยังประเทศผู้ซื้อ นอกจากนี้ กลุ่มส่วนใหญ่มีความเกี่ยวโยงอย่างซับซ้อนกับการค้าสิ่งผิดกฎหมายอื่น ๆ เช่น ยาเสพติด อาวุธปืน และกลุ่มค้ามนุษย์

จากการสำรวจของสื่อมวลชนพบว่า นักอนุรักษ์ส่วนใหญ่กำลังเป็นกังวลในเรื่องเงินทุน การร่วมสนับสนุนเงินบริจาคเพียงเล็กน้อยก็สามารถก่อให้เกิดผลต่างๆ เช่น เงินจำนวน 12 ดอลลาร์ สามารถเป็นค่าน้ำมันในการขับรถออกไปลาดตระเวนได้ แต่การระดมทุนในระยะยาวก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้การลาดตระเวนสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่สะดุด

องค์กรเอ็นจีโอด้านการอนุรักษ์จำเป็นต้องหันไปพึ่งพิงผู้บริจาครายใหญ่ ทว่าในภาวะที่รายได้จากการท่องเที่ยวขาดหายไป และสภาพเศรษฐกิจกำลังถดถอย ก็อาจทำให้การสนับสนุนในส่วนนี้ขาดหายไป

“เราทำงานต่อต้านกลุ่มที่ตั้งขึ้นเพื่อหากินกับการค้านอแรด” แมพ ไอฟ์ ผู้อำนวยการองค์กรอนุรักษ์แรดบอตสวานา กล่าว “เราไม่สามารถหาทุนได้เหมือนที่เราเคยมี เราต้องการใช้ทุนประมาณหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี เราอาจโชคดีหากเราได้รับเงินสักหนึ่งล้านในตอนนี้ รัฐบาลในแอฟริกาจำเป็นต้องโฟกัสเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถให้เงินทุนช่วยเหลืองานอนุรักษ์ได้ แม้ว่ารายได้ในการพัฒนาเศรษฐกิจจะมาจากการเที่ยวชมสัตว์ป่าก็ตาม เราจึงต้องพึ่งพิงเงินทุนจากภายนอก”

นอกจากนี้ สิ่งที่นักอนุรักษ์ส่วนใหญ่มักกล่าวย้ำว่า การค้านอแรดเกิดจากแรงสนับสนุนของผู้ซื้อที่ร่ำรวยและกลุ่มอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่มีทุนรอนเป็นจำนวนมาก ทว่าอัตราการว่างงานที่เกิดขึ้นก็อาจเป็นเหตุให้ประชาชนธรรมดาผันตัวมาล่าสัตว์เพื่อจุนเจือชีวิตได้เหมือนกัน

ความแห้งแล้งอันมีผลสืบเนื่องเกี่ยวโยงเข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก่อให้เกิดผลกระทบกับสัตว์ป่าและกิจกรรมการท่องเที่ยวในแอฟริกาทางตอนใต้และทางด้านฝั่งตะวันออก และยังนำความทุกข์ยากมาสู่ผู้คนอีกนับล้าน ก็อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การล่าสัตว์มีเพิ่มมากขึ้น

หากการปิดเมืองเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสนำไปสู่การล่าสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้น และความยั่งยืนของรายได้ในระยะยาวจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทั่วโลกยังเป็นเรื่องที่ไม่มีความแน่นอน ประเทศอย่างบอตสวานาที่พัฒนาเศรษฐกิจจากรายได้การท่องเที่ยวจะต้องพยายามอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูต้นทุนในส่วนนี้ การอนุรักษ์สายพันธุ์ที่เปรียบได้กับสัญลักษณ์ของแอฟริกาจึงถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

ดาเวนพอร์ท คาดหวังว่าผู้คนจะเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างการรักษาธรรมชาติและการระบาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และเริ่มให้การสนับสนุนการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น

 


เรื่อง เอกวิทย์ เตระดิษฐ์
ถอดความจาก Why Coronavirus Could Lead to More Rhino Poaching โดย Claire Wordley